ปียานุชเครียดหนัก หลังนอนห้องขัง ไร้เงาญาติเข้าเยี่ยม ขณะที่ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 ยืนยัน ทางการไต้หวันจับคนร้ายได้เพิ่มอีกราย
จากกรณีที่กลุ่มคนร้ายเป็นชายชาวไต้หวัน 4 คน และหญิงไทย 1 คน ก่อเหตุฆาตกรรมชายไต้หวัน ทิ้งร้านค้าร้างย่านสุวรรณภูมิ ก่อนหลบหนีออกนอกประเทศ
ต่อมามีการจับกุมตัว น.ส.ปิยานุช ธรรมรัตน์ หรือ ตาล อายุ 23 ปี เจ้าของรถมาสด้าสีแดง 1 ในผู้ต้องหาได้ที่ประเทศกัมพูชา ตามที่มีการนำเสนอข่าวไปก่อนหน้านี้
วันที่ 28 ก.พ. 67 พล.ต.ท.จิรสันต์ แก้วแสงเอก ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 เปิดเผยว่า วันนี้ได้เดินทางมาติดตามความคืบหน้าของคดี หลังจากได้ตัวผู้ต้องหามา 1 คน ซึ่งขณะนี้ทางพนักงานสอบสวนก็อยู่ระหว่าสอบปากคำ และเร่งตรวจพิสูจน์หลักฐานที่เหลือ
จากพยานหลักฐานที่มีก็แน่นหนาไม่กังวลใดๆ เนื่องจากการสอบปากคำผู้ต้องหาเบื้องต้นก็สอดคล้องกับพยานหลักฐานที่ตำรวจมี สามารถยืนยันได้ว่าจุดเกิดเหตุที่สังหารนั้นอยู่ที่บ้านที่กลุ่มผู้ต้องหาเช่าไว้ ย่านลาดปลาเค้า
แต่ก็ยอมรับว่ากังวลใจ เรื่องการติดตามตัวกลุ่มผู้ต้องหาที่เหลือ ซึ่ง พล.ต.อ.ธนา ชูวงศ์ รอง ผบ.ตร. ก็พยายามประสานเร่งออกหมายจับแดงกับผู้ต้องหาที่เหลือแล้ว และอยู่ระหว่างเร่งสอบปากคำรวบรวมพยานหลักฐานให้ทันส่งฟ้องในวันพรุ่งนี้
ในส่วนประเด็นที่มีกระแสข่าวว่ามีการควบคุมตัว 1 ในผู้ก่อเหตุได้แล้วที่ไต้หวันนั้น ก็ยืนยันว่ามีการรายงานเข้ามาว่าควบคุมตัวได้แล้วจริงจากทางการไต้หวัน แต่ทั้งนี้ขอตรวจสอบให้แน่ชัดก่อน ส่วนยาเสพติดที่พบในที่เกิดเหตุนั้นก็อยู่ระหว่างขยายผล ส่วนผู้ต้องหาจะมีมากกว่านี้หรือไม่นั้นก็อยู่ระหว่างสอบสวน แต่ยังไม่พบหลักฐานความเชื่อมโยง
พล.ต.ท.จิรสันต์ กล่าวต่อว่า ขณะที่ชายไทยเจ้าของรถเก๋งมาสด้าสีแดงเดินทางเข้าให้ปากคำกับพนักงานสอบสวน สภ.ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิว่า รถคันดังกล่าวเป็นของตนจริง ซึ่งตนให้น.ส.ปิยานุชนำไว้ใช้ส่วนตน ไม่มีความเกี่ยวข้องกับคดีแต่อย่างใด ส่วน น.ส.ปียานุชตำรวจยังคงคุมตัวสอบปากคำเพิ่มเติมก่อนรวบรวมสำนวนฝากขังศาลในวันพรุ่งนี้
ขณะที่เจ้าตัวมีท่าทีเคร่งเครียด ยอมรับว่าทานข้าวได้เพียงสามคำ หลังจากที่ตำรวจคุมตัว และนำเข้าห้องขังช่วงค่ำคืนที่ผ่านมา จนกระทั่งล่าสุดยังไม่มีญาติ หรือมารดาเดินทางเข้าติดต่อขอเยี่ยมแต่อย่างใด