รมว.คมนาคม เรียกคุยผู้รับเหมาสร้างถนนพระราม 2 ให้เสร็จตามกำหนด

3 มี.ค. 67

สุริยะ ตกใจ ไม่คิดว่าต้องกลับมาแก้ไขปัญหาถนนพระราม 2 อีก เชื่อ มิ.ย. 68 ทุกอย่างจะแล้วเสร็จ พรุ่งนี้เรียกคุยผู้รับเหมาสร้างให้เสร็จตามกำหนด

 

วันที่ 3 มี.ค. ที่ทำเนียบรัฐบาล นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง แถลงข่าว ภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี ถึงกรณี การก่อสร้างสะพานพระราม 2 ว่า เรื่องนี้ตนได้มีการสั่งการไปแล้วหลายครั้ง และในวันพรุ่งนี้ (4 มี.ค.67) นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม จะลงพื้นที่ไปดูว่าเป็นถนนอะไร ซึ่งมีการสร้างมานาน 54 ปีแล้ว และปัญหาก็มีอยู่ตลอดเวลา ซึ่งตนเข้าใจว่าเมื่อ 10 กว่าปีที่แล้ว นายสุริยะ เป็นรัฐมนตรีคมนาคม ก็มีการแก้ไขปัญหาในส่วนพื้นที่บางขุนเทียนเชื่อมต่อกับถนนกาญจนาภิเษก ในเรื่องของผู้รับเหมาหลบหนี และวันนี้ก็กลับมาเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมอีกครั้ง ก็ต้องกลับไปแก้ไขปัญหาอีก เนื่องจากเป็นปัญหาที่เกิดขึ้นมานานกว่า 50 ปี

ส่วนนายกรัฐมนตรีจะลงพื้นที่เองหรือไม่ นายกรัฐมนตรี ระบุว่า ต้องหาเวลา แต่ก็ทราบดีว่าตารางตนแน่นแค่ไหน

ด้าน นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม กล่าวถึงการก่อสร้างถนนพระรามสองที่มีความล่าช้าและยาวนานมากว่า 50 ปีว่า เมื่อพูดว่าการก่อสร้างถนนพระรามสองเป็นโครงการ 7 ชั่วโคตร เมื่อปี 2542 ตนเคยดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมในขณะนั้น มีการร้องเรียนว่าการก่อสร้างสะพานแยกบางขุนเทียนมีความล่าช้า จึงได้ลงไปสั่งการให้ยกเลิกสัญญากับผู้รับเหมา และหารายใหม่มาดำเนินการแทนจนเสร็จตามกำหนดการ ในเดือนธันวาคม 2542 ตนก็ไม่คิดว่าผ่านไป 20 ปียังต้องกลับมาแก้ไขปัญหานี้อีกครั้งหนึ่ง

ซึ่งพรุ่งนี้จะเชิญผู้รับเหมามาพูดคุยว่ามีปัญหาอย่างไร เนื่องจากในช่วงสถานการณ์โควิดผู้รับเหมาได้รับการต่อสัญญาขยายเวลาไปถึงเดือนมิถุนายน 2568 ดังนั้นสิ่งที่ผู้รับเหมากังวลมากที่สุดคือการถูกยกเลิกสัญญา เพราะจะส่งผลต่อการรับงานของหน่วยงานรัฐในอนาคต ซึ่งการพูดคุยในพรุ่งนี้จะยึดหลักการคือให้ผู้รับเหมาดำเนินการให้แล้วเสร็จภายในกำหนดการเดิม ซึ่งยังเหลือเวลาอีกปีครึ่ง ผู้รับเหมาจะต้องใช้ความพยายาม และกระทรวงคมนาคมจะตั้งคณะกรรมการไปติดตามความคืบหน้าในทุกเดือน เพื่อรายงานให้ตนเองทราบ ส่วนตัวเชื่อมั่นว่าภายในเดือนมิถุนายน 2568 ทุกอย่างจะแล้วเสร็จ.

advertisement

ข่าวยอดนิยม

ข่าวการเมือง เป็นกระแส