ระดม ตร. กว่า 10 นาย นำตัวฝรั่งสวิสฯชกคนไทยฝากขัง หลังขัดขืนและไม่ให้ความร่วมมือ

นำตัวฝรั่งชาวสวิสฝากขัง โดยมีการวิทยุระดมกำลังตำรวจเสริมกว่า 10 นาย เตรียมพร้อมอุ้มขึ้นรถ หลังเจ้าตัวพยายามขัดขืน และปฏิเสธการถูกดำเนินคดี

เจ้าหน้าที่ตำรวจนำตัวฝรั่งชาวสวิสเซฮร์แลนด์ ขออำนาจศาลจังหวัดตรังฝากขัง เจ้าตัวพยายามขัดขืน ตำรวจต้องระดมกำลังเตรียมอุ้มขึ้นรถแต่สุดท้ายก็ยอมเดินไปขึ้นรถแต่โดยดีตร.แจ้ง2ข้อหาหนักคือทำร้ายร่างกายผู้อื่นเป็นเหตุให้ได้รับบาดเจ็บสาหัสและข้อหาขัดขืนการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ โดยไม่ยินยอมพิมพ์ลายนิ้วมือ และลงชื่อในเอกสาร ด้านครอบครัวผู้บาดเจ็บระบุ ตำรวจแจ้งข้อหาทำร้ายร่างกายเป็นข้อหาที่เบาไปควรจะแจ้งข้อหาพยายามฆ่า เพราะมีพฤติกรรมรุนแรง จังหวะมารดาตัวเองล้มลงผู้ต้องหาพยายามใช้เข่ากดที่คอ พร้อมชกต่อยหลายครั้ง และจับหัวกระแทกกับพื้นจนบาดเจ็บสาหัสต้องใช้เวลารักษาไม่ต่ำกว่า 6 สัปดาห์

ที่ สภ.เมืองตรังหลังจากเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองตรัง ตำรวจท่องเที่ยวและเจ้าหน้าที่ด่านตรวจคนเข้าเมือง จ.ตรัง พยายามสอบปากคำรวมทั้งพยายามแจ้งข้อหาและจะนำตัว Mr.Straumann ชายชาวสวิตเซอร์แลนด์ อายุ 60 ปี ซึ่งมาพำนักอยู่ในจังหวัดตรัง โดยถือวีซ่าเป็นแบบพำนักบั้นปลายใช้ชีวิตหลังเกษียณ ไปขออำนาจศาลจังหวัดตรังฝากขังชั่วคราว แต่ผู้ต้องหาขัดขืนและไม่ยอมให้ความร่วมมือใด ๆกับเจ้าหน้าที่ หลังตกเป็นผู้ต้องหาทำร้ายร่างกาย นางนัฎชนันท์ หรือ แม่รี อายุ 53 ปี จนได้รับบาดเจ็บสาหัส จมูกหักตาบวม หลังบวม มีอาการแน่นหน้าอกหายใจไม่ออก เนื่องจากจมูกหัก เหตุเกิดกลางห้างดังภายในเขตเทศบาลนครตรัง เมื่อช่วงเย็นวันที่ 5 มีนาคม ที่ผ่านมาสุดท้ายตำรวจแจ้ง 2 ข้อหาหนัก คือทำร้ายร่างกายผู้อื่นเป็นเหตุให้ได้รับบาดเจ็บสาหัสและเพิ่มข้อหาขัดขืนการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่โดยไม่ยินยอมพิมพ์ลายนิ้วมือและลงชื่อในเอกสาร

จนกระทั่งเวลาล่วงเลยจนเวลาประมาณ 11.30 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองตรังพร้อมวิทยุระดมกำลังตำรวจสายตรวจ สภ.เมืองตรัง มาเสริมกว่า 10 นาย มาเตรียมพร้อมอุ้มไปขึ้นรถ หลังยืนกรานปฏิเสธไม่ยอมไปขึ้นรถ แต่สุดท้ายเมื่อตำรวจยืนยันและพร้อมปฏิบัติการ และทางล่ามได้พยายามแจ้งข้อกฎหมายไทยให้ได้รับทราบ และขอความร่วมมือให้ทำตามกฎหมาย และตำรวจจับสวมกุญแจมือเจ้าตัวจึงยอมเดินไปขึ้นรถตำรวจ นำตัวไปขออำนาจศาลฝากขังโดยมีกำลังตำรวจสายตรวจขับขี่รถจักรยานยนต์ตามไปศาลด้วย

ทางด้านนายกฤตพงศ์ ลูกชายของหญิงผู้บาดเจ็บ และญาติซึ่งได้เดินทางมาติดตามการทำงานของเจ้าหน้าที่ ที่ สภ.เมืองตรัง ด้วยนั้นบอกว่าตำรวจแจ้งข้อหาทำร้ายร่างกาย เป็นเหตุให้ผู้อื่นได้รับบาดเจ็บสาหัสนั้น ส่วนตัวมองว่าข้อหาเบาเกินไป ส่วนตัวพอใจในระดับหนึ่ง แต่พฤติกรรมของผู้ต้องหากระทำรุนแรงเข้าข่ายพยายามฆ่าแม่ของตน ควรจะแจ้งข้อหาพยายามฆ่าด้วย เพราะช่วงเกิดเหตุเมื่อแม่ตนเองล้มลงผู้ต้องหาเอาเข่าไปกดที่คอแม่กดจนแน่นโดยไม่คิดจะปล่อยเลยและต่อยแม่ตนไม่ยั้งเลย ซึ่งการทำร้ายในครั้งที่ 2 นั้น แม่ตนบอกว่าเขาต่อยไม่ต่ำกว่า 20 ครั้ง เข้าข่ายลักษณะพยายามฆ่าเพราะเป็นการกระทำที่รุนแรงเกินไป ส่วนอาการแม่ตอนนี้ยังทรงตัว ยังปวดหัว ปวดตาและเลือดบริเวณขอบตายังไหลอยู่ และโชคดีเอ็กซเรย์สมองแล้วไม่มีเลือดคลั่ง โดยแพทย์บอกว่าต้องรักษาตัวต่อไปอีกนานไม่ต่ำกว่า 4-6 อาทิตย์ส่วนจะมีใครมาประกันตัวผู้ต้องหาและครอบครัวจะคัดค้านการประกันตัวหรือไม่นั้น ยังไม่ทราบว่าจะเป็นอย่างไร จะคัดค้านได้หรือไม่ หรือต้องยื่นคัดค้านหรือไม่นั้นต้องปรึกษากับทางเจ้าหน้าที่ก่อน ถ้ามีใครมายื่นประกันตัวเขา ทางครอบครัวก็จะยื่นคัดค้าน เพราะไม่อยากให้เขาไปทำกับคนอื่นอีก เพราะขนาดภรรยาของเขาเองเขายังทำรุนแรง และนี่ขนาดคนไปเดินห้างไม่เคยรู้จักกันอยู่ ๆ เขาก็มาทำร้ายเลย มันไม่ใช่เรื่องเลยส่วนภรรยาเขาตนเองก็ไม่ได้เจอเพราะทางตำรวจแจ้งว่าภรรยาเขาถูกสามีทำร้ายจนทนไม่ได้ต้องหนีไปอยู่ที่ จ.กระบี่ แล้ว