แอ๊ว โล่งใจพ้นข้อครหาฆ่าเเม่ เสียใจที่แม่โดนฆ่าตาย ซ้ำร้ายยังโดนกระเเสสังคมกดดัน ยกมือไหว้ขอความเป็นธรรม จะขอเลิกยาเพื่อเเม่
จากกรณีพบศพ นางฉวีวรรณ ใจช่วย หรือ ป้าอี๊ด อายุ 69 ปี เจ้าของสวนทุเรียน ถูกฆาตกรรมมัดมือไพล่หลัง กางเกงพันศีรษะครอบด้วยถังพลาสติก ทิ้งศพในสระน้ำ ภายในสวนทุเรียน ริม ถ.ไร่อ้อย-เขายายพริ้ง ม.4 ต.กองดิน อ.แกลง จ.ระยอง
จนต่อมา เวลา 24.00 น. วันที่ 9 มี.ค. 67 ตำรวจ สภ.ปากน้ำประแสร์ ได้จับกุม นายเจริญ หรือ นายแดง พนักงาน รปภ.ธนาคารแห่งหนี่ง พื้นที่ อ.นายายอาม จ.จันทบุรี โดยนายแดง ให้การยอมรับกับเจ้าหน้าที่ตำรวจถึงมูลเหตุจูงใจที่ฆ่านางฉวีวรรณ เพราะต้องการยืมเงิน 180,000 บาท เพื่อไปไถ่ถอนที่ดิน ตอนแรกนางฉวีวรรณตกลงจะให้ และหลังจากนั้นนางฉวีวรรณก็ปฏิเสธไม่ให้ยืมเงินจึงลงมือก่อเหตุ
ทีมข่าวได้พูดคุยกับ นายอลงกต หรือ เเอ๊ว ลูกชายคนที่ 4 ของป้าอี๊ด ซึ่งได้รับการปล่อยตัวออกมาร่วมงานศพแม่ของตัวเอง โดยนายแอ๊ว เปิดใจหลังจากพ้นข้อครหาว่า ก่อนหน้านี้ตนเองรู้สึกกดดันมาก เพราะนอกจากจะเสียใจที่แม่ถูกฆ่าตายแล้ว ยังต้องมาเครียดกับกระแสสังคม ที่กล่าวหาว่าตนฆ่าแม่ แม้กระทั่งตำรวจที่พาตนไปสอบปากคำ ก็ยังเค้นถามตลอดว่าฆ่าแม่ทำไม ซึ่งตนก็ยืนยันมาตั้งแต่แรกว่าไม่ได้เป็นคนทำ
มาจนถึงตอนนี้ความจริงกระจ่างคนร้ายตัวจริงถูกจับแล้ว ตนเองรู้สึกโล่งมากรู้สึกดีใจ ที่พ้นข้อครหาเสียที จึงอยากขอความเป็นธรรมกับสังคมให้กับตนด้วย
ส่วนกรณีที่ถูกกล่าวหาว่าตนไม่เป็นห่วงแม่ ตอนเเม่หายไปเหตุใดจึงไม่ออกตามหา ขอชี้แจงว่าด้วยนิสัยของแม่ ไม่เคยเชื่อคำพูดของลูก เชื่อแต่คำพูดคนอื่น เวลาไปเที่ยวก็จะหายไป 2 - 3 วัน โดยที่ไม่บอกลูกๆ ดังนั้นการที่แม่หายไปจึงไม่มีใครคาดคิดว่าจะเกิดเหตุร้าย สุดท้ายแม่ก็ถูกฆ่าตายเพราะเชื่อคำพูดของคนอื่นมากไป
นายแอ๊ว บอกอีกว่า ตนเองรักแม่มาก ไม่เคยคิดที่จะทำร้ายแม่ ซึ่งที่ผ่านมาคิดมาโดยตลอดว่าหากแม่แก่ชราตนก็จะดูแลแม่เอง แต่สุดท้ายก็ไม่ได้มีโอกาสตอบแทนพระคุณ ถึงเมื่อก่อนตนเองยอมรับว่ามีพฤติกรรมยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติดจริง ทราบดีว่าถูกชาวบ้านดูถูกดูแคลนมาโดยตลอด แต่หลังจากนี้จะทำเพื่อเเม่เป็นครั้งสุดท้าย ด้วยการเลิกยาเสพติด และจะตั้งใจทำงานหาเงิน ทำตัวให้ดีกว่านี้.