แม่ไอ้นาย เผยปล่อยให้เรื่องนี้เป็นไปตามกฎหมาย สบายใจขึ้นที่ลูกมอบตัว

13 มี.ค. 67

แม่ไอ้นาย เผย หลังจากลูกเข้ามอบสบายใจขึ้น เมื่อเช้าซื้อของโปรดไปให้ลูก หลังจากนี้จะปล่อยให้เป็นไปตามกระบวนการของกฎหมาย ส่วนเรื่องงานศพยืนยันว่าไม่ไป เพราะทำบุญให้กับผู้ตายทุกวันอยู่แล้ว ยอมรับว่าผู้ตายเป็นคนดี

จากกรณี นายพิทญา หรือ ไอ้นาย อายุ 27 ปี ผู้ต้องหาฆ่า น้องสา อายุ 32 ปี สาวเมียนมา ดาว TiKTok แล้วหมกศพในบ่อน้ำ หลังกุฎิร้าง ภายในวัดท้าวโคตร อ.เมือง จ.นครศรีรรมราช จากนั้นนำสร้อยทองของผู้ตายไปขายที่ร้านทอง ก่อนหลบหนีไปในพื้นที่ จ.กระบี่ ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น

หลังจากเจ้าหน้าที่ตำรวจได้คุมตัวนายพิทยาเข้าห้องขังแล้ว ล่าสุดวันนี้ (13 มี.ค.67) ทีมข่าวได้เดินทางมาหาแม่ของนายพิทยาอีกครั้ง โดยทางด้านแม่ของนายพิทยาบอกว่า เมื่อวานนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจได้โทรศัพท์หาลูกชายโดยให้ตนเองเกลี้ยกล่อมให้ลูกชายเข้ามอบตัว ซึ่งตนเองก็คุยกับลูกชายประมาณ 5 นาทีได้ ก็บอกกับลูกชายว่า ถ้าทำอะไรผิดก็ให้ยอมรับผิด ให้ลูกกลับมารับโทษเพราะกลัวว่าลูกจะถูกวิสามัญ และสิ่งที่ลูกชายทำทั้งหมดตนเองพร้อมอโหสิกรรมให้ ส่วนลูกชายก็พูดกับตนด้วยน้ำเสียงที่สันคลอนพร้อมกับร้องไห้ไปด้วยว่าลูกชายขอโทษ ผิดไปแล้ว แม่สบายใจได้นะ ซึ่งหลังจากนั้นลูกชายก็ประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจให้เดินทางมารับตัว ซึ่งจากที่ลูกชายมอบตัวก็ทำให้ตนเองสบายใจมากขึ้น

โดยวันนี้เมื่อช่วงเช้า ตนเองก็ได้เดินทางไปเยี่ยมลูกชาย โดยเอาน้ำส้ม ,น้ำเปล่า และข้าวเหนียวไก่ทอด ของโปรดที่ลูกชายมักกินเป็นประจำ ซึ่งพอเข้าไปเยี่ยมลูกชายในห้องขัง ตนเองเหมือนจุกในอก พูดอะไรไม่ออก เมื่อมาเห็นสภาพลูกแบบนี้ ก็เพียงแต่พูดว่าอโหสิกรรมให้ลูกนะ ส่วนทางลูกชายก็ร้องไห้ และพยักหน้าเท่านั้น และขอโทษกับสิ่งที่เกิดขึ้น หลังจากนั้นก็ได้ถามหาหลานสาวว่าเป็นยังไงบ้าง ซึ่งแม่ก็บอกว่าไม่ต้องเป็นห่วง เดี๋ยวแม่ดูแลให้ ส่วนจะพาหลานไปหาลูกชายหรือไม่ ลูกชายบอกว่าไม่อยากให้หลานมาเห็นลูกชายอยู่ในห้องขังแบบนี้ ส่วนในวันนี้ตนก็คงจะไม่ไปเยี่ยมลูกแล้ว เพราะได้มีคนอื่น ๆ ฝากของกินไปให้ลูกชายแล้ว

ส่วนสภาพจิตใจของตนเองตอนนี้ดีขึ้นมาก หลังจากที่ลูกชายยอมมอบตัว ก่อนหน้านี้กินข้าวไม่ได้นอนไม่หลับ ทุกวันนี้ก็กินข้าวได้แล้ว ส่วนเรื่องนอนก็ยังคงนอนไม่ค่อยหลับบ้าง เพราะยังคิดมากกับเรื่องของลูก ส่วนเรื่องจะประกันหรือเรื่องคดีอะไร แม่ก็บอกว่าปล่อยให้เป็นไปตามกระบวนการของกฎหมาย ส่วนตนเองตำรวจได้ให้ปให้ปากคำเพิ่มเติม ซึ่งในส่วนนี้ตำรวจก็ยังไม่ระบุ วันและเวลามา และยังคงยืนยันคำเดิมว่าตนเองไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น

ส่วนหลังจากนี้ตนเองจะไปร่วมงานศพของน้องสาไหมแม่บอกเลยว่าไม่ไป เพราะทุกวันนี้แม่ก็ทำบุญตักบาตรให้น้องสาทุกเช้าแล้ว คิดว่าถ้าไปร่วมงานก็คงจะทำให้ครอบครัวเขาเจ็บช้ำน้ำใจไปซะเปล่า แต่ก็ยอมรับว่าขณะที่น้องสามาอยู่ที่บ้านของตน ก็เปรียบเหมือนเป็นลูกสะใภ้ของตนเองคนหนึ่ง ถึงแม้ยังไม่ได้แต่งงานกับลูกชาย น้องสาก็เป็นคนดี ช่วยเหลือตนและลูกชายมาโดยตลอด

ส่วนเรื่องที่น้องสาหางานให้กับตนและลูกชายทำ บอกว่า ก่อนหน้านี้น้องสาเคยพูดมานานแล้วว่าจะหางานเสริมให้ตนกับลูกชายทำ ซึ่งก็อยู่ที่ตลาดหัวอิฐ ในวันที่ 3 มีนาคม ตนเองก็เดินทาง ไปที่ตลาดเวลาประมาณ 11:00 น. ไปคอยน้องสาอยู่นานแต่ก็ไม่เห็นว่าน้องสามา รอกว่า 1 ชั่วโมง ก็มีหัวหน้างานของน้องสา เข้ามาพูดคุยกับตนซึ่งตนก็บอกว่าน้องสาได้ฝากให้ตนเองมาทำงาน ก่อนตนจะลองหันไก่ แต่นายจ้างดูว่าตนเองน่าจะทำไม่เก่ง และด้วยตนที่มองว่างานหนักก็เลยกลับมา หลังจากนั้นก็ไม่ได้กลับไปทำอีกเลย ส่วนตัวลูกชายเองก่อนหน้านี้ก็เคยทำงานอยู่ในตลาดหัวอิฐมาก่อน อยู่ในโซนของผลไม้แต่ด้วยความที่ว่าลูกชายต้องยกกล่องผลไม้หนักกว่า 30 กิโลทุกวัน จึงทำให้ลูกชายล้า ซึ่งตอนนั้นลูกชายก็ทำได้ 10 กว่าวันก่อนจะลาออก

advertisement

advertisement

คุณอาจสนใจข่าวนี้

ข่าวยอดนิยม

ข่าวทั่วไป เป็นกระแส