พ่อเฒ่าเขียนจดหมายลาโลก เครียดกลัวถูกแก๊งคอลเซ็นเตอร์หลอกเอาเงินคนชรา

สลดพ่อเฒ่า 71 ผูกคอดับ พร้อมเขียนจดหมายลา คาดเครียดกลัวถูก แก๊งคอลเซ็นเตอร์หลอกเอาเงินคนชรา 

วันที่16 มี.ค. 67 พ.ต.ท.ทรงภพ คำใจ รองสว.สอบสวน สภ.เมืองอุดรธานี ได้รับแจ้งเหตุ มีคนผูกคอเสียชีวิตที่บ้านหลังหนึ่งในซอยพนมวัลย์ ต.หมากแข้ง เขตเทศบาลนครอุดรธานี จึงพร้อมด้วยแพทย์เวร รพ.ศูนย์อุดรธานี และกู้ภัยมูลนิธิส่งเสริมธรรมแห่งอุดรธานี เข้าตรวจสอบ 

ที่เกิดเหตุเป็นบ้านปูนชั้นเดียว ที่ห้องเก็บของพบศพนายบุญช่วย ธูปเทียนทอง อายุ  71 ปี ใช้เชือกไนล่อนสีขาวผูกคอกับขื่อ สภาพศพสวมเสื้อคลุมกันหนาวแขนยาวสีดำ กางเกงขายาวสีน้ำเงิน สวมรองเท้าแตะ 

พบกระดาษเขียนข้อความด้วยลายมือผู้ตายว่า “อ้อน ป๊าโง่มาก สมควรตายแล้ว ไปอยู่แม่บินมารับ แม่มึงอยู่ คนไปก่อนพ่อ ไม่มากวนหลอกอยู่ก็” 

จากการตรวจสอบบริเวณเกิดเหตุ ไม่พบร่องรอยการต่อสู้ ไม่พบร่อยรอยถูกทำร้าย เสียชีวิตมาแล้วประมาณ 3-4 ชั่วโมง 

นางหนูกาล ธูปเทียนทอง อายุ 83 ปี ภรรยาผู้ตาย เล่าทั้งน้ำตาว่า เมื่อวันที่ 15 มี.ค.  เวลาประมาณ 15.00 น. ผู้ตายได้รับโทรศัพท์ คาดว่าจะเป็นแก๊งคอลเซ็นเตอร์คุยโทรศัพท์จนถึง 18.00 น. พอคุยเสร็จผู้ตายเล่าให้ฟังว่า มีคนโทรมาบอกว่า ผู้ตายได้พาเด็กถูกทำร้ายไปรักษาที่ รพ.ศรีนครินทร์จ.ขอนแก่น จะต้องทำการผ่าตัด และมีค่ารักษาพยาบาล พร้อมกับได้สอบถามข้อมูลส่วนตัวเลขบัตรประชาชน และเลขบัญชีธนาคาร 

ซึ่งเป็นบัญชีที่จะมีเงินเบี้ยผู้สูงอายุโอนเข้า และยังได้สอบถามยอดเงินในบัญชีผู้ตายจึงบอกไปว่ามี 800 บาท ผู้ตายได้โทรปรึกษาลูกจึงรู้ว่าเป็นแก๊งคอลเซ็นเตอร์ แต่ลูกและตนก็ไม่มีใครว่าอะไร แต่ผู้ตายกังวลว่าจะถูกแก๊งคอลเซ็นเตอร์ขโมยเงินในบัญชีไป 

นางหนูกาล เล่าต่อว่า หลังจากนั้นตนและผู้ตายก็กินข้าวและดูทีวีกันตามปกติเสร็จแล้วก็เข้านอน พอตื่นเช้าตนไม่เห็นผู้ตาย ซึ่งปกติผู้ตายจะตื่นเช้าและออกมากวาดหน้าบ้านทุกวัน แต่เมื่อเดินออกมาดูก็ไม่เห็น จึงเดินตามหาเห็นประตูห้องเก็บของเปิดจึงเดินไปดูก็พบสามีใช้เชือกผูกคอเสียชีวิตแล้ว จึงได้ไปบอกเพื่อนบ้านให้โทรแจ้งตำรวจ 

ตำรวจสันนิษฐานว่าผู้ตายคงจะเครียดเรื่องที่แก๊งคอลเซ็นเตอร์โทรมาหลอกถามเรื่องเงินผู้สูงอายุ และเลขที่บัญชีธนาคาร เนื่องจากผู้ตายได้ให้ข้อมูลส่วนตัว และเลขบัญชีธนาคารไป จึงคิดมากว่าแก๊งคอลเซ็นเตอร์จะเอาเงินผู้สูงอายุไป ทำให้เครียดจึงผูกคอเสียชีวิต ส่วนญาติไม่ติดใจจึงมอบศพให้ญาตินำไปบำเพ็ญกุศลตามประเพณีต่อไป