นายกอบต.ท่าขุนราม ยืนยัน สามีสาวกกต.ที่ดับคากองเพลิง ไม่มีมือที่ 3

6 พ.ค. 67

นายกอบต.ท่าขุนราม เปิดใจ ปมสาวกกต.ดับคากองเพลิง เผยทั้งคู่เคยขอให้เป็นคนกลางเคลียร์ใจ ยืนยันฝ่ายชายไม่มีมือที่ 3

 

จากเหตุการณ์สลดพบศพ นางสาวเอ อายุ 49 ปี เจ้าหน้าที่พนักงานการเงินและบัญชีสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้งประจำจังหวัดกำแพงเพชร ถูกไฟคลอกปริศนาคากองเพลิงภายในห้องครัวหลังบ้านผู้เป็นอดีตสามี

ต่อมาพบว่ากล้องวงจรปิด ทำให้เห็นว่าผู้เสียชีวิตได้ให้รถยนต์มาส่งบริเวณหน้าบ้าน จากนั้นได้นำน้ำมันไม่ทราบชนิด ราดไปที่ศีรษะลำตัว และบริเวณพื้นบ้าน จากนั้นจึงได้จุดไฟเผาบ้านและเผาตัวเอง แต่ด้วยความร้อนจากเปลวไฟ ทำให้ผู้เสียชีวิตพยายามจะวิ่งออกจากบ้าน แต่ก็ไปไม่พ้นถูกไฟคลอกเสียชีวิตในกองเพลิงดังกล่าว

ล่าสุดผู้สื่อข่าวเดินทางไปพบกับ นายประจวบ ชุมภู นายกอบต.ท่าขุนราม ผู้บังคับบัญชาที่เคารพของทั้ง 2 ฝ่าย เล่าให้ฟังว่า ทั้งคู่เคยมีปัญหากันมาครั้งหนึ่งแล้วเมื่อ 3-4 ปี ก่อน ตนไม่ได้สัมผัสกับครอบครัวของทััง 2 มากนัก ช่วงหลังที่ฝ่ายหญิงไปทำงานที่กกต.จ.กำแพงเพชร ก็มีการแชตทะเลาะกัน ตนก็ได้เชิญทั้งคู่มาพูดคุยเจรจากันจนสงบไปแล้ว หากยังทะเลาะกันแบบนี้ก็แยกกันอยู่ไปก่อน

ผ่านไปสักพัก ทั้งคู่ก็ดีกัน จนมาช่วงหลังฝ่ายหญิงมีปัญหาเรื่องหนี้สินหลายอย่าง ซึ่งสามีก็ไม่ทราบรายละเอียด ได้ยินเพียงแค่ว่ามีปัญหากับหัวหน้าของฝ่ายหญิง และไฟแนนช์รถยนต์มาทวงเงินค่างวด ซึ่งก็เคยเป็นข่าวครั้งหนึ่งเมื่อสามปีที่แล้ว คือ ปี2564 มีคนขับรถมาเฉี่ยวชนรถป้ายแดงของฝ่ายหญิงในที่ทำงาน และมีปากเสียงถ่ายคลิปลงโซเชียล จนเป็นเรื่องเป็นราว

ซึ่งรถคันดังกล่าวก็ถูกยึด ตนจึงนำเงินไปช่วยเหลือปิดยอดค้างและคืนรถกับบริษัทไฟแนนซ์ เพื่อรักษาเครดิตให้กับฝ่ายชายที่เป็นคนออกรถ และฝ่ายหญิงก็หายไป ซึ่งช่วงหลังมาก็ติดต่อกลับมาอีกว่าขณะนี้ไปบวชชีพราหมณ์ที่จังหวัดตาก และขอให้คุยกับสามีใหัหน่อยว่าจะมาขออยู่บ้านหลังนี้เพื่อสู้คดี ตนได้พูดคุยกับฝ่ายชายและได้คำตอบว่าจะเข้ามาอยู่ได้อย่างไร ในเมื่อหย่ากันไปแล้วต่างคนต่างอยู่ จนสุดท้ายคุยกันอีท่าไหนไม่รู้ ไปสื่อสารกันจนฝ่ายหญิงเชื่อว่าฝ่ายชายมีใหม่แล้ว ซึ่งฝ่ายหญิงก็ไม่ได้ทำงานที่กกต.กำแพงเพชรแล้ว เพราะหนีหนี้และคดีความ โดยฝ่ายหญิงเป็นคนอารมณ์ร้อนดุเดือดมาก ซึ่งตนก็เป็นตัวกลางในการสื่อสารให้ทั้งคู่คุยกัน

โดยเมื่อวันที่ 29 เม.ย.67 ที่ผ่านมา ฝ่ายชายก็ได้เข้าไปประกันตัวฝ่ายหญิงออกมาจากศาลในคดีหมิ่นประมาท ระหว่างฝ่ายหญิงและผอ.กกต.แห่งหนึ่ง ฝ่ายหญิงเคยบ่นว่าไม่รู้จะไปพึ่งใครและอยากฆ่าตัวตายและก็หายไปนาน จนมาติดต่อตนเองเมื่อเดือนที่ผ่านมานี่เอง.

advertisement

advertisement

คุณอาจสนใจข่าวนี้

ข่าวยอดนิยม

ข่าวทั่วไป เป็นกระแส