นักวิชาการ ฉะ “ทักษิณ” หาเรื่องเข้าบ้านอีกแล้ว

7 พ.ค. 67

นักวิชาการ โพสต์ฉะ “ทักษิณ” หาเรื่อง หาปัญหา เข้าบ้านอีกแล้ว พร้อมตั้งคำถามคุยกับกองกำลังชนกลุ่มน้อยในเมียนมา ในฐานะอะไร ?

นายภัทร เหมสุข นักวิชาการอิสระ ได้โพสต์ข้อความระบุว่า  ข่าวจากสำนักข่าว VOA หรือ วอยซ์ออฟอเมริกา ภาคภาษาเมียนมาได้ลงข่าวทักษิณ ได้พบกับผู้นำกลุ่มกองกำลังชนกลุ่มน้อยในพม่าหลายกลุ่มมาตั้งแต่เดือนมีนา-เมษา เช่นกองกำลังของฉานสเตทอาร์มี SSA ที่นำโดยเจ้ายอดศึก กะเหรียงเนชั่นยูเนียน KNU คะฉิ่นเนชั่นออแกนไนเซชั่น KNO และอีกหลายกลุ่มกองกำลัง รวมถึงรัฐบาลพลัดถิ่นของพม่า National Unity Government (NUG) เพื่อพูดคุยเรื่องปัญหาของพม่าที่กำลังรบกันภายในประเทศตอนนี้

แน่นอนว่าก่อนที่ตัวแทนของกลุ่มต่างๆ ที่เข้ามาพบกับทักษิณ ย่อมได้รับการติดต่อประสานงานกันก่อนหน้านั้นแล้ว นั่นคือฝ่ายทักษิณส่งตัวแทนไปคุยนัดแนะไม่ใช่กลุ่มต่างๆ ให้ส่งตัวแทนมาขอคุยกับทักษิณ โดยใช้ช่วงเวลาที่ทักษิณไปเชียงใหม่ในการพูดคุย

ปัญหาก็คือ ทักษิณ ไปคุยกับกองกำลังที่กำลังรบกับรัฐบาลเมียนมานั้นด้วยเรื่องอะไร ในฐานะอะไร ??? แล้วรัฐบาลไทยรู้เรื่องนี้ไหม นายกรัฐมนตรี เศรษฐา รู้เรื่องไหม รัฐมนตรีต่างประเทศของไทยซึ่งในเวลานั้นคือ คุณปานปรีย์ รู้เรื่องนี้หรือเปล่า

ที่สำคัญคือประเทศในกลุ่มอาเซียนรู้เรื่องนี้หรือเปล่า ถ้ารู้แล้วจะมีผลอะไรกับประเทศไทยบ้าง ??? นี่คือการบ้านชิ้นใหญ่ของรัฐบาลและรัฐมนตรีต่างประเทศต้องตอบประเทศเพื่อนบ้านในกลุ่มอาเซียนให้ได้ว่าทักษิณไปเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ได้อย่างไร ไปคุยในฐานะอะไรของรัฐบาล คงไม่ได้ไปในฐานะของ โทนี่ วูดซัม แน่นอน

และที่สำคัญคือรัฐบาลไทยเรายังจะคุยกับรัฐบาลทหารของพม่าที่เป็นรัฐบาลในเวลานี้รู้เรื่องหรือเปล่า หลังจากที่ทักษิณที่ใครๆ ก็รู้ว่าเป็นผู้มีอิทธิพลคนหนึ่ง ที่สั่งซ้ายหันขวาหันในพรรคใหญ่แกนนำของรัฐบาลของไทยในเวลานี้ ไปคุยกับกลุ่มกองกำลังที่อยู่อีกฝั่งของความขัดแย้งในประเทศเมียนมาและรัฐบาลเมียนมา

นายภัทร ยังบอกอีกว่า ผมอยากจะพูดเรื่องภูมิรัฐศาสตร์สักเรื่อง ทักษิณไม่ได้อยู่ในประเทศมาสิบกว่าปีแล้ว คงไม่รู้มากนักในเรื่องภูมิรัฐศาสตร์ของประเทศในระแวกนี้ว่ามีปัญหาของตัวเองที่พัฒนาไปทั้งทางบวกและทางลบยาวไปถึงไหนแล้วโดยเฉพาะในเรื่องเมียนมา

ผมอยากจะบอกเลยนะครับว่าปัญหานี้ไม่ใช่กระทบเพียงกลุ่มประเทศอาเซียน แต่กระทบจีนแบบเต็มๆ เพราะพม่าคือหลังบ้านของจีน เป็นทางออกสู่ทะเลทางมหาสมุทรอินเดีย โดยไม่ต้องพึ่งพาช่องแคบมะละกา ซึ่งเวลานี้น้ำมันกว่า 80%  ที่จีนใช้อยู่ต้องผ่านช่องแคบนี้ สินค้าจีนจำนวนมหาศาลก็ต้องใช้เส้นทางนี้เช่นกัน แต่ถ้าจีนมีท่อน้ำมันและทางรถไฟผ่านเมียนมา เพื่อใช้มหาสมุทรอินเดียเป็นทางออก และมีความสัมพันธ์ที่ดีกับรัฐบาลทหารเมียนมา รวมถึงกองกำลังของชนกลุ่มน้อยให้ความสะดวกและความปลอดภัยกับเส้นทางของท่อน้ำมันและทางรถไฟของจีนได้ จีนก็สามารถอยู่ได้สะดวกในระดับหนึ่งในสภาวะที่โดนปิดล้อมอุดช่องแคยมะละกาโดยกองเรือที่ 7 ของสหรัฐฯ

นี่คือปัญหาที่ผมอยากจะบอกว่าถ้าจีนทำให้เมียนมาสงบไม่ได้ จีนเองก็มีปัญหาเหมือนกันถ้าเกิดสงครามหรือความตึงเครียดในทะเลจีนใต้ เวลานี้จีนก็เข้าไปแก้ปัญหากับกลุ่มต่างๆ อยู่ไม่ใช่น้อย ถ้าไม่ได้จีนเข้าไปทำความสะอาดรัฐฉานเหนือ และสนับสนุนกองกำลังต่างๆ ของรัฐฉานที่กองทัพของรัฐบาลเมียนมา ไม่เคยเข้าไปในพื้นที่ได้จนถึงเวลานี้ ป่านนี้คงยิงกันแหลกไปแล้วถ้าไม่ได้จีนเอาจนอยู่มือ เพราะนั่นคือเส้นทางท่อน้ำมันและก๊าซที่จะเข้าไปจีน และจีนเองก็เสียอำนาจจากรัฐยะไข่ไม่ได้อีกเช่นกัน เพราะตรงนั้นคือท่าเรือทางออกสู่ทะเลของท่อน้ำมันและเส้นทางรถไฟ และกองทัพรัฐบาลเมียนมา ในอดีตจนถึงปัจจุบันก็ไม่สามารถเข้าไปมีอำนาจในพื้นที่ยะไข่ได้ เพราะกองกำลังของยะไข่เข้มแข็งอยู่พอสมควร

กวนทีนใครก็ได้ แต่อย่าไปกวนทีนจีน อย่าไปแทรกแซงผลประโยชน์ของจีน ผมอยากจะบอกว่า จีนไม่พร้อมทำสงครามกับใครหรอกครับถ้ายังคุมเส้นทางโลจิสติกส์ในเมียนมา ให้ปลอดภัยไม่ได้ และคุมให้รัฐบาลพม่าและกลุ่มชาติพันธุ์ไม่ต้องจับปืนมารบกันอย่างที่เห็นกันในเวลานี้ ต่างคนต่างอยู่และไม่ต้องมารบกัน ต่างคนต่างดูแลพื้นที่ของตัวเองกันไป และช่วยกันกวาดล้างจีนเทาเท่านี้ประเทศจีนก็พอใจแล้ว

ถ้ามองภูมิรัฐศาสตร์ของพื้นที่อาเซียนให้ออก ติดตามความเคลื่อนไหวของข่าวรายวัน จะเห็นว่าทักษิณเป็นได้แค่เพียงมดปลวกหรือแมลงวัน บินเข้ามาตอมปัญหานี้เพื่อจะหาแสงหรืออะไรสักอย่าง เมื่อเทียบกับจีนที่ใช้ทั้งกำลังเงินมหาศาลและกำลังของสงครามตัวแทนเข้าไปแก้ปัญหาในพม่ามาหลายปีแล้ว เมื่อสองเดือนที่แล้วมีการตบจบปฏิบัติการ 1027 ก็เข้าจัดการเมืองเล่าก์ก่าย ด้วยมือโกกั้งเสียเกลี้ยง กองกำลังนี้ซึ่งเป็นหนึ่งในสามกองกำลังในกลุ่มพันธมิตรพี่น้อง Brotherhood Alliance ที่คุยกับจีนรู้เรื่องมากกว่าใครทั้งหมด และเมียนมาก็ไม่อยากจะยุ่งด้วยในพื้นที่ของสามกองกำลังนี้สักเท่าไร

ไปนอนคุยกับอูฐมาสิบกว่าปี กลับแล้วจะมาทำตัวว่าเชี่ยวชาญกับปัญหาภูมิรัฐศาสตร์ของกลุ่มอาเซียน แล้วเข้าไปยุ่งกับปัญหาภายในของพม่า คงได้แต่ขี้โม้และสร้างปัญหาให้กับประเทศไทย รัฐบาลไทย และกองทัพไทยเสียมากกว่า

advertisement

คุณอาจสนใจข่าวนี้

ข่าวยอดนิยม