แม่กับพี่ชายหนุ่มถูกฆ่าหมกคอนโด ยันเอาเรื่องให้ถึงที่สุด เตรียมฟ้องนิติคอนโด รวมถึงแอปธนาคาร ร้านทอง ที่ปล่อยให้คนร้ายทำธุรกรรมไปได้
จากกรณีคนร้ายได้ก่อเหตุใช้เอาวุธมีดกระหน่ำแทงนายไพศาล ทองอ่อน หรือ โต๊ส อายุ 54 ปี พ่อค้าออนไลน์ขายเสื้อผ้า เสียชีวิตในห้องพักคอนโดมิเนียมหรู ย่านนนทบุรี เมื่อวันที่ 20 พฤษภาคม 2567 ที่ผ่านมา โดยคนร้ายนำศพไปหมกไว้ในห้องพักนานหลายวัน ก่อนหลบหนี จนส่งกลิ่นเหม็นเน่าโชยออกมา
ซึ่งคดีดังกล่าวสร้างความสะเทือนขวัญให้กับผู้คนในสังคมอย่างมาก ในขณะที่ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจพยายามเร่งสืบสวนหาตัวคนร้าย จนทราบว่าผู้ต้องสงสัยคือเพื่อนสนิทของผู้ตาย
ล่าสุดเมื่อเวลา 12.00 น.วันที่ 31 พ.ค. 67 ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนภาค 1 ได้แกะรอยตัวผู้ต้องสงสัยรายนี้ โดยทราบเส้นทางการหลบหนี พบว่า ได้จ้างวานรถแท็กซี่ จาก จ.ชลบุรี ให้ไปส่งที่ อ.หัวหิน จ.ประจวบขันธ์ แล้วโดยสารรถทัวร์ต่อมาลงที่บริเวณสี่แยกปฐมพร อ.เมืองชุมพร
จากนั้นได้โทรศัพท์ให้ญาติ ได้ใช้รถยนต์เก๋งยี่ห้อฮอนด้า รุ่น ซีอาร์วี สีขาว มารับไปยังบ้านญาติซึ่งเป็นอดีตผู้นำท้องถิ่นคนหนึ่ง ที่ ม.4 ต.วังใหม่ อ.เมือง จ.ชุมพร ซึ่งห่างจากสี่แยกปฐมพร เพียง 20 กม. โดยบ้านของอดีตผู้นำท้องถิ่นรายนี้ อยู่ห่างจากถนนเพชรเกษม สายชุมพร-ระนอง เส้นทางเข้า จ.ชุมพร เพียง 400 เมตร เป็นบ้านปูนชั้นเดียว ปลูกในสวนทุเรียน กว่า 10 ไร่
ซึ่งหลังจากที่เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน ภาค 1 ได้สะกดรอยตามไปจับได้หลังจากที่สืบแน่ชัด จึงวางกำลังกระจายบุกเข้าตรวจค้นจับกุมได้โดยละม่อม พร้อมยึดของกลางเป็นทองแท่งจำนวนมาก ก่อนนำตัวนายภูริณัฐ หรือนายพอตเตอร์ อายุ 27 ปี พร้อมของกลางมาสอบปากคำ ที่ฝ่ายปฏิบัติงานสืบสวน สภ.เมือง จ.ชุมพร โดยกันไม่ให้ผู้สื่อข่าวเข้าไปภายในห้อง ใช้เวลากว่า 4 ชั่วโมง ก่อนนำตัวขึ้นรถมาส่งพนักงานสอบสวน ที่ สภ.นนทบุรี ดำเนินคดีตามกฎหมายในข้อหา ฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา
ส่วน ที่สภ.เมืองนนทบุรี นางบรรจง ทองอ่อน อายุ 80 ปี แม่ของผู้เสียชีวิต พร้อมด้วยนายฉัตรชัย ทองอ่อน อายุ 55 ปี พี่ชาย แล ะ น.ส.อิสริยา ทองอ่อน อายุ 24 ปี หลานสาว เดินทางเข้าพบพนักงานสอบสวนเพื่อสอบปากคำเพิ่มเติม โดยใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง
นางบรรจง แม่ผู้เสียชีวิต กล่าวว่า ตนทราบว่าลูกทำธุรกิจคนเดียว หลังจากตอนนี้ตำรวจจับคนร้ายได้แล้วก็จะไปรับศพพรุ่งนี้มาทำพิธีทางศาสนา 3 วัน เพราะลูกชายเสียไปหลายวันแล้ว เมื่อวันก่อนตนได้จุดธูปบอกกับลูกชายว่าให้ตำรวจจับคนร้ายได้ ไม่เคยมาเข้าฝัน คงกลัวว่าตนจะกลัวด้วย ลูกชายก็คงดีใจที่ตำรวจจับคนร้ายได้ คงหมดห่วง เขาห่วงตนที่สุดเพราะเวลาเจ็บป่วยจะคอยดูแล หลังจากนี้คงมีหลานกับลูกชายคนโดดูแล
น.ส.อิสริยา หลานสาวผู้เสียชีวิต กล่าวว่า มันก็มีช่วงที่ตนสงสัยว่าใช่อาหรือไม่ และเอารูปให้พี่สาวดู หลังจากที่แมสเซ็นเจอร์มารับเอกสารแล้ว ประมาณทุ่มครึ่ง บัญชีไลน์ก็โดนลบไป ตอนแรกคิดว่าหนีหนี้ เพราะมีการติดต่อค้าขายของ ยอดเงินที่หายไปจากบัญชีของอา ประมาณ 1 ล้านกว่าบาท ซึ่งปกติตนจะคุยกับอาผ่านทางไลน์น้อยมาก เจอกันยังไม่ค่อยได้คุยเลย เขาเป็นคนไม่ค่อยพูดแต่ช่างสังเกต
ด้านนายฉัตรชัย พี่ชายผู้เสียชีวิต กล่าวว่า คนร้ายแอบอ้างเป็นน้องชายของตนทำธุรกรรม 5 แสนบาท โดยบอกว่าที่หน้าไม่เหมือนบัตรประชาชน เนื่องจากไปทำศัลยกรรมมา หน้าจึงได้ไม่เหมือนคนอายุ 54 ปี ตนไม่เชื่อเพราะว่าเวลาทำธุรกรรมทางการเงินต้องสแกนหน้า ฝากไปถึงร้านทองว่าตนไม่ยอม รวมถึงนิติของคอนโด เหตุเกิดทำไมถึงไม่แจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ จะมาบอกว่าเขาเงียบไปแล้วคุณดูแลอยู่ คุณไม่ได้จัดการอะไรเลย รวมทั้งธนาคารด้วย ตนดำเนินการแน่นอน อันนี้จะได้เป็นเคส ตัวอย่างให้กับประชาชนทั่วไป วงเงินมันสูงราคาเป็นล้าน ต้องสแกนหน้า เวลาไปโรงรับจำนำ ต้องถอดแมสก์ต้องสแกนลายนิ้วมือ ทุกอย่างต้องทำตามกฎ อันนี้มาแหกกฎ น้องชายตนตายไปแล้วจะพูดอะไรก็ได้
ด้าน พ.ต.อ.จาตุรนต์ อนุรักษ์บัณฑิต ผกก. สภ.เมืองนนทบุรี เปิดเผยว่า ตอนนี้อยู่ระหว่างการสอบปากคำ และอยู่ระหว่างตรวจสอบประเด็นปมหนี้สิน โดยทางผู้ก่อเหตุอ้างว่าถูกโกง เบื้องต้นยังไม่ทราบเรื่องของตัวเลข โดยจับผู้ก่อเหตุได้ในพื้นที่จังหวัดชุมพร ซึ่งเป็นบ้านของผู้ก่อเหตุ และมีการตรวจค้นพบของกลางเป็นทองคำ และบัตรประชาชนของผู้เสียชีวิต เบื้องต้น แจ้งข้อกล่าวหาฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา ตอนนี้ผู้ก่อเหตุได้ปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา อยู่ระหว่างนำตัวมาที่สภ.เมืองนนทบุรี.