ทลายองค์กรอาชญากรรมไซเบอร์ระดับโลก เหิมเกริมก่อเหตุโจมตีระบบองค์การใหญ่ แฮกระบบ เรียกค่าไถ่ ทำเสียหายกว่า 190 ประเทศ
วันที่ 1 มิ.ย. 67 กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) โดยกองบังคับการปราบปราม (บก.ป.) เจ้าหน้าที่ชุดจับกุม นำ พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจ บก.ป., บก.ปอท. และเจ้าหน้าที่ FBI ร่วมกับ Federal Bureau of Investigation (FBI) โดย MR.MIKE CHAI FBI attache ประจำประเทศไทย
ร่วมกันตรวจยึดของกลาง
- เงินสด สกุลเงินไทยและต่างประเทศ รวมมูลค่ากว่า 7.5 ล้านบาท
- นาฬิกาหรู จำนวน 13 เรือน รวมมูลค่ากว่า 30 ล้านบาท
- เครื่องประดับ จำนวน 23 ชิ้น รวมมูลค่ากว่า 50 ล้านบาท
- รถยนต์ BMW X7 M50d สีดำ จำนวน 1 คัน
- โฉนดที่ดิน เอกสารแสดงความเป็นเจ้าของ และสัญญาการซื้อขาย ที่ดิน สถานที่ และคอนโด
- บัญชีธนาคารของผู้ต้องหา (นาย Yun He) และ บริษัท Spicy Code
- อุปกรณ์บันทึกข้อมูล Flash Drive ที่เชื่อว่าบันทึกข้อมูลคีย์การเข้ารหัส หรือรหัสผ่านการเข้ารหัส และอื่นๆ
สถานที่ตรวจค้น
- บ้านหลังหนึ่ง ถ.พระตำหนัก ต.หนองปรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี
- ห้องพักใน คอนโดมีเนียม พื้นที่ ม.1 ต.นาจอมเทียน อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี
- ห้องพักในคอนโดมีเนียม ม.1 ต.นาจอมเทียน อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี
- ห้องพัก ในคอนโดมีเนียม พื้นที่ม.1 ต.นาจอมเทียน อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี
พฤติการณ์ สืบเนื่องจากทางการสหรัฐอเมริกา ขอความร่วมมือระหว่างประเทศในเรื่องการดำเนินการทางอาญา เพื่อจับกุมและทลายเครือข่ายอาชญากรรมไซเบอร์ โดยทำหนังสือส่งผ่านสำนักงานอัยการสูงสุด ในฐานะผู้ประสานงานกลาง ก่อนจะมีการมอบหมายต่อมายังตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) ระบุขอให้ประเทศไทยตรวจสอบและหาพยานหลักฐานของนาย Yun He พร้อมพวก ซึ่งเป็นผู้ต้องหา อาชญากรออนไลน์ระดับชาติ โดยเป็นผู้ต้องหาในคดี ทำให้เกิดความเสียหายแก่ระบบคอมพิวเตอร์ที่ได้รับการป้องกัน ฉ้อโกงผ่านการสื่อสารอิเล็กทรอนิกส์ และฟอกเงินแห่งประเทศสหรัฐอเมริกา
โดยทางการสหรัฐอเมริกาแจ้งว่า ปฏิบัติการนี้เป็นการทำงานร่วมมือในหลายประเทศทั่วโลก รวมถึงประเทศไทยและสิงคโปร์ในการกวาดล้าง ปราบปรามอาชญากรรมไซเบอร์ ซึ่งใช้อุปกรณ์ติดตั้งมัลแวร์ ร่วมกับเครื่องมือปกปิดที่อยู่ของเครือข่ายอาชญากร ซึ่งเรียกกันว่า 911 S5 ซึ่งผู้ต้องหาในคดีนี้คือนาย Yun He พร้อมพวกคนจีน โดยเฉพาะนาย Yun He เป็นผู้ก่อตั้งและดูแลระบบหลักของ 911 S5 ทั้งหมด ขณะที่พวกที่เหลือทำหน้าที่ดูแลเอกสาร ธุรกรรมทางเงิน และตั้งบริษัทขึ้นมาเพื่อทำการฟอกเงินจำนวน 3 บริษัท อยู่ในประเทศไทย
ทั้งนี้จากการสืบสวนพบว่าเครือข่ายนี้ได้ทำการแฮก IP Address ของคอมพิวเตอร์ 19 ล้านเครื่อง ในกว่า 190 ประเทศทั่วโลก สร้างความเสียหายมหาศาล และยังมีการโกงเงินจากหน่วยงานของรัฐบาลสหรัฐอเมริกาอีกจำนวนมาก ด้วยการแฮกเข้าคอมพิวเตอร์ของชาวอเมริกัน และทำเรื่องขอความช่วยเหลือในเรื่องสวัสดิการต่างๆ แต่เมื่อหน่วยงานรัฐอนุมัติเงินช่วยเหลือ กลับเป็นการโอนเข้าบัญชีของอาชญากร โดยที่บุคคลชาวอเมริกันคนนั้นกลับไม่ทราบเรื่องและไม่ได้รับเงินดังกล่าวแต่อย่างใด นอกจากนี้ยังมีการแฮกเข้าไปขโมยเงิน เหรียญคริปโต โจมตีทางไซเบอร์ เรียกค่าไถ่ (Ransomeware) ด้วยการปิดกั้นการทำงานขอองค์กรใหญ่ และเรียกค่าไถ่แลกกับการให้ระบบกลับมาใช้งานได้ดังเดิม และยังใช้เป็นช่องทางแสวงหาผลประโยชน์จากภาพอนาจารของเด็ก รวมถึงการขู่วางระเบิด สร้างความตื่นตระหนกให้กับผู้คนอีกด้วย ขณะเดียวกันคนร้ายกลุ่มนี้ ได้ทำการฟอกเงินที่ได้จากกิจการ ซึ่งกลุ่มคนร้ายกลุ่มนี้ ได้กำไรหลายสิบล้านดอลลาร์สหรัฐจากการบริการผิดกฎหมายและนำไปซื้ออสังหาริมทรัพย์ ยานพาหนะ ทรัพย์สินอื่นๆ ในหลายประเทศ หนึ่งในนั้นคือประเทศไทย
จากข้อมูลข้างต้น พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) เรียกประชุมโดยด่วน ก่อนมอบหมายให้ กองกำกับการ 2 กองบังคับการปราบปราม (บก.ป.) เป็นผู้รับผิดชอบเนื่องจากเป็นพื้นที่รับผิดชอบ ทำการตรวจค้นที่อยู่อาศัย ยานพาหนะของนาย Yun He พร้อมทั้ง ตรวจยึด อายัดทรัพย์สินตามรายการที่ปรากฎตามหนังสือขอความร่วมมือ รวมทั้งสอบปากคำผู้ที่เกี่ยวข้องทั้งหมด
ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจกก.2 บก.ป. จึงได้นำกำลังเจ้าหน้าที่ตรวจค้นสถานที่ดังกล่าว ซักถามปากคำบุคคลที่เกี่ยวข้อและตรวจยึดทรัพย์สินตามบันทึกร้องขอ โดยได้ทรัพย์สินตามรายการข้างต้น ก่อนนำส่งพนักงานสอบสวน กก.2 บก.ป. ดำเนินการต่อไป
นอกจากนี้ยังสืบทราบว่า ผู้ต้องหามีการนำทรัพย์สินที่ได้จากการกระทำความผิดมาแปรสภาพทรัพย์ในประเทศไทย เป็นลักษณะอสังหาริมทรัพย์ และบริษัทต่างๆ ซึ่งในส่วนนี้ รวมมูลค่ากว่า 1,000 ล้านบาท โดยทางเจ้าหน้าที่ตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) จะดำเนินการตรวจสอบต่อไป
อย่างไรก็ตาม เมื่อวันที่ 24 พ.ค.67 ได้รับรายงานว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจของประเทศสิงค์โปร และเจ้าหน้าที่ FBI ได้ร่วมกันจับกุม Mr. Yun He ที่ประเทศสิงคโปร์ไว้แล้ว