บุกคาราโอเกะเถื่อนย่านฝั่งธนบุรี แฝงค้ากามเด็กมัธยม

ตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) บุกคาราโอเกะเถื่อนย่านฝั่งธนบุรี แฝงค้ากามเด็กมัธยม


เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.1 บก.ปคม. ร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.บุคคโล ร่วมกันจับกุมตัว จำนวน 2 ราย
1. นายกฤษณะฯ อายุ 46 ปี
2. นางสาวสมสอาจฯ อายุ 44 ปี

โดยกล่าวหาว่ากระทำความผิดฐาน
1. สมคบโดยตกลงกันตั้งแต่สองคนขึ้นไปโดยเป็นธุระจัดหา ซื้อ ขาย จำหน่าย พามาจากหรือส่งไปยังที่ใดหน่วงเหนี่ยวกักขัง จัดให้อยู่อาศัย หรือรับไว้ซึ่งเด็ก ซึ่งการกระทำนั้นได้กระทำโดยมีความมุ่งหมายเพื่อแสวงหาประโยชน์โดยมิชอบจากการค้าประเวณีเพื่อกระทำความผิดฐานค้ามนุษย์ โดยได้กระทำแก่บุคคลอายุเกินสิบห้าปี แต่ไม่ถึงสิบแปดปี และได้ลงมือกระทำความผิดตามที่ได้สมคบกัน
2. ร่วมกันค้ามนุษย์โดยเป็นธุระจัดหา ซื้อ ขาย จำหน่าย พามาจากหรือส่งไปยังที่ใด หน่วงเหนี่ยวกักขัง จัดให้อยู่อาศัย หรือรับไว้ซึ่งเด็ก ซึ่งการกระทำนั้นได้กระทำโดยมีความมุ่งหมาย เพื่อแสวงหาประโยชน์โดยมิชอบจากการค้าประเวณี โดยได้กระทำแก่บุคคลอายุเกินสิบห้าปี แต่ไม่ถึงสิบแปดปี
3. ร่วมกันเพื่อสนองความใคร่ของผู้อื่น เป็นธุระจัดหา ล่อไป หรือพาไป เพื่อการอนาจารซึ่งชายหรือหญิงแม้ผู้นั้นจะยินยอมก็ตาม โดยกระทำแก่บุคคลอายุเกินสิบห้าปีแต่ยังไม่เกินสิบแปดปี
4. ร่วมกันชักจูง ส่งเสริม ยินยอมให้เด็ก ประพฤติตนไม่สมควรหรือน่าจะทำให้เด็ก มีความประพฤติเสี่ยงต่อการกระทำผิด อันมีลักษณะเป็นการลามกอนาจารไม่ว่าจะเป็นไปเพื่อให้ได้มาซึ่งค่าตอบแทน หรือเพื่อการใด
5. เป็นนายจ้างร่วมกันจ้างเด็กอายุต่ำกว่าสิบแปดปีเป็นลูกจ้าง โดยไม่แจ้งการจ้างลูกจ้างซึ่งเป็นเด็กต่อพนักงานตรวจแรงงานภายในสิบห้าวันนับแต่วันที่เด็กเข้าทำงาน
6. ร่วมกันเป็นนายจ้างให้ลูกจ้างเป็นเด็กอายุสิบแปดปีทำงานในสถานบริการตามกฎหมายว่าด้วยสถานบริการ

7. ร่วมกันเป็นนายจ้างรับผู้ที่มีอายุต่ำกว่าสิบแปดปีบริบูรณ์เข้าทำงานในสถานบริการโดยฝ่าฝืนต่อกฎหมาย
8. ร่วมกันตั้งสถานบริการโดยไม่ได้รับอนุญาต

สถานที่จับกุม ภายในร้านคาราโอเกะ ถนนสมเด็จพระเจ้าตากสิน แขวงดาวคะนอง เขตธนบุรี กรุงเทพมหานคร

สืบเนื่องจากกองกำกับการ 1 กองบังคับการปราบปรามการค้ามนุษย์ ได้รับแจ้งเบาะแสกรณีร้านคาราโอเกะย่านถนนสมเด็จพระเจ้าตากสิน แขวงดาวคะนอง เขตธนบุรี กรุงเทพมหานคร มีพฤติการณ์รับเด็กอายุต่ำกว่า 18 ปี เข้าทำงาน และมีการแฝงค้าประเวณี จึงได้ลงพื้นที่ตรวจสอบ โดยพบว่าร้านดังกล่าวมี นายกฤษณะฯ (ผู้ต้องหาที่ 1) และนางสาวสมสอาจ (ผู้ต้องหาที่ 2) เป็นเจ้าของร้าน/ผู้ดูแลร้าน

โดยจะมีการแนะนำลูกค้าว่าสามารถพาเด็กภายในร้านออกไปเพื่อมีเพศสัมพันธ์ได้ ซึ่งลูกค้าจะต้องจ่ายเงินให้กับทางร้านก่อนที่จะพาเด็กออกไปค้าประเวณี นอกจากนี้ทางร้านยังได้เตรียมถุงยางอนามัยไว้บริการฟรีให้กับลูกค้าที่พาเด็กออกไปอีกด้วย

ทั้งนี้นายกฤษณะฯ จะเป็นผู้พาลูกค้าและเด็กไปส่งที่โรงแรมใกล้เคียงกับบริเวณร้านและกลับมารับที่โรงแรม

จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.1 บก.ปคม. จึงได้ประชุมวางแผนร่วมกันกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สถานีตำรวจนครบาลบุคคโล เพื่อทำการล่อซื้ออำพราง โดยทางสายลับพบนายกฤษณะฯ และนางสาวสมสอาจฯ อยู่ภายในแสดงตัวเป็นเจ้าของร้าน และพบหญิงสาวให้บริการลูกค้าอยู่ภายในร้าน จำนวน 8 คน

ทางสายลับจึงสอบถามพนักงานในร้าน 1 คน ทราบชื่อ นางสาวเอ (สงวนชื่อและนามสกุลจริง) อายุ 15 ปี พบพฤติการณ์ในการลักลอบให้ค้าประเวณีโดยสามารถพาออกจากร้านเพื่อไปมีเพศสัมพันธ์ได้ สายลับจึงได้สอบถามนางสาวเอ เพื่อที่จะพาออกไป ซึ่งนางสาวเอ แจ้งว่าให้ไปติดต่อกับนายกฤษณะฯ ซึ่งนายกฤษณะฯ ได้แจ้งว่าสามารถพาเด็กออกไปได้ โดยให้จ่ายเงินกับทางร้านก่อนจะพาเด็กออกไป สายลับจึงได้นำธนบัตรที่ลงประจำวันไว้ ส่งมอบให้กับ นายกฤษณะฯ โดยนายกฤษณะฯ ได้อำนวยความสะดวกให้กับลูกค้าโดยให้ถุงยางอนามัยฟรี และพาเด็กไปส่งที่โรงแรมใกล้เคียงด้วยตัวเอง ซึ่งขณะทำการตกลงและจ่ายเงินนั้น นางสาวสมสอาจฯ ก็ทราบและรู้เห็นพฤติการณ์ในการนำเด็กไปค้าประเวณีดังกล่าวด้วย จากนั้นสายลับและนางสาวเอ พร้อมนายกฤษณะฯ จึงได้ซ้อนรถจักรยานยนต์เดินทางไปยังโรงแรม และเมื่อ นายกฤษณะฯ กลับมายังร้านเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมจึงได้แสดงตัวเข้าตรวจสอบและจับกุม จากนั้นจึงได้ทำการจับกุมผู้ต้องหาส่งพนักงานสอบสวน กองกำกับการ 1 กองบังคับการปราบปรามการค้ามนุษย์เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

จากการตรวจสอบเพิ่มเติมพบว่าภายในร้านยังมีเด็กซึ่งมีอายุต่ำกว่า 18 ปี อีก จำนวน 3 คน จึงได้ให้ความช่วยเหลือและคุ้มครองกฎหมายต่อไป.