หนุ่มดับเพลิงคลั่ง คว้ามีดไล่แทงเพื่อนร่วมวงเหล้าตาย 1 เจ็บ 3

หนุ่มดับเพลิงคลั่งคว้ามีดไล่แทงเพื่อนร่วมวงเหล้าตาย 1 เจ็บ 3 ปมเหตุเครียดเพราะถูกล้อว่าขโมยของหลวงไปขาย

จากกรณี นายมาย หนุ่มดับเพลิงย่านสมุทรปราการ เกิดอาการคลุ้มคลั่งแล้วใช้มีดไล่แทงเพื่อนร่วมวงเหล้าและพนักงานดับเพลิงในเทศบาล จนทำให้มีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บ เหตุเกิดในบ้านพักของนายมายภายในซอยด่านสำโรง 45/1 เมื่อช่วงเย็นวันที่ 13 มิถุนายนที่ผ่านมา

ความคืบหน้าล่าสุดวันนี้ (14 มิ.ย.) ช่วงสายที่ผ่านมา ทีมข่าวเราลงพื้นที่บ้านพักที่เกิดเหตุอีกครั้ง ไปพูดคุยกับกับทางน้าสะใภ้ของนายมาย เจ้าตัว บอกว่า หลังเกิดเหตุและนายมายถูกจับกุม ตนได้ให้กำลังใจเขาและได้ซื้อข้าวซื้อน้ำเอาไปให้ตามที่เขาร้องขอ ตนยังไม่ได้คุยอะไรกับเขามาก แค่ทราบเพียงว่าเขาจะผูกคอตายเมื่อคืน ตอนนี้อาการเขาก็ดีขึ้นแล้ว แต่ก็ไม่รู้ว่าจะเครียดอีกหรือเปล่า เจ้าหน้าที่ยังไม่ได้สอบปากคำอะไรเพิ่มเติม

เหตุการณ์เมื่อวานเขามานั่งกัน 3-4 คน ตนก็ไม่เห็นอะไรมาก เพราะตนขึ้นบ้านนอนแล้ว พวกเขาสนิทกันมานั่งอยู่ด้วยกันทุกวัน ส่วนสาเหตุนั้นมาจากถูกเพื่อนๆที่ทำงานมาพูดว่า เขาขโมยของ มาเยอะเย้ยเขา ปกติผู้ก่อเหตุเป็นคนนิสัยดี พูดจาดี ไม่ใช่คนก้าวร้าว แต่พักหลังก็คงจะเครียด ทางครอบครัวผู้เสียชีวิตตนก็ยังไม่ได้คุย

ด้านย่าของคนเจ็บ หลังจากเกิดเหตุตนเองก็ติดตามข่าวหลานจากสื่อ ซึ่งยังไม่มีโอกาสได้ไปเยี่ยมหลาน เพราะหลานยังอาการสาหัส รักษาตัวที่โรงพยาบาล ที่ผ่านมาตนเองไม่ได้พักอาศัยอยู่กับหลาน อยู่กันคนละที่ จึงไม่ทราบเรื่องราวที่เกิดขึ้น มาทราบอีกทีคือจากข่าวและมีญาติโทรมาแจ้งบอกว่าผู้บาดเจ็บเป็นหลาน วันนี้จึงเดินทางมา สภ.สำโรงเหนือ เพื่อพบเจ้าหน้าที่

ซึ่งตนเองยังมีโอกาสได้พูดคุยกับทางผู้ต้องหา เจ้าตัวก็สำนึกผิดและขอโทษ ส่วนสาเหตุจากการสอบถามตัวผู้ต้องหา เกิดจากความเครียด เรื่องที่ถูกกดดันและเยาะเย้ยจากเพื่อนร่วมงานในเรื่องที่ถูกกล่าวหาว่าลักของหลวงไปขาย จนเกิดความเครียด หลังจากที่แทงคนที่เสียชีวิตและจะถูกเพื่อนของคนตายรุม จึงแทงคนอื่นในวงเหล้า ซึ่งเจ้าตัวก็สำนึกผิดและบอกว่าไม่ได้ตั้งใจที่จะก่อเหตุ พูดไปเล่าไปก็ร้องไห้ไป ส่วนทางครอบครัวของผู้ต้องหายังไม่ได้เจอหรือพูดคุยอะไรกัน หลังจากนี้ก็ให้เป็นไปตามกฎหมาย

ด้าน พ.ต.อ.วิโรจน์ ตัดโส ผกก.สภ.สำโรงเหนือ สั่งกำชับสิบเวรและเจ้าหน้าที่ให้เฝ้าระวังผู้ต้องหาในห้องขังอย่างใกล้ชิด เพื่อป้องกันไม่ให้ก่อเหตุตามที่หลายฝ่ายกังวล ส่วนการสอบปากคำเบื้องต้น เจ้าตัวยอมรับข้อกล่าวหา ทั้งนี้พนักงานสอบสวนต้องประเมินอาการของผู้ต้องหาด้วยว่ามีภาวะความเครียดสูงหรือไม่ เพราะหวั่นก่อเหตุฆ่าตัวตายหรือทำร้ายร่างกายตนเองในห้องขัง ซึ่งหากพบว่ามีสภาพจิตใจที่ดีขึ้น ก็จะนำตัวออกมาสอบปากคำเพิ่มเพื่อให้ทันฝากขังศาลในวันพรุ่งนี้

ในเบื้องต้นแจ้ง 4 ข้อหา คือทำร้ายร่างกายผู้อื่นจนถึงแก่ความตาย ,ทำร้ายร่างกายผู้อื่นจนได้รับบาดเจ็บสาหัส,ทำร้ายร่างกายและจิตใจผู้อื่นและข้อหาพกพาอาวุธมีดไปในทางเมืองหรือชุมชนสาธารณะ.