สุดช้ำเก็บมาทั้งชีวิต!ลุงน้ำตาร่วงถูกแก๊งคอลเซ็นเตอร์หลอกโอนเงินกว่า 4 หมื่น 

29 มิ.ย. 67

สุดช้ำเก็บมาทั้งชีวิต!ลุงน้ำตาร่วงถูกแก๊งคอลเซ็นเตอร์หลอกโอนเงินกว่า 4 หมื่น นอกจากนี้ยังมีชาวบ้านในเขตพื้นที่เดียวกันถูกหลอกในลักษณะเดียว

29 มิ.ย. 67 มีรายงานว่า นายสุพี อายุ 66 ปี ชาวบ้านหมู่ที่ 1 บ้านนายางกลัก ต.นายางกลัก อ.เทพสถิต จ.ชัยภูมิ เดินทางเข้าแจ้งความร้องทุกข์กับ พ.ต.ท.วุฒิชัย ยืมสูงเนิน สว.(สอบสวน) สภ.เทพสถิตหลังถูกมิจฉาชีพแก๊งคอลเซ็นเตอร์โทรศัพท์อ้างตัวเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐหลอกลวงให้โอนเงินจำนวนกว่า 43,000 บาท

โดยนายสุพี ผู้เสียหายเล่าว่า เมื่อวันที่ 24 มิ.ย. 67 ที่ผ่านมา ได้มีสายโทรศัพท์เป็นเสียงผู้หญิงโดยแอบอ้างเป็นเจ้าหน้าที่โรงพยาบาลแห่งหนึ่งในจังหวัดขอนแก่น แจ้งว่า ตนได้นำเด็กผู้ชายไปรักษาที่โรงพยาบาลแห่งหนึ่งในจังหวัดขอนแก่นเเละได้ทิ้งเด็กอายุประมาณ 3 ปี มาทิ้งไว้ที่โรงพยาบาลโดยมิจฉาชีพแอบอ้างว่า เด็กถูกทำร้ายร่างกายมาได้รับบาดเจ็บจึงได้ทำการรักษาและส่งมอบเด็กให้กับเจ้าหน้าที่ตำรวจเพื่อติดตามหาญาติของเด็ก

9_17

โดยมิจฉาชีพได้ทำทีท่าประสานไปยังเจ้าหน้าที่ตำรวจพร้อมกับให้นายสุพีพูดคุยกับเจ้าหน้าที่ตำรวจเอง ซึ่งมิจฉาชีพก็ได้โอนสายไปยังเจ้าหน้าที่ตำรวจและให้คุยสอบถามกันเมื่อพูดคุยกับเจ้าหน้าที่ตำรวจโดยเจ้าหน้าที่ตำรวจคนที่ตนกำลังคุยด้วยได้อ้างว่าตนมีสิ่งของผิดกฎหมายโดยมีการพูดคุยกันสักระยะก่อนที่ผู้ชายปลายสายจะให้ตนแอดเป็นเพื่อนเพื่อติดต่อพูดกับเจ้าหน้าที่ตำรวจในเรื่องรูปคดี โดยแก๊งคอลเซ็นเตอร์ที่ใช้ชื่อแอบอ้างเป็นนายตำรวจในพื้นที่จังหวัดขอนแก่น พูดชี้แจงและเชิงข่มขู่พร้อมกับให้ตนโยกเงินในบัญชีทั้งหมดโอนไปยังบัญชีของเจ้าหน้าที่เพื่อตรวจสอบหากไม่โอนจะมีความผิดและบัญชีธนาคารจะถูกอายัด

8_11

ทั้งนี้ นายสุพี ด้วยความกลัวเงินในบัญชีจะถูกอายัดเพราะเป็นเงินเก็บจากประกอบอาชีพเป็นพนักงานเก็บน้ำปะปาในหมู่บ้าน โดยสะสมเก็บเงินมาเกือบทั้งชีวิตจึงเอาสมุดบัญชีเดินทางไปที่ร้านค้าที่รับโอนเงินทำธุรกรรมโอนเงินไปยังบัญชีนายเดชา บัญชีม้าแก๊งคอลเซ็นเตอร์จำนวน 2 ครั้ง เป็นเงินรวมกันประมาณ 30,000 บาท นอกจากนี้ยังมีโอนเข้ากับบัญชีธนาคารอื่นๆ กว่า 3,000 บาท รวมเป็นเงิน 43,000 บาท โดยรายชื่อในบัญชีของมิจฉาชีพจะไม่มีรายชื่อซ้ำกัน

จนกระทั่งผ่านไปหลายวันและรู้ตัวว่าถูกหลอกจึงปรึกษาญาติและเดินทางเข้าแจ้งความกับตำรวจสภ.เทพสถิต ระหว่างแจ้งความแก๊งคอลเซ็นเตอร์ได้พยายามโทรศัพท์มาหาตนให้โอนเงินที่เหลือในบัญชีไปเพิ่มซึ่งหลังเกิดเหตุยอมรับว่าเสียใจกับการโดนหลอกลวงเพราะเป็นเงินที่ทำงานมาทั้งชีวิตก็ว่าได้ นอกจากนี้ยังมีชาวบ้านในเขตพื้นที่เดียวกันถูกหลอกในลักษณะเดียวกันจำนวน 2 ราย ทราบว่าเป็นเงินกว่า 100,000 บาท จึงอยากจะฝากเตือนชาวบ้านไม่อยากจะให้ตกเป็นเหยื่อของมิจฉาชีพต่อไป

advertisement

คุณอาจสนใจข่าวนี้

ข่าวยอดนิยม

ทุบโต๊ะข่าว เป็นกระแส