เปิดคลิปน้องชายเกลี้ยกล่อม "บาส" คนร้ายชิงทอง 40 บาท ให้มอบตัวแต่เจ้าตัวไม่ให้ความร่วมมือ ด้านเพื่อนประกาศตัดขาดหลังโกหกเอารถไปชิงทอง
ความคืบหน้ากรณีเมื่อเวลาประมาณ 11:20 น.(18 ก.ค.67) เกิดเหตุคนร้ายบุกเดี่ยวชิงทอง ภายในร้านทองชื่อดังที่ สุขาภิบาล 3 ถนนรามคำแหง เขตมีนบุรี กรุงเทพฯ เจ้าหน้าที่ตำรวจพร้อมสายตรวจจึงได้รีบเดินทางไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ คนร้ายได้หลบหนีไปก่อนหน้าแล้ว
ล่าสุดตำรวจสืบสวน สน.มีนบุรี ได้เชิญตัวเพื่อนของนายพงษ์ศธร มะหะมาน อายุ 26 ปี หรือ บาส ผู้ก่อเหตุ ซึ่งเป็นเจ้าของรถจักรยานยนต์ ที่ นายบาส นำไปใช้เหตุชิงทองในร้านทอง จำนวนกว่า 40 บาท รวมมูลค่ากว่า 1.6 ล้านบาท มาสอบปากคำที่สน.มีนบุรี
ขณะที่เจ้าหน้าที่ได้ให้ข้อมูลกับทีมข่าว ระบุว่า ผู้ก่อเหตุได้ยืมจักรยานยนต์ของเพื่อนที่เป็นไรเดอร์ โดยอ้างว่าจะยืมจักรยานยนต์ไปซื้ออาหารกิน แต่สุดท้ายก็นำรถจักรยานยนต์ไปก่อเหตุ โดยหลังจากก่อเหตุเสร็จ ผู้ก่อเหตุได้นำรถจักรยานยนต์จอดทิ้งไว้ภายในซอยราษฎร์พัฒนา 23 แล้วหลบหนีไป พร้อมทิ้งทองเอาไว้จำนวน 3 เส้น ซึ่งตอนนี้ยังไม่มีข้อมูลว่าคนร้ายได้หลบหนีไปทิศทางใด
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจสืบสวนได้เชิญตัวเพื่อนของผู้ก่อเหตุที่เป็นเจ้าของรถมอเตอร์ไซค์มาให้ข้อมูลกับเจ้าหน้าที่ตำรวจแล้ว โดย ระบุว่าไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ครั้งนี้ พร้อมให้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์แก่ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจว่าผู้ก่อเหตุนั้นเป็นคนติดเกม เคยมีครอบครัวแต่เลิกรากันไป และมีลูกที่ต้องดูแลอายุประมาณ 7-8 ขวบ แต่ยังไม่มีข้อมูลว่าตัวผู้ก่อเหตุติดการพนันหรือติดยาเสพติดหรือไม่
ทั้งนี้ทางตำรวจสืบสวนและพนักงานสอบสวน สน.มีนบุรี ได้รวบรวมข้อมูลพยานหลักฐานต่างๆ เพียงพอแล้ว โดยเตรียมที่จะดำเนินการขออำนาจศาลอาญามีนบุรีเพื่อออกหมายจับนายพงษ์ศธร ผู้ก่อเหตุในครั้งนี้ต่อไป
ขณะที่น้องชายของผู้ก่อเหตุ ได้พยายามโทรศัพท์ไปสอบถามว่าอยู่ที่ไหน พร้อมพยายามเกลี้ยกล่อมให้ผู้ก่อเหตุมอบตัว ซึ่งผู้ก่อเหตุยังไม่ให้ความร่วมมือแต่อย่างใด และพยายามให้น้องชายเปิดกล้องเพื่อจะดูว่าข้างๆน้องชายมีตำรวจอยู่ด้วยหรือไม่ เมื่อผู้ก่อเหตุเห็นตำรวจจึงรีบตัดสาย
ต่อมาเวลา 17.50 น. หลังจากเจ้าหน้าที่ตำรวจสน.มีนบุรี สอบปากคำนายเบนซ์ อายุ 26 ปี เจ้าของรถจักรยานยนต์ที่นายบาสใช้ก่อเหตุ โดยใช้ระยะเวลาสอบปากคำว่า 2 ชั่วโมง
นายเบนซ์ เปิดเผยว่า วันนี้เวลาประมาณ 11.00 น. นายบาสเข้ามายืมรถของตนเอง โดยบอกว่าจะยืมไปซื้อข้าว ซึ่งตนเองได้ให้ยืมเพราะเป็นเพื่อนสมัยเรียนมัธยมต้น และที่ผ่านมานายบาสมายืมบ่อยครั้งใช้ระยะเวลาสั้นๆ ประมาณ 10 นาทีนำรถมาคืน วันนี้จึงไม่คิดว่านายบาสจะนำรถไปก่อเหตุชิงทอง
นายเบนซ์ บอกต่อว่าหลังจากก่อเหตุนายบาสได้ โทรศัพท์มาบอกให้ตนเองไปเอารถจยย.โดยมีการระบุพิกัดมาให้ว่าจอดอยู่ตรงไหน พร้อมบอกว่าขอโทษ แต่ไม่ยอมบอกว่าขอโทษเรื่องอะไร ทั้งนี้ยอมรับว่าตกใจมาก หลังจากที่รู้ว่านายบาสนำรถของตนเองไปก่อเหตุชิงทอง ไม่คาดคิดว่านายบาสจะทำอย่างนี้ จึงฝากไปถึงนายบาสให้รีบมอบตัวเพราะยังไงก็หนีไปพ้น
นายเบนซ์ กล่าวด้วยว่าหลังจากนี้คงไม่คบนายบาสเป็นเพื่อนอีกต่อไป เพราะเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทำให้ตนเองเดือดร้อน และสูญเสียรายได้เพราะไม่สามารถนำรถไปวิ่งงานได้.
อย่างไรนายเบนซ์ ระบุส่วนตัวเคยเป็นเพื่อนกับนายบาส ตั้งแต่สมัยมัฑยม และกลับมาติดต่อกันอีกครั้งประมาณ 2 เดือน เพราะเจอกันที่ร้านเกม แต่นายบาสไม่เคยเล่าเรื่องส่วนตัวให้ฟัง จึง
ไม่ทราบว่านายบาสมีปัญหาด้านการเงิน หรือมีเรื่องเกี่ยวกับการพนันหรือไม่