ช่วยกันจับ ช่วยกันกิน ปลาหมอคางดำ : เปิดสูตรเมนูเด็ด ปลาหมอคางดำหวาน

19 ก.ค. 67

ช่วยกันจับ ช่วยกันกิน ปลาหมอคางดำ : เปิดสูตรเมนูเด็ด ปลาหมอคางดำหวาน รับประทานง่าย ได้หมดทั้งข้าวต้ม ข้าวสวย ข้าวเหนียว

จากกรณีการแพร่ระบาดของ ปลาหมอคางดำ หรือ ปลาหมอสีคางดำ โดยกรมประมงได้ออกมาตรการทั้งระยะสั้นและระยะยาว เพื่อควบคุมและยับยั้งการระบาด โดยหนึ่งในมาตรการระยะสั้น คือ การจับปลาหมอคางดำ มาแปรรูปเป็นอาหารรับประทานในครัวเรือน และนี่คือหนึ่งเมนูเด็ดที่ชวนให้ลองทำ นั่นก็คือ ปลาหมอคางดำหวาน

สูตรการทำ ปลาหมอคางดำหวาน

ปลาหวาน เป็นผลิตภัณฑ์ดั้งเดิมที่ใช้ปลาทะเล เช่น ปลาริวกิว มีรสชาติหวาน กลมกล่อม

ส่วนผสม

• เนื้อปลาหมอคางดำ 1 กิโลกรัม
• เกลือป่น 15 กรัม
• น้ำตาลทราย 250 กรัม
• เกลือป่น (สำหรับล้างปลา)

*** กรณีใช้ปลาที่มีไขมันน้อยให้เติมน้ำมันมะกอก หรือน้ำมันเมล็ดทานตะวันประมาณ 50 กรัม ***

วิธีทำ

1. นำปลาหมอคางดำมาตัดหัว ผ่าท้อง เอาไส้พุงออก ล้างน้ำให้สะอาด แล้วแล่ให้เป็นชิ้นตามความยาวของตัวปลา
2. เนื้อปลาที่ได้นำมาแล่ให้เป็นแผ่นบางๆ อย่าให้ติดหนังปลา
3. ล้างเนื้อปลาด้วยน้ำเกลือความเข้มข้น 2% (น้ำ 1 กิโลกรัม/เกลือ 20 กรัม คนให้ละลาย) แล้วล้างผ่านน้ำอีกครั้ง วางให้สะเด็ดน้ำ
4. ชั่งส่วนผสมตามอัตราส่วน เทส่วนผสมเคล้ากับเนื้อปลาจนเข้ากันดี หมักทิ้งไว้ 2 คืน
5. นำปลาที่หมักได้ที่ไปวางเรียงบนแผงตากปลา นำไปตากแดดนาน 6 ชั่วโมง หรือนำไปอบในตู้อบลมร้อนที่อุณหภูมิ 50 องศาเซลเซียส นาน 4 ชั่วโมง
6.ปลาหวานที่ได้นำมาทอดไฟกลาง ๆ จนสุกทั่วกันดี ก่อนรับประทาน หรือทอดด้วยน้ำจนแห้ง แล้วทอดต่อโดยใช้ไฟอ่อน ๆ ในกระทะจนเหลืองไม่ต้องใส่น้ำมัน (ใช้กระทะเทฟลอน)

451056901_515967724111067_108

วิธีการบรรจุและการเก็บรักษา

ปลาหวานดิบ ใส่ถุงพลาสติกปิดผนึกเก็บในตู้เย็นจะเก็บได้นานหลายเดือน ถ้าต้องการเก็บนาน ควรใส่ช่องแช่แข็ง
ปลาหวานสุก ใส่ถุงพลาสติกปิดผนึกให้แน่น สามารถเก็บที่อุณหภูมิห้องได้นานประมาณ 7-10 วัน ถ้าเก็บในตู้เย็น จะเก็บได้นานหลายเดือน

วิธีรับประทาน

รับประทานกับข้าวสวย ข้าวต้ม หรือข้าวเหนียว

advertisement

คุณอาจสนใจข่าวนี้

ข่าวยอดนิยม