จบสถานะสามีภรรยา หนุ่ม กะลา - จูน เพ็ญชุลี เซ็นใบหย่าแล้ว ด้าน จูน เปิดใจ! รู้สึกหวิวใจหาย ต่างคนต่างแยกย้ายกันไปใช้ชีวิต แต่พร้อมเดินหน้าเป็นพ่อแม่ของลูก
เป็นที่พูดถึงเต็มโซเชียลเป็นอย่างมาก จากกรณีที่ก่อนหน้านี้ นักร้อง “หนุ่ม กะลา” กับ “จูน เพ็ญชุลี” ได้ไกล่เกลี่ยกันบนศาล หลังฝ่ายชายยื่นฟ้องอดีตภรรยา คดียักยอกทรัพย์บริษัทกว่า 66 ล้านบาท ซึ่งก็ได้เคลียร์ทุกปัญหากันแบบลงตัว พร้อมถอนฟ้องคดีนี้เพื่อลูก โดยได้ตกลงกันว่าจะทำการหย่าในวันที่ 25 กรกฏาคมนี้
ล่าสุดวันนี้ (25 กรกฎาคม 2567) เวลา 14.00 น. “หนุ่ม กะลา“ และ “จูน เพ็ญชุลี“ เดินทางมายังที่ว่าการอำเภอเมืองสมุทรปราการ จ.สมุทรปราการตามนัดหมายที่ได้มีการเคลียร์กันในวันขึ้นศาลแขวงสมุทรปราการที่ผ่านมา ซึ่งทาง “จูน เพ็ญชุลี” ได้เดินทางมาพร้อมกับเพื่อนสนิท ก่อนที่ “ ทนายชายพัฒน์ อนุสรณ์ อะสุระพงษ์“ ทนายความส่วนตัว จะตามมาภายหลัง ซึ่งทาง “จูน” นั้นหลังลงจากรถก็ได้มีการทักทายพี่ๆ สื่อมวลชน พร้อมถามถึงความพร้อมในการมาเซ็นใบหย่าในครั้งนี้ ซึ่งเจ้าตัวก็ได้ตอบสั้นๆ ว่า “โอเคค่ะ พร้อมค่ะ” ด้วยสีหน้ายิ้มแย้มไร้ความกังวล ในเวลาต่อมาทางด้าน “หนุ่ม กะลา” ก็ได้เดินทางมาถึงเป็นคนถัดไป ซึ่งเจ้าตัวก็มาพร้อมกับสายฝนที่โปรยปราย ด้านสื่อมวลชนได้มีการทักทายเพื่อถามถึงความพร้อมในวันนี้เช่นกัน แต่เจ้าตัว ทำเพียงแค่ยกมือไหว้พร้อมกับตอบสั้น ๆ “ครับ ครับ ครับ” ด้วยสีหน้าเรียบเฉย
หลังจากได้ทำการเซ็นใบหย่าเสร็จเรียบร้อยนั้นทาง “หนุ่ม กะลา” ก็ได้ เดินทางกลับออกไปก่อนซึ่งทางสื่อมวลชนก็ได้มีการพูดคุยเล็กน้อยกับทางเจ้าตัวเพื่อถามถึงความเรียบร้อยหลังเซ็นใบหย่า เจ้าตัวก็ตอบสั้นๆ กับสื่อว่า เรียบร้อยดี ไม่มีเงื่อนไขอะไรเพิ่มเติม ตามนั้นเลย พร้อมกล่าวขอบคุณทุกคน ก่อนจะขับรถออกไป
หลังจากนั้นเวลา 15.00 น. ทาง “จูน เพ็ญชุลี” พร้อม “ทนายชายพัฒน์ อนุสรณ์ อะสุระพงษ์” ก็ได้ลงให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนถึงความรู้สึกในวันนี้ โดย “จูน” เผยว่า วันนี้ทุกอย่างเรียบร้อยดี ซึ่งก็ได้มีการพูดคุยกันปกติ และได้มาทำตามข้อตกลงที่เราคุยกันไว้ ตอนที่ที่คุยกันอยู่ที่ศาล ในวันนี้ก็ไม่ได้มีเอกสารอะไรเพิ่มเติมเพราะได้ตกลงกับที่ศาลเรียบร้อยหมดแล้ว เราก็แค่มาทำตามข้อตกลง ส่วนเงื่อนไขต่างๆก็ไม่ได้มีอะไรเพิ่ม
ถามถึงความรู้สึก ทาง “จูน” เผยว่า รู้สึกหวิวๆ ใจหาย และสบายใจที่เรื่องนี้มันจบสักที ตนก็พร้อมเริ่มต้นใหม่ พร้อมขอบคุณแฟนๆ ที่ให้กำลังใจทุกคน บรรยากาศเมื่อกี้ก็โอเคไม่ได้มีอะไรมากเหมือนเหมือนเป็นเพื่อนกัน ไม่ได้มีอะไรติดใจกันแล้วพร้อมที่จะเป็นพ่อเป็นแม่ของลูก ดูแลลูกกันไป
ส่วนสภาพจิตใจตอนนี้ก็โอเค เพราะเรื่องนี้คาราคาซังในจิตใจกันมาเกือบสองปี เหมือนได้ยกภูเขาออกจากอก กลับอดีตสามีก็ไม่ได้มีอะไรกันแล้วเคลียร์กันเรียบร้อย ถ้าวัดเป็นเปอร์เซ็นต์ของสภาพจิตใจประมาณ 90% แล้ว
มีการวางแผนชีวิตในอนาคตยังไงบ้างเจ้าตัวก็บอกว่า ตอนนี้ยังเหมือนเดิมตนก็ต้องทำงานเหมือนเดิม และดูแลลูกไปส่วนทางอดีตสามีก็จะดูแลเรื่องค่าใช้จ่ายลูก ซึ่งก็ได้มีการจัดสรรเรื่องค่าใช้จ่ายลูกเรียบร้อย
หลังจากได้จรดปลายปากกาเซ็นใบหย่าไปก็ไม่ได้มีอะไรติดค้างในใจกันแล้วตนรู้สึกโล่งใจด้วยซ้ำ ต่างคนก็ต่างแยกย้ายกันไปใช้ชีวิต เขาก็ไปทำงาน เราก็จะทำงานของเราต่อไป ส่วนความกังวลในใจก็ไม่ได้มีอะไรแล้ว
นอกจากนี้ยังได้ขอถามถึงความคืบหน้าคดีอื่น ทาง “ทนายพัฒน์” ก็บอกว่า ตอนนี้ก็จะดำเนินการต่อไป คิดว่าสักวันนึงก็คงจะมีการยุติ แต่ก็ต้องมีการพูดคุยกัน ซึ่งเป็นคดีที่เกี่ยวกับบุคคลที่สาม เพราะเรื่องนี้มันจบไปมันก็จะเหลือเรื่องให้เราทำน้อยลง
ในส่วนคดีที่เขามีการฟ้องกลับเรานั้นทางทนาย มองว่าจะเน้นการเจรจาเป็นหลัก แต่ถ้าไม่ได้จนิงๆ ก็คงจะดำเนินการทางกฎหมาย ซึ่งจะมีการนัดเจรจากันที่ศาลจังหวัดลพบุรีกันวันต่อพรุ่งนี้ แต่ทาง “จูน” ไม่ได้ไป จะเป็นทนายไปแทนเพราะว่าทาง “จูน” จะต้องทำงานแล้ว
ด้าน “จูน” ก็มีการกล่าวถึงสถาบันครอบครัวว่า คนเราแต่งงานก็ไม่ได้อยากจะหย่ากัน หากครอบครัวไปกันไม่ได้ ก็ต้องหาตรงกลาง และเอาประโยชน์ลูก เป็นที่ตั้งดีกว่า ทะเลาะกันไปก็เท่านั้นยอมถอยได้ก็ถอย และนึกถึงลูกดีกว่า
ถามถึงการกลับมาเป็นเพื่อนกันยังสามารถเป็นเพื่อนกันได้จริงไหม ทาง “จูน” ก็บอกว่าก็ยังได้อยู่เมื่อกี้ก็ได้มีการพูดคุยกันปกติ ตนไม่ได้โกรธอะไรเค้าแล้วเพราะมันจบไปแล้ว หากไม่เข้าใจกันก็ควรถามกันก่อนไม่ใช่ใจร้อน หากเขาไม่ได้ติดใจอะไรแล้วตนก็ไม่ได้ติดใจอะไร เพราะว่าผ่านอะไรกันมากว่า 20 ปี
เรื่องของการเจอลูกมีการแบ่งจัดสรรยังไง “จูน“ บอกว่า ได้คุยกันเรียบร้อยถ้าเค้าอยากจะมาหาลูกเมื่อไหร่ก็ได้แต่ช่วงนี้ ยังไม่ให้ไปค้างด้วย เพราะลูกยังเล็กอยู่แค่นั้นเอง
