แม่รีบพาลูกสาวหนี หลังพาลูกชายซื้อยาบ้าเสพ คลั่งพังบ้าน ฟันเป็นรูพรุนทั้งหลัง จุดไฟเผา แทงชาวบ้านเจ็บ วอนหน่วยงานช่วยนำไปบำบัดให้หาย
วันที่ 29 ก.ค. 67 ผู้สื่อข่าวได้รับการร้องเรียนจากชาวบ้านหมู่ 4 บ้านหัวป่าน้อย ต.พิหารแดง อ.เมือง จ.สุพรรณบุรีว่า เพื่อนบ้านเสพยาบ้าหลอนคลั่งทุบทำลายบ้านจนพังฝาบ้าน มีรอยถูกฟันเป็นรูพรุนทั้งหลัง บางวันจุดไฟเผาบ้านตัวเอง เพื่อนบ้านช่วยดับทัน ชาวบ้านหวาดระแวง
ล่าสุดบุกขอเงินสาวข้างบ้าน ไม่มีให้บุกประชิดตัวหวังเอาเงิน หญิงสาวต้องตะโกนร้องให้คนช่วย พอชาวบ้านมาช่วยกลับใช้มีดแทงได้รับบาดเจ็บไปแจ้งความ ตำรวจบอกวันหยุดรอผลตรวจร่างกาย ปล่อยชาวบ้านอยู่กับชายคลั่งยาด้วยความหวาดผวา จนชาวบ้านสุดทนพบชายก่อเหตุเดินควงมีดกลางถนนในหมู่บ้าน ช่วยกันล้อมจับส่งตำรวจ วอนหน่วยงานช่วยนำไปบำบัดให้หายชาวบ้านจะได้อยู่อย่างปกติสุข
หลังรับแจ้งผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่ไปตรวจสอบพบ นายศุภกิจ มั่นคงดี ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 4 ต.พิหารแดง นางชื่นจิตร ม่วงอุ่น ชาวบ้านที่อยู่ใกล้ที่เกิดเหตุ ได้พาไปดูบ้านผู้ก่อเหตุ ทราบชื่อผู้ก่อเหตุคือ นายจักรกฤษณ์ หรือเบิร์ด อายุ 35 ปี ซึ่งโดนชาวบ้านช่วยกันจับไปที่ สภ.เมืองแล้ว
บ้าน 2 ชั้นสภาพบ้านถูกทุบฝาบ้านสังกะสี มีรอยถูกของแหลมของมีคนฟันแทงเป็นรูพรุนทั้งบ้าน พื้นบ้านชั้นบนเป็นไม้ มีรอยถูกเผาบางจุดถูกฟันเป็นรูปลั๊กไฟฟ้าระโยงระยาง และมีอุปกรณ์เสพยาบ้า ซองพลาสติกใสมีว่ามีเศษยาบ้าหลงเหลืออยู่ ส่วนที่ชั้นล่างประตูห้องต่างๆ พังเสียหมด โถส้วมถูกทุบแตก มีซากรถจักรยานยนต์เหลือ แต่โครงเหล็กอยู่ 1 คัน ตู้เย็นก็โดนทุบจนประตูพัง
ผู้สื่อข่าวได้สอบถาม น.ส.วรรณิษา (สงวนนามสกุล) อายุ 32 ปี เล่าว่า ถูกนายเบิร์ดเมายาบุกเข้ามาที่บ้านมา ข่มขู่ขอเงิน พอบอกไม่มีนายเบิร์ดได้เดินเข้าประชิดตัวจะทำร้าย เพื่อเอาเงิน จึงตะโกนเรียก นายบุญลือ เหล่ากอดี อายุ 43 ปี เพื่อนบ้าน ซึ่งอยู่บ้านใกล้กันให้มาช่วยนายบุญลือจึงมาช่วยไล่ และนายเบิร์ดได้เดินหลบหนีไปที่สวนหลังบ้านนายบุญลือ และน.ส.วรรณิษาได้ตามหาและเจอนายเบิร์ดหลบอยู่ข้างกอพริก เมื่อนายเบิร์ดเห็นนายบุญลือได้ชักมีดแทงนายบุญลือเข้าที่แขนได้รับบาดเจ็บ จากนั้นได้หนีมาทางบ้านตน เจอลูกชายวัย 15 ปี นายเบิร์ดจะทำร้ายลูกชายตนอีก ตนจึงตะโกนห้ามนายเบิร์ดจึงหนีไป
จากนั้นนายบุญลือได้ไปแจ้งความตำรวจลงบันทึกไว้ และตำรวจได้ให้ไปหาหมอทำแผล พร้อมกับบอกว่าใบรับรองผลตรวจไม่ต้องเอามาตำรวจจะไปเอาเอง แต่ตำรวจก็ไม่ได้มาตรวจดูที่เกิดเหตุ หรือมาจับคนร้ายแต่อย่างใด ปล่อยให้ผู้ก่อเหตุลอยนวลอยู่ที่บ้าน ส่วนคนเจ็บ และชาวบ้านต้องอยู่กันอย่างหวาดผวา เพราะไม่รู้ว่าผู้ก่อเหตุจะคลั่งยามาทำร้ายตอนไหน
จากนั้นได้พาผู้สื่อข่าวไปดูจุดเกิดเหตุพบมีดที่นายเบิร์ด ดัดแปลงติดกับท่อPVC ซุกในกอต้นพริก พร้อมรองเท้าและหมวกตกอยู่ในสวนหลังบ้าน
นางชื่นจิตร ม่วงอุ่น ชาวบ้านที่อยู่ใกล้กันได้รับความเดือดร้อน นำวัตถุปลายแหลมของนายเบิร์ดมาให้ดู กล่าวว่า นายเบิร์ดเอามาฝากร้านค้าบอกว่าจะเอาไปให้เทวดา ซึ่งชาวบ้านทุกคนหวาดผวากับพฤติกรรมของนายเบิร์ดมากคลุ้มคลั่ง ตลอดจนทำร้ายชาวบ้าน เมื่อวานตนต้องเฝ้าดู และแจ้งเพื่อนบ้าน ถ้าพบมีอาการอันตรายให้แจ้งจะได้ช่วยกันจับ
เมื่อคืนที่ผ่านมาชาวบ้านพบเดินออกมาตามถนน พร้อมถือมีดจึงไล่จับตัวเอาไว้ได้แล้วแจ้งตำรวจมารับไปดำเนินคดี อยากให้จัดการให้เด็ดขาด ไม่อยากให้กลับมาสร้างความเดือดร้อนให้ชาวบ้านอีก ซึ่งทุกวันแม่ของนายเบิร์ดจะนำข้าวมาส่ง และขับรถพ่วงพานายเบิร์ดออกไป คาดว่าน่าจะพาไปซื้อยาให้เสพ เพราะแม่บอกว่าจะได้ไม่เดือดร้อนชาวบ้าน แต่ปรากฏว่าพอยิ่งเสพยิ่งสร้างความเดือดร้อนให้ชาวบ้านหนักขึ้นไปอีก
นายศุภกิจ มั่นคงดี ผู้ใหญ่บ้าน กล่าวว่า นายเบิร์ดมีพฤติกรรมเสพยาบ้ามาหลายปี มีอาการคลั่งทุบทำลายบ้านตัวเอง และทำร้ายชาวบ้านสร้างความเดือดร้อนให้ชุมชนเป็นอย่างมาก ตนเคยประสานฝ่ายปกครองมาจับส่งบำบัด เมื่อวันที่ 15 ก.ค. ส่งโรงพยาบาลได้ 3 วันก็ปล่อยมาอีกก่อนถูกจับก็เผาบ้านตัวเอง ตนกับชาวบ้านต้องไปช่วยกันดับ ชาวบ้านเดือดร้อน โดนก่อกวน อยากให้หน่วยงานพาไปบำบัดยาวๆ จนหายเป็นปกติแล้วค่อยปล่อยออกมา ตอนนี้อยากให้กฏหมายเพิ่มโทษให้รุนแรง เพราะโทษมันน้อย แต่ฤทธิ์ยามันแรงขนาด แม่และน้องนายเบิร์ดยังต้องหนีไปอยู่ที่อื่นชาวบ้านต้องอยู่อย่างหวาดระแวง ซึ่งตอนนี้ตนได้ให้ น.ส.วรรณิษาผู้เสียหายที่ถูกบุกรุกจะเข้าไปขู่เอาเงิน เตรียมไปแจ้งความข้อหาบุกรุกยามวิกาล และข่มขู่คุกคามเพิ่มเติมอีกด้วย