พระพยอมสู้ต่อเอาที่ดินถุงกล้วยแขกคืน ยันได้โฉนดถูกต้องตามกฎหมาย

1 ส.ค. 67

พระพยอม สู้ต่อเอาที่ดินถุงกล้วยแขกคืน ยืนยันได้โฉนดที่ดินถูกต้องตามกฎหมาย ไวยาวัจกรวัดแจ้งความฐานคู่กรณีปลอมแปลงโฉนดใหม่ทับโฉนดเก่า

จากกรณีข้อพิพาทเรื่องที่ดินถุงกล้วยแขก (โฉนดเลขที่55600) พื้นที่ ต.บางเลน อ.บางใหญ่ จ.นนทบุรี ของมูลนิธิสวนแก้วที่มีเนื้อที่ 1 ไร่ 1 งาน 55 ตารางวา ที่พระพิศาลธรรมพาที (พระพยอมกัลยาโณ) เจ้าอาวาสวัดสวนแก้ว ได้จัดซื้อในวันที่ 9 กันยายน 2547 ในราคา 10 ล้านบาท จากการแบ่งขายมาจากโฉนดเลขที่ 8216 ของนางวันทนา สุขสำเริง (ผู้ครอบครองที่ดินปรปักษ์ผืนดังกล่าว)

ต่อมาในปี 2563 มีบุคคลเข้ามาอ้างว่าเป็นเจ้าของที่ดินตัวจริง ซึ่งในตอนนั้นนางวันทนา เป็นผู้ครอบครองที่ดินปรปักษ์กลับไปให้ข้อมูลกับทางคู่กรณีว่าเป็นผู้เช่า ทำให้ผู้ที่อ้างตัวว่าเป็นเจ้าของที่ดินได้ยึดคืนพื้นที่ดังกล่าวและนำสังกะสีมาล้อมรั้วห้ามให้บุคคลภายนอกเข้าพื้นที่

ซึ่งในตอนแรกพระพยอมได้ให้ทนายเข้ามาดูแลเรื่องนี้ แต่ปรากฏว่าไม่สามารถต่อสู้อะไรได้ จึงยอมจำนน แต่ก็ตั้งคำถามกับสังคมว่าหากเป็นที่ที่มีเจ้าของแล้วทำไมกรมที่ดินถึงออกโฉนดที่ดินให้กับตน แล้วตนก็ได้ทำการซื้อที่ดินในราคา 10 ล้านบาท หรือนี่เป็นช่องโหว่ของหน่วยงานราชการ

1722517489866

ล่าสุดวันที่ 30 ก.ค.67 พระพยอมกัลยาโณ เจ้าอาวาสวัดสวนแก้ว ได้กล่าวกับทีมข่าวว่า พอจะเข้าใจเรื่องทั้งหมดแล้ว จากเดิมที่ตนก็มีข้อสงสัยว่าตนผิดอะไร หรือเจ้าหน้าที่ที่ดินผิดอะไร ถึงทำโฉนดที่ดินมาให้ตนได้ แต่ตอนนี้เข้าใจและขอสู้ต่อ โดยให้ไวยาวัจกรของวัดเข้าแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจถึงประเด็นที่ดินดังกล่าว โดยแจ้งความในคดีอาญาจากคำพิพากษาชั้นต้นและชั้นอุทธรณ์ ในการขับไล่รื้อถอนสิ่งปลูกสร้างของวัดและมูลนิธิสวนแก้วให้เป็นโมฆะและโมฆียะ โดยการฟ้องขับไล่โฉนดที่ดินของวัดสวนแก้วเป็นการฟ้องที่นำเอกสารเท็จมากล่าวอ้างฟ้องขับไล่ จึงให้ไวยาวัจกรของวัดนำหลักฐานดังกล่าวแจ้งความต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจสภ.รัตนาธิเบศร์ เพื่อให้สืบสวนว่ามีใครเกี่ยวข้องในเรื่องนี้บ้างและดำเนินคดีเรื่องนี้ให้ถึงที่สุด

1722517555059

โดยพระพยอม ยังบอกกับทีมข่าวอีกว่าถ้าพูดให้เข้าใจง่ายๆคือเดิมที่เดิม 1 ไร่ 1 งาน 55 ตารางวาที่ตนซื้อมาในราคา 10 ล้านบาทเมื่อหลาย 10 ปี ก่อนนั้นตนก็มีเอกสารโฉนดที่ดินที่ชัดเจน ซึ่งออกให้โดยกรมที่ดิน แต่เมื่อเกิดปัญหามีผู้กล่าวอ้างว่าเป็นเจ้าของที่ดินตัวจริง และอ้างว่าโฉนดที่ดินของพระพยอมเป็นของปลอมได้จ้างให้ทนายความและก็ได้รับคำปรึกษาจากทนายความและปฏิบัติตาม ตอนนั้นก็เข้าใจว่าคงจะต้องคืนที่ดินให้กับเขา จนกระทั่งมาทราบภายหลังว่าทนายความคนดังกล่าวเปรียบเหมือน"ปลาหมอคางดำ" เข้ามาเพื่อหาผลประโยชน์ให้กับฝ่ายตรงข้ามและมาทราบภายหลังว่า ทางคู่กรณีมีการปลอมแปลงเอกสารสิทธิ์ โดยได้ทำโฉนดที่ดินทับกับโฉนดที่ดินที่พระพยอมซื้อมา ซึ่งโฉนดที่ดินอีกฉบับอยู่ฝั่งตรงข้ามกับที่ดิน 1 ไร่ของพระพยอม โดยมีถนนสาธารณะกั้นจนมาทราบภายหลังว่าโฉนดที่ดินของคู่กรณีเพิ่งมาเขียนทับ โดยที่ทนายความของทางวัดสวนแก้วก็ไม่ได้มาชี้แจงเรื่องนี้ ที่แท้โฉนดที่ดินที่พระพยอมได้รับมานั้นเป็นโฉนดที่ดินที่ถูกต้องตามกฎหมาย จึงขอฝากถึงทนายปลาหมอคางดำ อยากให้สารภาพผิดรับผิดกับสิ่งที่ทำ

ล่าสุดทีมข่าวลงพื้นที่ไปยังที่ดินแปลงดังกล่าวปรากฏว่าก็ยังพบว่ามีสังกะสีกั้นโดยรอบพื้นที่ แต่ในพื้นที่ยังมีบ้านเรือนของประชาชนอยู่ 1 หลังคาเรือนเป็นเป็นชาวบ้านผู้ยากไร้ที่คอยดูแลพื้นที่ให้กับเจ้าของ หน้าพื้นที่ยังมีการติดป้ายพื้นที่ส่วนบุคคลห้ามบุกรุก นอกจากนี้ยังมีการติดป้ายใบแจ้งความบุคคลที่เข้าไปในพื้นที่พระพยอมและบริวารอีกด้วย แต่ใบแจ้งความดังกล่าวระบุไว้ตั้งแต่ปี 2563.

advertisement

advertisement

คุณอาจสนใจข่าวนี้

ข่าวยอดนิยม

ข่าวทั่วไป เป็นกระแส