ศรัทธาล้นหลาม สายมูเตลู แห่เจิมหน้าผาก ลอดเศียรพ่อแก่ "วัดสร่างโศก" คลองด่าน สมุทรปราการ หลังวัดโด่งดังกลายเป็นที่รู้จักในโซเชียลเพียงพริบตาจากคนที่มาขอโชคลาภแล้วประสบความสำเร็จ ทำรถติดยาวกว่า 3 กม. ด้านชาวบ้านในพื้นที่บอกชื่นใจ ค้าขายดี
นางสาว พจนีย์ สัมฤทธิ์ดี แม่ค้าในวัดบอกว่าจากประสบการณ์ของตนที่ได้เข้าไปกราบไหว้หลวงพ่อให้เจิมหน้าผากเพื่อขอโชคลาภ หลังจากนั้นตนก็มีโชคถูกหวย 2 งวดติด นอกจากตนแล้วยังมีชาวบ้านที่เข้ามาขอโชคลาภแล้วถูกรางวัลอีกหลายคน คนที่โชคดีถูกหวยนับล้านบาทก็มี ซึ่งเมื่อก่อนวัดนี้ยังไม่เป็นที่รู้จักหลังจากมีคนโชคดีแล้วนำไปลงโซเชียลก็ทำให้วัดโด่งดังจนมีคนหลั่งไหลเข้ามาทำบุญจำนวนมาก
นางสาว เพ็ญนภา จันทร์ชรา บอกว่าตนเดินทางมาจากกรุงเทพฯ ซึ่งมาวัดนี้เป็นครั้งแรกเช่นกันเพราะเห็นและรู้จักวัดนี้มาจาก TikTok ว่ามีคนมาขอโชคลาภและประสบความสำเร็จ ซึ่งวันนี้มาก็พบว่าคนต่อแถวยาวมาก ตนก็ไม่ท้อเพราะไหนๆ ก็มาแล้ว
นาย สมชาย ควรดี อายุ 50 ปี ชาวคลองด่านบอกว่าตนเคยเป็นเด็กวัดที่นี่ อยู่ที่นี่มาตั้งแต่เด็ก วัดนี้มีประวัติยาวนาน ที่ผ่านมาคนก็เข้ามาเรื่อยๆ แต่ทุกวันนี้คนเข้ามาเยอะมากเพราะมันเป็นกระแสในโซเชียลที่คนเข้ามาขอพรแล้วได้โชคลาภกลับไป ทำให้คนหลั่งไหลมาทำบุญจำนวนมาก จนที่จอดรถของวัดไม่เพียงพอ ทำรถติดยาวจนล้นออกไปถนนใหญ่
ส่วนคนในชุมชนก็ดีใจที่วัดในชุมชนของตนเป็นที่รู้จัก มีคนเข้ามาในชุมชนจำนวนมาก ตนไม่เคยเห็นแบบนี้มาก่อนปกติตนไม่เคยขายของเห็นคนเยอะเลยเอาของมาขายก็ขายดีมาก ตอนนี้ก็มีอีก 1 อาชีพแล้ว ส่วนชาวบ้านคนอื่นๆ ก็ไม่มีใครบ่นเรื่องรถติด มีแต่ช่วยกันรับแขกให้ที่จอดรถและอำนวยความสะดวกในเรื่องต่างๆ
สำหรับ "วัดสร่างโศก" มีสิ่งศักดิ์สิทธิ์ให้สักการะแบบครบทุกแขนงตั้งแต่ พ่อปู่ฤาษี พระมหามุนี พระธาตุ เทพจีน เทพอินเดีย และมีพระเจ้าอาวาสคอยนั่งเจิมหน้าผากให้กับประชาชนที่เดินทางไปกราบไหว้สิ่งศักดิ์ภายในวัดด้วย
ประวัติ วัดสร่างโศก เป็นวัดมอญโบราณ สร้างขึ้นประมาณปี พ.ศ.2300 ไม่ปรากฏหลักฐานแน่ชัดว่าใครเป็นผู้สร้างและได้รับการบูรณปฏิสังขรณ์ให้สมบูรณ์เมื่อ พ.ศ.2360 ตามหลักฐานของกรมที่ดินระวางที่ 41 ระบุชื่อวัดนี้ว่า "วัดปากอ่าว" แต่ชาวบ้านนิยมเรียกว่า "วัดมอญ" เพราะอยู่ใกล้คลองมอญตามที่ปรากฏในระวางที่ดิน และบริเวณนี้มีชาวมอญอาศัยอยู่มาก แต่จากการบอกเล่าสืบต่อกันมาจากชาวบ้านบ้างก็ว่าชื่อ "วัดอัฎฐวราราม" เพรามีกุฎิ 8 หลังบ้างก็เรียกว่า "วัดอัศวราราม" เพราะวัดนี้เป็นที่ตั้งกองทัพม้าของพระเจ้าตากสินมหาราช
ต่อมาภายหลังได้รับการเปลี่ยนแปลงนามวัดใหม่โดยสมเด็จพระสังฆราชเจ้ากรมพระยาปวเรศวริยาลงกรณ์(สมเด็จพระสังฆราชในสมัยรัชการที่5) เป็น "วัดเตลงรมณ์" หรือ "วัดทะเลงลม" ในปีพ.ศ.2482 เปลี่ยนนามใหม่เป็น "วัดโพธิ์ทอง" ครั้งถึง พ.ศ.2483 จนในที่สุดทางราชการได้เปลี่ยนนามวัดเสียใหม่เป็น "วัดสร่างโศก" เพื่อให้สอดคล้องกับพระนามของ "พระองค์หญิงโศกสว่าง" พระราชธิดาในสมเด็จพระปิ่นเกล้า
