อดีตพนง.การไฟฟ้าถูกแก๊งคอลเซ็นเตอร์หลอก เครียดฆ่าตัวตาย

11 ส.ค. 67

อดีตพนักงานการไฟฟ้าเกษียณ ถูกแก๊งคอลเซ็นเตอร์หลอกลงทุนทำธุรกิจเสื้อผ้า สูญเงินก้อนสุดท้าย เครียดผูกคอฆ่าตัวตาย

เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองจันทบุรี เดินทางตรวจสอบ ภายในบ้านพัก ในซอยข้างวัดเขาแก้วหมู่ 5 ต.ท่าช้าง อ.เมือง จ.จันทบุรี หลังได้รับแจ้งว่ามีคนผูกคอฆ่าตัวตาย พบร่างผู้เสียชีวิตเพศชาย 1 ราย ใช้เชือกในลอนสีเขียวผูกคอมัดห้อยกับขื่อเหล็กโครงหลังคากลางบ้าน ข้างศพพบมีเสื้อกับกางเกงขายาวสีดำถูกรีดพับไว้อย่างดีวางพาดไว้บนเก้าอี้พลาสติก โดยบนเสื้อพบมีจดหมายเขียนด้วยปากกา ที่ผู้ตายสั่งลาถึง น้องชาย พี่สาว ลูกชาย และเพื่อนบ้านที่สนิท ใช้ไม้หนีบติดไว้กับเสื้อจำนวน 4 หน้ากระดาษ

1723341573800

จากการสอบสวน ทราบชื่อผู้เสียชีวิตคือ นายปรีชากร (ขอสงวนนามสกุล) เพิ่งจะมีอายุครบ 71 ปีเต็ม เมื่อวันที่ 9 ส.ค.ที่ผ่านมา ขณะที่ นาง ปิ่นแก้ว อายุ 55 ปี เพื่อนสนิทของผู้ตาย ให้ข้อมูลว่า นายปรีชากร เป็นอดีตพนักงานรัฐวิสาหกิจการไฟฟ้า เกษียณอายุ มาได้ประมาณ10 ปี และได้กลับไปอยู่บ้านเดิมที่ภูเก็ตและได้กลับมาเช่าบ้าน พักอาศัยอยู่ที่จันทบุรี ได้ประมาณ 1 ปีเศษ โดยมีเงินติดตัวที่อดีตภรรยาแบ่งให้มาประมาณเกือบ 1 แสนบาท

1723341552699

โดยเมื่อประมาณ 2 เดือน ที่ผ่านมาทราบว่า นายปรีชากร ถูกแก๊งคอลซ็นเตอร์หลอกเงิน ไปประมาณ 20,000 บาท ก็เลยคิดว่าน่าจะเสียใจ น้อยใจปัญหาหลายอย่างที่มาสะสมพร้อมกัน ก่อนหน้านี้เคยเอ่ยว่าอยากฆ่าตัวตายหลายครั้ง แต่เพื่อนบ้านรวมทั้งตนได้ช่วยห้ามไว้และคอยเป็นกำลังใจให้

ล่าสุดเมื่อวานที่ผ่านมายังพบพูดคุยกับผู้ตาย โดยบอกว่าเป็นวันเกิดและอยากกินเป็นวันสุดท้าย จนช่วงเช้าวันนี้เพื่อนบ้านสังเกตว่ายังไม่เห็นผู้ตายเปิดประตูออกมา จนช่วงเย็นเห็นว่านานผิดสังเกต จึงเข้าไปทางประตูด้านหลังก็พบว่าได้ก่อเหตุผูกคอเสียชีวิตแล้ว

ด้านนาย ไมตรี อายุ 35 ปี เจ้าของร้านก๋วยเตี๋ยวเรือที่อยู่ติดกัน บอกอีกว่าผู้ตายเคยมาขอความช่วยเหลือเรื่องโอนเงิน เพราะโอนไม่เป็น ซึ่งตนมีแอพธนาคารอยู่แล้ว จึงช่วยโอนเงินให้ ซึ่งตอนนั้นบอกเพียงว่าโอนไปลงทุนทำธุรกิจเกี่ยวกับเสื้อผ้า โดยผู้ตายบอกว่าต้องส่งสลิปให้ทางเว็บไซต์ เมื่อเข้าไปดูได้สังเกตุว่าในเว็บไซต์คนที่ตอบโต้มา ไม่ได้ใช้รูปที่เป็นคน แต่ใช้เป็นรูปอวตาร จึงได้พยายามเตือนตลอด จนเช้าวันที่ 4 ผู้เสียชีวิตมาบอกว่าน่าจะถูกแก๊งคอลเซ็นเตอร์หลอกแล้ว ซึ่งเงินก้อนล่าสุดที่โดนคือ 20,000 บาท ซึ่งจากรูปการณ์ของแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ก็มารูปแบบเดิม คือโอนกำไรมาให้ก่อนเพื่อให้เหยื่อตายใจ จากนั้นจะเริ่มให้เหยื่อลงทุนหนักขึ้น และไม่สามารถเบิกถอนเงินคืนได้ โดยอ้างต้องให้เติมเงินตามยอดที่กำหนดก่อน.

advertisement

advertisement

ข่าวยอดนิยม

ข่าวทั่วไป เป็นกระแส