ทบ. ฟันวินัย-อาญา คดีครูฝึก-ครูผู้ช่วยลงโทษ พลทหารดับ

15 ส.ค. 67

ทบ. ฟันวินัย-อาญา 3 ผู้บังคับบัญชาตามลำดับชั้น พร้อม ลงโทษ 13 ครูฝึก-ครูผู้ช่วย พลทหารดับระหว่างการฝึก ยันให้ความเป็นธรรม ไม่ปกป้องคนผิด 

จากกรณี นาย วรปรัชญ์ หรือน้องเน อายุ 18 ปี ทหารเกณฑ์ค่ายแห่งหนึ่งในจ.ชลบุรีโดนซ้อม จากการซ่อมวินัยจนเสียชีวิต ตามที่มีการนำเสนอข่าวไปก่อนหน้านี้ 

ต่อมาวันที่ 15 ส.ค.67 ที่กองบัญชาการกองทัพบก (บก.ทบ.) พ.อ.ริชฌา สุขสุวานนท์ รองโฆษกกองทัพบก เปิดเผยว่า จากกรณีที่พลทหารของหน่วยทหารในค่ายนวมินทราชินี จ.ชลบุรี เกิดการบาดเจ็บ และเสียชีวิตจากถูกลงโทษในระหว่างการฝึก ทางกองทัพภาคที่ 1 ขอชี้แจงข้อเท็จจริงให้สังคมได้รับทราบดังนี้ พลทหารที่เสียชีวิตดังกล่าว เป็นกำลังพลในสังกัด กองพันทหารราบที่ 3 กรมทหารราบที่ 21 รักษาพระองค์ เข้าประจำการ เป็นพลทหารผลัดที่ 1/67 

โดยในระหว่างการฝึกทหารใหม่ในเดือน มิ.ย.67 ได้ถูกครูฝึกที่เป็นกำลังพลชั้นยศนายสิบ และครูผู้ช่วยที่เป็นทหารกองประจำการ ร่วมกันลงโทษด้วยการกระทำเกินกว่าเหตุ จนมีอาการบาดเจ็บ จากนั้นทางหน่วยฝึกได้ส่งเข้ารับการรักษาตัวในโรงพยาบาลค่ายนวมินทราชินี จ.ชลบุรี และส่งต่อไปรักษาตัวยัง โรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้า กทม. อย่างต่อเนื่อง จนกระทั่งเมื่อวันที่ 2 ส.ค. 67 ผู้ป่วยได้มีอาการทรุดลง และเสียชีวิตในเวลาต่อมา     

พ.อ.ริชฌา กล่าวอีกว่า หน่วยต้นสังกัดเมื่อทราบเหตุว่ามีการลงโทษพลทหารดังกล่าวเกินกว่าเหตุแล้วได้ตั้งคณะกรรมการสอบสวนกำลังพลที่เกี่ยวข้องทั้งหมด โดยแยกเป็นการดำเนินการทางวินัยต่อผู้บังคับบัญชาที่ขาดการกำกับดูแลจำนวน 3 นาย ตั้งแต่ระดับผู้บังคับหมวดจนถึงผู้บังคับกองพัน และการดำเนินคดีทางอาญา กับผู้ที่กระทำความผิด ซึ่งเป็นกำลังพลนายสิบและทหารกองประจำการจำนวน 13 นาย ข้อหา "ร่วมกันทำร้ายร่างกายผู้อื่น จนเป็นเหตุให้ผู้นั้นถึงแก่ความตาย       

“ปัจจุบันกลุ่มผู้กระทำผิด ถูกควบคุมตัวอยู่ ณ เรือนจำ มทบ.14 และอยู่ในระหว่างขั้นตอนการสืบสวนสอบสวนเพิ่มเติม นอกจากนี้ทางหน่วยต้นสังกัดได้มอบเงินเยียวยาให้กับครอบครัว พร้อมทั้งอำนวยความสะดวกและให้การรักษาพยาบาลผู้บาดเจ็บ รวมถึงการจัดพิธีทางศาสนาเมื่อกำลังพลเสียชีวิต” พ.อ.ริชฌา กล่าว       

ทั้งนี้ทางกองทัพภาคที่ 1 ขอยืนยันว่า จะให้ความเป็นธรรมแก่ครอบครัวผู้เสียหาย โดยไม่ปกป้องผู้กระทำความผิด และให้ความช่วยเหลือดูแลในการดำเนินคดีอย่างเต็มความสามารถ จึงขอชี้แจงให้สังคมได้รับทราบข้อเท็จจริง และขอเเสดงความเสียใจต่อเหตุการณ์ดังกล่าวมาในโอกาสนี้

advertisement

advertisement

คุณอาจสนใจข่าวนี้

ข่าวยอดนิยม

ข่าวทั่วไป เป็นกระแส