น้ำโขงเริ่มลด แต่ยังไม่พ้นวิกฤต ลำน้ำสาขาเอ่อล้นตลิ่งท่วมพื้นที่การเกษตรนับหมื่นไร่ ยังคงต้องเฝ้าระวังตลอด 24 ชม.
วันที่ 2 กันยายน 67 ที่จังหวัดนครพนม คืบหน้าสถานการณ์ปริมาณน้ำโขงล่าสุดตรวจวัดเมื่อเวลา 9.00 น.ระดับน้ำอยู่ที่ 10.58 เมตร ลดลง 21 เซนติเมตร ห่างจากจุดวิกฤต 1.42 เมตร คือที่ 12 เมตร ยังส่งผลกระทบให้น้ำที่รอระบายในพื้นที่ลำน้ำสาขา ไม่สามารถไหลลงน้ำโขงได้ทัน
เนื่องจากระดับน้ำโขงยังคงสูงอยู่ อีกทั้งบางแห่งมีน้ำโขงไหลย้อนเข้าพื้นที่ลุ่มชุมชน และพื้นที่ทางการเกษตรในพื้นที่ 6 อำเภอใกล้ลำน้ำ ทั้งแม่น้ำโขง น้ำก่ำ น้ำสงคราม น้ำอูน ลำน้ำยาม ทำให้เอ่อท่วมพื้นที่ทางการเกษตร โดยเฉพาะนาข้าวเสียหายกว่า 4 หมื่นไร่แล้ว หากระดับน้ำยังแช่ขังเป็นเวลานาน จะทำให้พืชผลทางการเกษตรเสียหายเพิ่มขึ้น
ทางด้านผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนมกำชับ 6 อำเภอที่อยู่ริมตลิ่งแม่น้ำโขงและลำน้ำสาขาให้เฝ้าระวังและติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด เนื่องจากยังคงมีปริมาณน้ำฝนตกสะสมในพื้นที่อยู่ตลอดเวลา อาจส่งผลให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก รวมทั้งให้ติดตามสถานการณ์น้ำอย่างใกล้ชิด และเตรียมการเฝ้าระวังผลกระทบที่อาจเกิดจากสถานการณ์น้ำล้นตลิ่งบริเวณแม่น้ำโขง
ด้านนายวันชัย จันทร์พร ผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม ได้สั่งการไปยังทุกอำเภอที่อยู่ในพื้นที่เสี่ยงที่อยู่ติดแม่น้ำโขง และลำน้ำสาขาทั้งอำเภอเมืองนครพนม อำเภอท่าอุเทน อำเภอธาตุพนม อำเภอบ้านแพง อำเภอเรณูนคร และอำเภอศรีสงคราม ให้เฝ้าระวังติดตามสถานการณ์น้ำอย่างใกล้ชิด พร้อมเตรียมความพร้อมทั้งบุคลากร เครื่องมืออุปกรณ์ เครื่องจักรกลยุทโธปกรณ์ ให้ความช่วยเหลือทันทีตลอด 24 ชั่วโมง เบื้องต้นคาดว่ามีพื้นที่ได้รับความเสียหาย 3 อำเภอ 14ตำบล 111 หมู่บ้าน เกษตรกรได้รับผลกระทบ 4,150 ราย พื้นที่คาดว่าจะเสียหายกว่า 3 หมื่น 8 พันไร่
