อดีตนักแสดงสุดเซ็ง เงินหมื่นหายในรพ.เอกชนชื่อดัง ทั้งที่นอนห้องพิเศษจนท.บอกให้ทำใจ เรื่องแบบนี้เกิดขึ้นบ่อย

9 ก.ย. 67

 

อดีตนักแสดงสุดเซ็ง เงินหมื่นหายในรพ.เอกชนชื่อดัง ทั้งที่นอนห้องพิเศษเดี่ยว จนท.บอกให้ทำใจ เรื่องแบบนี้เกิดขึ้นบ่อย ทองหายก็เคยมี ขณะที่ ตร.ชี้ตามยาก เพราะไร้หลักฐาน          

วันที่ 9 ก.ย. 67 ที่จ.นนทบุรี นาย อำนาจ กัญญาโส หรือ อ๊อด อายุ 56 ปี อดีตนักแสดงตัวประกอบยุค 90 อาทิ ซุปเปอร์ลูกทุ่งกรุงศรีวิไล ซึ่งเล่นบทเป็นเด็กดมกาวบนรถไฟ, ไซง่อนแตก รับบทวิ่งหลบหลุมระเบิด ร้องเรียนกับผู้สื่อข่าวว่า หลังตนเองนอนเฝ้าไข้ลูกสาวที่โรงพยาบาลเอกชนแห่งหนึ่ง แล้วกระเป๋าสตางค์ ซึ่งภายในมีเงินสด 15,000 บาท รวมทั้งบัตรประจำตัวประชาชน บัตรATM หายในห้องพิเศษที่ลูกสาวตนเองนอนไม่สบายอยู่ 

หลังเกิดเหตุตนได้สอบถามทางเจ้าหน้าที่โรงพยาบาล ก็บอกว่าให้ตนเองทำใจ เพราะเรื่องแบบนี้เกิดขึ้นบ่อย ก่อนหน้านี้ก็เคยมีทองหาย โรงพยาบาลไม่สามารถรับผิดชอบให้ได้ เมื่อเข้าแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ปากเกร็ด ทางเจ้าหน้าที่ก็บอกว่าแจ้งความได้ แต่ให้ตามหาคนเอาไปคงยาก เพราะไม่มีหลักฐาน 

นายอำนาจ กล่าวว่า เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 20 เม.ย. 67 ล่วงเลยมากว่า 5 เดือนแล้ว ลูกสาวตนเองอายุ 14 ปี เรียนอยู่ชั้น ม.2 โรงเรียนชื่อดังแห่งหนึ่ง ซึ่งลูกตนล้มป่วยด้วยโรคไข้หวัด จึงเข้านอนพักรักษาตัวอยู่ในห้องพิเศษเดี่ยว ระหว่างเช็กเอาท์ออกจากโรงพยาบาล พบว่ากระเป๋าใส่สตางค์ของตนเอง ซึ่งมีเงินสด 15,000 บาท และเอกสารสำคัญได้หายไป 

โดยตนวางอยู่บนโต๊ะในห้องผู้ป่วยของลูกสาว เมื่อสอบถามทางเจ้าหน้าที่ของโรงพยาบาล เพื่อขอดูกล้องวงจรปิดก็พบว่า มีพยาบาลเดินเข้าออกและหายไปนานอยู่ 10 นาที ตนพยายามพูดจาขอร้อง เพื่อขอกล้องวงจรดังกล่าว แต่ทางโรงพยาบาลบอกไม่สามารถให้ได้ และให้ตนทำใจ เพราะผู้ป่วยที่มานอนที่นี่ข้าวของหายบ่อย ก่อนหน้านี้ก็มีผู้ป่วยรายหนึ่งสร้อยคอทองคำหาย โรงพยาบาลเองคงไม่ต้องรับผิดชอบทุกราย 

ต่อมาตนเองได้เข้าแจ้งความกับพนักงานสอบสวน สภ.ปากเกร็ด ให้ช่วยติดตามคนที่เอากระเป๋าสตางค์ตนเองไป แต่ตำรวจก็ได้แค่ลงบันทึกประจำวันเป็นหลักฐาน ไม่ได้สอบปากคำอะไร ตนเพียงแต่บอกว่าไม่มีหลักฐานอะไรที่จะบ่งบอกหรือชี้ชัดว่าใครเอากระเป๋าสตางค์ตนเองไป เรื่องแบบนี้ดำเนินการได้ยาก จนเวลาผ่านมานานเกือบ 5 เดือน ตนคิดว่าคดีของตนคงเงียบหายจึงอยากร้องเรียนกับผู้สื่อข่าวให้ช่วยเป็นกระบอกเสียงเตือนภัย หากมีครอบครัวใดนอนพักรักษาตัวในโรงพยาบาลก็ให้ระวังทรัพย์สิน เพราะขนาดเป็นห้องพิเศษเดี่ยวของยังหายได้ ก็อยากให้เรื่องราวของตนเองเป็นอุทาหรณ์ เพื่อไม่ให้คนอื่นต้องมาเจอแบบตนแบบนี้

advertisement

advertisement

คุณอาจสนใจข่าวนี้

ข่าวยอดนิยม

ข่าวทั่วไป เป็นกระแส