สุดเศร้า! สูญเสียเสาหลักของครอบครัว หัวหน้าป่าไม้ดับระหว่างล่าแก๊งมอดไม้ ลูกยังเล็ก แถมเมียเพิ่งตั้งท้องลูกอีกคน
จากกรณีเจ้าหน้าที่ป่าไม้ไล่ตามรถบรรทุกขบวนการค้าไม้เถื่อน อ.ภูพาน จ.สกลนคร จนรถแหกโค้ง เสียชีวิต 1 บาดเจ็บ 3 รายที่ อ.นาคู จ.กาฬสินธุ์ เมื่อวานนี้ (10 ก.ย.67)
ต่อมาวันที่ 11 ก.ย. 67 ผู้สื่อข่าวเดินทางไปที่บ้านท่าตูม ต.ท่าตูม อ.เมือง จ.มหาสารคาม ซึ่งเป็นบ้านของนายพลวัฒน์ ชนะบุญ หรือ แซ็ค หัวหน้าหน่วยป้องกันรักษาป่าที่ สน.4 กรมป่าไม้ ได้ตั้งศพเพื่อสวดอภิธรรมไว้ภายในบ้าน ที่หน้าบ้านมีพวงหรีดจำนวนมาก และในวันพรุ่งนี้ (12 ก.ย. 67) จะมีพิธีพระราชทานเพลิงศพวัดป่าสโมสร
โดยบรรยากาศเป็นไปด้วยความโศกเศร้า มีญาติ เพื่อนบ้านมาแสดงความเสียใจกับครอบครัว
นางวัลภา ริดพวง อายุ 35 ปี ภรรยาได้อุ้มลูกสาวน้องน้ำมนต์วัย 1 ขวบ 7 เดือนที่กำลังร้องไห้ตลอด เปิดเผยว่า ตนเองทำงานเป็นผู้ช่วยนักวิชาการป่าไม้ ที่อุทยานแห่งชาติทับลาน จ.ปราจีนบุรี วันที่เกิดเหตุตนเองออกจาบ้านกำลังขับรถไปทำงาน ยังไปไม่ถึงที่ทำงานเลย ตกใจมาก ต้องจอดรถเพื่อตั้งสติ ไม่คิดว่าจะเกิดเหตุการณ์แบบนี้
ตอนนี้ตนเองตั้งครรภ์ลูกอีกคน เพิ่งไปตรวจมาได้ 1 เดือนเศษ สามีเป็นคนดี ไม่น่าอายุสั้น ตนเองก็อยากบอกเขาว่าไม่ต้องห่วง จะเลี้ยงและดูแลลูกทั้ง2ให้ดีที่สุด ในวันพรุ่งนี้ (12 ก.ย.) ก็จะเป็นงานพระราชทานเพลิงศพ
ด้านนายสินไชย ชนะบุญ อายุ 62 ปี พ่อของนายพลวัฒน์ กล่าวว่า ได้ทราบข่าวตอนเช้า มีญาติโทรหาบอกว่าลูกชายเสียชีวิตแล้ว หัวอกคนเป็นพ่อมันจุกพูดอะไรไม่ออก ลูกชายเพิ่งจะสร้างครอบครัว มีลูกสาวเพิ่งจะอายุได้ 1 ปี 8 เดือน เพิ่งจะพูดเก่งเรียกพ่อเรียกแม่เรียกปู่เรียกย่า เพิ่งจะรู้จักภาษา
แซ็คเป็นลูกชายคนที่สอง เพิ่งจะบรรจุได้ 2 ปีเศษ ลูกชายเป็นคนดูแลพ่อแม่ เป็นเสาหลักของบ้าน ขาดเหลืออะไรก็อยู่กับลูก ลูกชายมีความใฝ่ฝันที่จะเป็นเจ้าหน้าที่ป่าไม้ ตอนเรียนมหาวิทยาลัยฯได้โควตาหลายที่ ทั้งม.มหาสารคาม ม.ขอนแก่น แต่ลูกเลือกที่จะเรียน ม.แม่โจ้ พ่อกับแม่ก็ส่งเรียนจนจบ พอลูกเรียนจบก็มาบวชให้พ่อแม่ 3 เดือน จากนั้นก็ไปหาสอบ ทำงานตอนแรกก็ได้เป็นพนักงาน ต่อมาก็สอบบรรจุได้เป็นข้าราชการที่นครพนม สังกัดกรมป่าไม้ ซึ่งลูกชายจะกลับบ้านที่ จ.มหาสารคามเป็นประจำ เพื่อที่จะกลับมาดูแลพ่อแม่ มาอยู่เป็นเพื่อน
ซึ่งลูกชายก็เล่าให้ฟังเสมอว่าได้ไปจับไม้เป็นประจำในเขตรับผิดชอบ ทั้งนครพนม กาฬสินธุ์ สกลนคร และมุกดาหาร ซึ่งบางครั้งไปจับแล้ว ก็มีผู้หลักผู้ใหญ่โทรศัพท์มาขอจากที่จับได้หลายๆ อย่างก็ให้ของกลางเหลือน้อย ซึ่งลูกชายได้รายงานผู้บังคับบัญชาไปแล้ว ได้รายงานไปตามความเป็นจริง
ลูกชายเป็นทำงานจริงจัง เป็นคนซื่อ ซึ่งพ่อเคยเตือนว่าเวลาไปจับไม้ให้ระวังที่สุด อย่าไปคนเดียว ลูกชายก็บอกว่าไม่ได้ไปคนเดียว มีทีมงาน มีลูกน้องไปด้วยกัน ในวันที่เกิดเหตุลูกน้องของลูกชายมาเล่าให้ฟังว่าได้มีการติดกล้องติดตามไว้ในป่า มีผู้ลักลอบมาตัดไม้ ลูกน้องก็เลยโทรมาบอกทางลูกชายก็ได้รีบเดินทางกลับไปที่หน่วย โดยออกจากบ้านไปช่วงตี 5 ก่อนที่จะไปประสบเหตุช่วง 6 โมงกว่าๆ เกือบ 7 โมงที่ อ.นาคู จ.กาฬสินธุ์ ซึ่งเหตุการณ์แบบนี้ในความคิดของคนเป็นพ่อมองว่าระบบราชการเมืองไทยทำยังไงก็สู้ผู้มีอิทธิพลไม่ได้ คุณจะเก่งหรือมีอุดมการณ์แค่ไหนก็สู้เขาไม่ได้
ลูกชายตนมีอุดมการณ์ ตายแล้วก็เอาคืนมาไม่ได้ มันแก้ไขไม่ได้ ต่อให้มีการปฏิรูปก็แก้ไขอะไรไม่ได้ความสำคัญมันอยู่กับคนในชุมชน และผู้อยู่เบื้องหลังชาวบ้านธรรมดาจะไปตัดไม้หวงห้าม ชาวบ้านก็น่าจะมีความเกรงกลัวไม่กล้าทำ แต่หากมีผู้อยู่เบื้องหลังมีผู้สั่งการต้องการไม้แบบนั้นแบบนี้ไปตัดมาให้หน่อย ซึ่งรถคันที่ก่อเหตุเป็นรถเก่าๆ แต่รถของเจ้าหน้าที่ป่าไม้เป็นรถโฟร์วีลระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ ยังสกัดไม่ได้ ถ้าไม่มีคนอยู่เบื้องหลัง คงยอมให้จับไปนานแล้ว
นางอุเทียน ชนะบุญ อายุ 62 ปี แม่ของนายพลวัฒน์ กล่าวว่า ลูกชายเป็นคนดี ตั้งแต่เด็กๆ จะช่วยเหลือพ่อแม่จะช่วยทำงานบ้านทุกอย่าง จนกระทั่งได้ทำงานก็ยังทำอยู่ปกติ แล้วตนกับนายสินไชยจะเป็นคนเลี้ยงลูกสาวของนายพลวัฒน์ ปู่กับย่าจะเป็นคนเลี้ยงวันเสาร์อาทิตย์ นายพลวัฒน์กับภรรยาก็จะกลับบ้านมาหาลูกหาพ่อแม่ ซึ่งเมื่อขาดเสาหลักไปแล้วก็เป็นกังวล เพราะนอกจากจะต้องเลี้ยงหลานสาววัย 1 ขวบ 8 เดือนแล้ว ตอนนี้ภรรยาของนายพลวัฒน์กำลังตั้งท้องอ่อนๆ ได้เดือนกว่าๆ ซึ่งพ่อกับแม่ก็เพิ่งจะทราบ เพราะทางนายพลวัฒน์กับภรรยานัดกันว่าสัปดาห์นี้จะไปหาหมอฝากครรภ์ก่อนแล้วถึงจะมาบอกพ่อกับแม่ แต่ลูกชายก็มาเสียชีวิตเสียก่อน ต่อไปก็ไม่รู้ว่าจะเป็นยังไง กังวลว่าจะเลี้ยงหลานได้มั้ย เพราะลำพังลูกสะใภ้ก็เงินเดือนไม่เยอะ และยังต้องเลี้ยงดูลูกอีก 2 คน ส่วนเงินเยียวยาตอนนี้ก็ยังไม่ทราบว่าจะมีมาจากหน่วยงานไหนบ้าง