“ก้อย รัชวิน” หัวอกแม่แทบขาดใจ ลูกชักหยุดหายใจไปต่อหน้า เหตุติดเชื้อในกระแสเลือด

1 ต.ค. 67

บีบหัวใจคนเป็นแม่ ! “ก้อย รัชวิน” เล่าเหตุการณ์ นาทีชีวิตลูกชาย “น้องทะเล” ชักและเหมือนหยุดหายใจไปต่อหน้า ขณะที่สามี “ตูน บอดี้สแลม”ติดงานคอนเสิร์ตอยู่ที่ประเทศสวีเดน

โดยล่าสุดวันนี้ 1 ตุลาคม 2567 “ก้อย รัชวิน” โพสต์ไอจีว่า "ตอนแรกคิดว่าจะไม่บอกใคร เพราะกลัวทุกคนจะตกใจ แต่หลังจากที่ทุกคนได้อ่านข้อความของพี่ตูนแล้ว ก็มีหลายคนส่งข้อความมาหาก้อย ก้อยจึงเขียนโพสต์นี้เพื่อเก็บบันทึกเหตุการณ์สำคัญที่บีบหัวใจแม่ที่สุดและไม่คาดคิดว่าจะเจอ รวมถึงคิดว่าอาจจะเป็นประโยชน์กับคุณพ่อแม่คุณแม่หลายๆ คนที่มีลูกน้อยเหมือนกัน"

"บ่ายไปรับทะเลที่โรงเรียน คุณครูบอกว่าน้องตัวรุมๆ นิดหน่อย แต่ยังร่าเริงตามปกติ ช่วงเย็นก้อยพาน้องทะเลกับเวลามาเดินเล่น ให้อาหารปลาที่ Eden Vallay น้องยังหัวเราะสนุกสนาน แล้วก้อยต้องเข้าไปในงานevent ที่ Eden จัดขึ้น เลยให้พี่เลี้ยงพาน้องไปอาบน้ำทานข้าวระหว่างที่รอก้อย ที่บ้านพี่ก้อย เจ้าของสวน Eden ที่อยู่ไม่ไกลจากที่จัดงาน พอเสร็จงานก็เข้าไปรับน้องที่บ้าน เข้าไปไม่ถึง 2 นาที พี่เลี้ยงอุ้มน้องทะเลวิ่งเข้ามาหาก้อยด้วยสีหน้าตื่นตกใจ “พี่ก้อยคะๆ ทะเลเป็นอะไรไม่รู้”"

"ภาพที่ก้อยเห็นก็คือ น้องมีอาการชักเกร็ง ตาเหลือกบนเหมือนคนหมดสติ ไม่มีเวลาให้ตกใจ แม่รีบตั้งสติและงัดวิชาปฐมพยาบาลที่เคยเรียนมา ก้อยตะโกนเรียก “ทะเลๆ ได้ยินแม่มั้ย” พร้อมกับเอามือจะทำ CPR แต่ด้วยความที่ลูกตัวเล็ก และกลัวว่าจะทำไม่ถูกจุด แล้วเค้าจะเจ็บ จึงตัดสินใจผายปอดให้ลูกในทันที ด้วยสัญชาติญาณของแม่ที่ต้องการให้ลูกฟื้นคืนกลับมาให้เร็วที่สุด"

"แต่เค้าก็ยังไม่มีปฏิกิริยาตอบสนองใดๆ ปากน้องเริ่มเปลี่ยนสี และอาการดูไม่ดีแล้ว ก้อยรีบอุ้มลูกและพาไปโรงพยาบาลที่ใกล้ที่สุด ตอนนั้นคือ รพ.ถลาง พอไปถึง ก้อยก็รีบไปยังห้องฉุกเฉิน รีบวิ่งเท้าเปล่าเข้าไป ทางเจ้าหน้าที่รีบช่วยกันเช็ดตัวให้น้อง จนน้องได้สติและเสียงร้องไห้ดังขึ้นมา …"

"วินาทีนั้นแม่แทบจะหยุดหายใจ กลัวว่าลูกจะเป็นอะไร และไม่เคยเจอเหตุการณ์แบบนี้มาก่อนในชีวิต ทั้งหมดมันเกิดขึ้นเร็วมาก แต่ในความรู้สึกของแม่ที่เห็นลูกหมดสติและเหมือนหยุดหายใจไปต่อหน้า มันช่างยาวนานจนแทบจะขาดใจ พอได้ยินเสียงลูกร้องดังออกมา มันจึงเหมือนยกภูเขาออกไปจากอก เพราะในที่สุดลูกก็กลับมาหาแม่"

"หลังจากนั้นรถพยาบาลก็มารับน้องเพย้ายไปที่รพ.กรุงเทพอย่างปลอดภัย คุณหมอวินิจฉัยว่า น้องติดเชื้อในกระแสเลือด และมีอาการไข้ขึ้นสูงเฉียบพลันจนทำให้เกิดอาการชัก ซึ่งโดยปกติจะเกิดขึ้นได้ในเด็กแรกเกิด-2ขวบ แต่ทะเลที่กำลังจะ 3 ขวบอีกในวันอีก 5 วันข้างหน้า ก็ถือว่าแปลกแต่ก็มีโอกาสเกิดขึ้นได้ ประเด็นคือก่อนหน้าที่น้องจะชักน้องไม่มีอาการตัวร้อนจี๋หรือมีอาการใดๆที่ดูผิดปกติเลยแม้แต่นิดเดียว"

"ได้แต่คิดว่า ถ้าก้อยมาถึงบ้านเพื่อนช้าไปกว่านี้…ถ้าก้อยไม่ได้มีพี่เล็ก(คนขับรถ) ที่ช่วยขับรถไปให้แบบในหนัง fast and furious …แล้วถ้าลูกไม่ฟื้นขึ้นมา… จะทำอย่างไร"

"เหตุการณ์นี้เหมือนเป็นบททดสอบความเป็นแม่ครั้งยิ่งใหญ่ให้กับก้อย แม้ว่ากว่าจะผ่านด่านนี้มันไม่ง่ายเลยและการมีสติ คือสิ่งที่สำคัญที่สุดจริงๆ"

"จึงอยากบอกพ่อแม่ทุกคนว่า หากลูกมีอาการชักจากไข้สูงห้ามเอาช้อนหรืออะไรยัดเข้าไปในปาก (หลายคนเข้าใจผิดในจุดนี้) แต่ให้ตะแคงตัวลูกและเอาผ้าชุบน้ำเช็ดตัวให้ตัวเย็นเร็วที่สุด และหากลูกยังไม่ฟื้นกลับมาให้รีบไปโรงพยาบาลทันที และก้อยได้ให้น้องทะเลทำการตรวจคลื่นไฟฟ้าสมอง(EEG) เพื่อจะหาสาเหตุของอาการชักและจะได้มั่นใจว่าเค้าจะไม่มีโอกาสเป็นโรคลมชักในอนาคตซึ่งผลออกมาว่า คลื่นสมองของน้องทะเลนั้นปลอดภัยดีไม่มีอะไรน่ากังวล"

"ขอบคุณคุณหมอเกด รพ.กรุงเทพภูเก็ต ที่กำลังจะออกเวรแต่วนรถกลับมาเพื่อนั่งรถ ambulance มาช่วยทะเลและคุณหมอธนิตนันท์ แพทย์เฉพาะทางเรื่องการชักที่อยู่เวรวันนั้นพอดี ขอบคุณคุณหมอและพี่ๆเจ้าหน้าที่ที่รพ.ถลางที่ช่วยทะเลไว้ทัน ขอบคุณพี่ก้อย พี่พอล น้องบิว น้องภู ครอบครัวภูเก็ตของก้อย ที่รีบออกจากงานมาช่วยก้อยที่โรงพยาบาล ขอบคุณพี่เล็ก ที่ขับรถตู้ให้ประหนึ่งขับมอเตอร์ไซด์วิน ขอบคุณพี่แฟง อภิชาตเพื่อนที่รีบบินจากกทม.ลงมาดูใจแม่ทะเล ขอบคุณพี่กิฟท์ พี่เก่ง Gymboree คุณฮาชิ น้องทุม พี่เกด รวมถึงทุกๆคนที่ส่งกำลังใจมาให้น้องทะเลนะคะ และขอบคุณ “ตัวเอง” ที่มีสติที่สุด ในวันที่ต้องเจอกับเรื่องที่ยากที่สุดในชีวิต"

"โดยที่ก้อยต้องเผชิญกับเรื่องนี้โดยที่ไม่มีพี่ตูนอยู่ข้างๆ เพราะพี่ตูนเล่นคอนเสิร์ตอยู่ที่สวีเดน วันเกิดเหตุก้อยไม่สามารถเล่าดีเทลทั้งหมดให้พี่ตูนฟังได้ เพราะกลัวว่าเค้าจะไม่มีกะจิตกะใจทำงาน แต่พอเสร็จคอนเสิร์ตปุ๊ปพี่ตูนก็รีบเปลี่ยนไฟล์ทจากที่ต้องกลับวันอังคารดึกๆให้กลับมาถึงวันจันทร์ตอนเช้า เพื่อจะได้กลับมาหาลูกให้เร็วที่สุด… สุดท้ายจึงอยากขอบคุณโชคชะตาและใครบางคน ที่ทำให้ครอบครัวเรายังได้อยู่กันพร้อมหน้า และได้กลับมากอดกันอีกครั้ง…ขอบคุณจริงๆ ค่ะ"

 

อ่านต่อ

“ตูน บอดี้สแลม” อยากร้องไห้ ตัวไกลบ้าน รู้ข่าวลูกชายชัก หมดสติ ถูกนำส่งรพ.

 

snapinsta.app_461784195_18459

snapinsta.app_461864224_18459

snapinsta.app_461735835_18459

snapinsta.app_461735313_18459

snapinsta.app_461831397_18459

snapinsta.app_461755259_18459

snapinsta.app_461782766_18459

snapinsta.app_461800102_18459

snapinsta.app_461803932_18459

advertisement

คุณอาจสนใจข่าวนี้

ข่าวยอดนิยม

ข่าวบันเทิง เป็นกระแส