"สัปเหร่อไฮโซ" เผยดูแลพิธีพระราชทานเพลิง 23 ศพฯ อย่างสมเกียรติ

"สัปเหร่อไฮโซ" เผย ดูแลพิธีพระราชทานเพลิงศพฯ ส่งครู-นักเรียนสู่วรรค์ตามประเพณีอย่างสมเกียรติ จัดดอกไม้ทั่วบริเวณให้คล้ายกับสรวงสวรรค์

วันที่ 6 ต.ค.67 นายเนรมิต ศรีเมือง สัปเหร่อไฮโซ ในฐานะจิตอาสา เปิดเผยถึงพิธีพระราชทานเพลิงศพ ครู-นักเรียนจากเหตุไฟไหม้รถบัสทัศนศึกษา ว่าสำหรับขั้นตอนช่วงนำร่างของน้องๆและคุณครูเข้าเตาเผาศพ ลักษณะเตาไฟฟ้าโมบายปลอดมลพิษ ซึ่งมีทั้งหมด 7 เตาในตอนนี้ มีน้ำหนัก 7-10 ตัน จะจัดตั้งที่บริเวณสนามหน้าอาคารโรงเรียนให้เสร็จภายในวันนี้ โดยตั้งเตาหันไปทางทิศเหนือด้านหลังเป็นทิศใต้ ส่วนศีรษะของผู้เสียชีวิตจะไปทางทิศตะวันตกอยู่แล้ว เนื่องจากญาติของผู้เสียชีวิตอยากให้ตั้งเตาตามจารีตประเพณี จึงมีการตั้งเตาตามทิศตะวันตกเพื่อให้ทางญาติผู้เสียชีวิตสบายใจ

จากนั้นจะเป็นการประดับดอกไม้ทั่วบริเวณให้คล้ายกับสรวงสวรรค์ เพราะจะส่งดวงวิญญาณผู้ล่วงลับให้สู่สวรรค์ตามประเพณี และจะจัดพิธีอย่างสมเกียรติ เพื่อให้ญาติผู้เสียชีวิตและพี่น้องชาวไทยมั่นใจได้ว่าพิธีนี้จะจัดอย่างสมบูรณ์เพื่อส่งดวงวิญญาณทุกท่าน

สำหรับพิธีในวันดังกล่าวจะมีการเคลื่อนร่างของน้องๆ นักเรียนมารอบละ 7 ร่าง มาที่บริเวณหน้าเตาเผาศพไฟฟ้า แล้วผูกสายโยงและทำพิธีแพ่งราษฎร ซึ่งพิธีแพ่งราษฎรคือพิธีที่ซื้อที่ดินจากเจ้าที่เจ้าทางหรือบอกกล่าวเจ้าที่เจ้าทาง

แต่จะไม่มีการเปิดโลงศพให้กับญาติผู้เสียชีวิตดูหน้าน้องนักเรียนและคุณครูเป็นครั้งสุดท้าย เนื่องจากอยากให้จำภาพดีๆของทุกท่านที่จากไปเพื่อเป็นความทรงจำที่ดี จากนั้นเป็นการวางดอกไม้จันทน์ นำร่างทั้ง 7 เข้าเตาเผาศพทันที ซึ่งจะนำร่างเข้าเตาเผาศพให้เสร็จหมดสิ้นก่อน และรอบสุดท้ายจะเป็นการนำร่างของครูทั้งสามท่าน คือ ครูสาวน้อย ครูจอย และครูมิ้ม เข้าเตาในรอบสุดท้าย

แต่ละร่างใช้เวลาประมาณ 40-50 นาที หลังเผาร่างเสร็จสิ้นจะต้องทำพิธีอีกประมาณ 15-20 นาที เพื่อนำเถ้ากระดูกและอัฐิกระดูกนำออกมาพักไว้และใช้พัดลมเป่าให้เย็น ก่อนนำผ้าขาวโทเร ซึ่งเป็นผ้าที่นำมาตัดชุดนักเรียนมารองที่พาน แล้วห่อเถ้ากระดูกและอัฐิ แล้วตั้งขบวน โดยมีพระสงฆ์นำเป็นขบวนเคลื่อนห่อผ้าเถ้ากระดูกและอัฐิกระดูกมาตั้งชั่วคราวที่ศาลาอเนกประสงค์

จากนั้นวันถัดไปจะประกอบพิธีความแปรธาตุปกติภาคประชาชนที่ศาลาอเนกประสงค์ คือการปั้นเถ้ากระดูกและอัฐิกระดูกเป็นรูปคน แล้วโปรยดอกไม้พรมน้ำมนต์ ก่อนนำอัฐิกระดูกไปใส่ในลุ้งลอยอังคาร เพื่อให้ญาติไปประกอบพิธีลอยอังคารต่อไป.