เริ่มคืนนี้ 11 ต.ค. 67 "ดาวหางจื่อจินซาน-แอตลัส" ปรากฏเหนือฟ้าเมืองไทย

11 ต.ค. 67

สดร. เผย "ดาวหางจื่อจินซาน-แอตลัส" กลับมาปรากฏเหนือฟ้าเมืองไทยอีกครั้ง ช่วงหัวค่ำตั้งแต่ 11 ต.ค. 67 เป็นต้นไป คาดสว่างจนมองเห็นด้วยตาเปล่า

นายศุภฤกษ์ คฤหานนท์ ผู้จัดการศูนย์บริการวิชาการและสื่อสารทางดาราศาสตร์ สถาบันวิจัยดาราศาสตร์แห่งชาติ (องค์การมหาชน) หรือ สดร. (NARIT) เปิดเผยว่า "ดาวหางจื่อจินซาน-แอตลัส" หรือ C/2023 A3 (Tsuchinshan-ATLAS) จะกลับมาปรากฏให้ชมในช่วงหัวค่ำ ตั้งแต่วันที่ 11 ตุลาคม 2567 เป็นต้นไป สังเกตได้ทางทิศตะวันตก ทันทีที่ท้องฟ้ามืดสนิท บริเวณทางขวาของดาวศุกร์ (ดาวที่ปรากฏสว่างที่สุดในช่วงนี้ทางทิศตะวันตก) นักดาราศาสตร์ได้คาดการณ์ว่าดาวหางจะมีค่าอันดับความสว่างปรากฏถึงประมาณ -4  (ตัวเลขน้อยสว่างมาก ตัวเลขมากสว่างน้อย) จึงอาจมองเห็นได้ด้วยตาเปล่า ในสภาพท้องฟ้ามืดสนิท ปราศจากมลภาวะทางแสง โดยจะปรากฏอยู่บนท้องฟ้าจนถึงเวลาประมาณ 18:35 น. ตามเวลาประเทศไทย จากนั้นในวันถัด ๆ ไปจะสังเกตการณ์ได้นานขึ้น

150023

สำหรับวันที่เหมาะสมแก่การสังเกตการณ์ที่สุด คือวันที่ 13 ตุลาคม 2567 เนื่องจากดาวหางจะโคจรเข้าใกล้โลกที่สุด ระยะห่าง 70.6 ล้านกิโลเมตร ปรากฏสว่าง และอยู่ในตำแหน่งที่ไม่ชิดขอบฟ้าจนเกินไป ทำให้มีเวลาสังเกตการณ์พอสมควร และด้วยค่าอันดับสว่างปรากฏที่มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ จึงคาดว่าใน
วันที่ 13 ตุลาคม ดาวหางมีโอกาสที่จะปรากฏสว่างบนท้องฟ้าใกล้เคียงกับความสว่างของดาวศุกร์ได้

สำหรับเทคนิคหาตำแหน่งดาวหาง เมื่อทราบตำแหน่งคร่าว ๆ แล้ว ให้สังเกตวัตถุท้องฟ้าที่มีลักษณะปรากฏเป็นฝ้าจาง ๆ หรือดาวดวงหนึ่งที่ไม่ได้คมชัดเช่นดาวดวงอื่น หากใช้กล้องโทรทรรศน์หรือกล้องสองตาสังเกตการณ์จะช่วยยืนยันลักษณะ และเห็นดาวหางได้ชัดเจนยิ่งขึ้น หากบันทึกภาพด้วยการเปิดหน้ากล้องนาน ๆ จะถ่ายติดหางที่ยาวออกมา สำหรับภาพดาวหางขนาดใหญ่ที่ปรากฏให้เห็นในข่าวต่าง ๆ ล้วนแต่เป็นภาพถ่าย หากสังเกตด้วยตาเปล่าจะไม่เห็นเป็นเช่นนั้น

461588605_969802165187388_335

ดาวหาง C/2023 A3 (Tsuchinshan-ATLAS) หรือ ดาวหางจื่อจินซาน-แอตลัส ค้นพบครั้งแรกช่วงต้นปี พ.ศ. 2566 โดยนักดาราศาสตร์จากหอดูดาวจื่อจินซาน (紫金山天文台) สาธารณรัฐประชาชนจีน และระบบเครือข่ายกล้องโทรทรรศน์ ATLAS (Asteroid Terrestrial-impact Last Alert System) ประเทศแอฟริกาใต้ นักดาราศาสตร์ทั่วโลกได้เฝ้าติดตามสังเกตการณ์ และพบว่าความสว่างปรากฏมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ โดยเมื่อวันที่ 28 กันยายน 2567 ที่ผ่านมา ดาวหางได้โคจรเข้าใกล้ดวงอาทิตย์มากที่สุด และรอดพ้นจากการแตกสลายมาได้ และกำลังโคจรเข้าใกล้โลกในวันที่ 13 ตุลาคม 2567 ก่อนที่ดาวหางจะโคจรออกห่างจากโลกไปเรื่อย ๆ และจะไม่กลับมาอีก

 

advertisement

advertisement

คุณอาจสนใจข่าวนี้

ข่าวยอดนิยม

ข่าวทั่วไป เป็นกระแส