"บอสพอล" ดิไอคอน กรุ๊ป พูดครั้งแรกหลังพบตร. รับเสียใจช้าแต่ตั้งใจเยียวยา อุบตอบประเด็นดาราเป็นบอสบริษัท ยืนบริษัทสร้างมา 6 ปีถูกต้อง
ความเคลื่อนไหวของ “บอสพอล” ดิไอคอนกรุ๊ป บริษัทธุรกิจตลาดตรงที่ถูกกล่าวหาว่าเชิญชวนผู้เสียหายกว่า 300 คน ลงทุนในการขายสินค้าออนไลน์ แต่กลับไม่ได้รับผลตอบแทนตามที่แจ้งไว้ กลายเป็นคดีใหญ่ที่สะเทือนสังคมไทย
ล่าสุดเมื่อเวลา 13.30 น. วันที่ 12 ต.ค. 67 ที่่ผ่านมา นาย วรัตน์พล วรัทย์วรกุล หรือ บอสพอล ผู้ก่อตั้ง อาณาจักรธุรกิจออนไลน์ ดิไอคอนกรุ๊ป (The iCon Group) ผู้ผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร เพื่อสุขภาพและความงาม ได้เดินทางเข้ามาให้ปากคำตำรวจ ปคบ. ที่กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง
โดย "บอสพอล" ได้เปิดใจครั้งแรกต่อสื่อมวลชนสั้นๆ ว่า จริงๆ ก็ตั้งใจเข้ามาแสดงความบริสุทธิ์ใจครับแล้วก็เข้ามาสู่กระบวนการยุติธรรม ส่วนตัวก็ได้ทราบข่าวแล้วก็ รู้สึกเสียใจ แล้วก็รู้สึกไม่ดีมากๆ มาโดยตลอด ก็รอที่จะเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม และชี้แจงในเรื่องต่างๆ
โดยนักข่าวจี้ถามว่า ช้าไปหรือไม่ เพราะเรื่องราวเกิดมาเป็นอาทิตย์แล้วแล้วคุณเพิ่งออกมาแสดงความเสียใจในวันนี้ ซึ่งทางบอสพอลระบุว่า ตนมองว่า ถ้าสําหรับสําหรับสังคมทุกคนที่ติดตามอยู่ ก็ถือว่าช้ามาก ซึ่งทางเราก็มีความตั้งใจว่าจะช่วยเหลือเยียวยาสําหรับผู้ที่ประสบปัญหาต่างๆ ทั้งคนที่เสียเงิน และสูญเสียชีวิตต บอสพอลชี้แจงว่า ตนก็จะต้องไปตรวจสอบข้อเท็จจริงทั้งหมด แล้วก็จะหาแนวทางร่วมกัน เดี๋ยวอาจจะมีตัวกลางซึ่งเป็นคนที่สังคมให้ความเชื่อมั่นเชื่อถือ มาเป็นตัวกลางในการทําให้เกิดความยุติธรรมสูงสุด รวมทั้ง จะต้องมีการพิสูจน์ในการให้ข้อมูลทั้งสองฝ่าย ในกรณีที่มีคนที่สูญเสียเงินนั้นเกิดจากความผิดพลาดของบริษัทเราหรือไม่ ซึ่งถ้าเกิดว่าการให้ข้อมูลทั้งสองฝ่ายทั้งฝ่ายของบริษัทแล้วแล้วก็ทางฝ่ายที่ประสบปัญหาได้แล้วเสร็ต เชื่อว่าเดี๋ยวถ้าสังคมได้ข้อมูลสองฝ่ายแล้ว ก็น่าจะสามารถตัดสินได้ด้วยตัวเอง หรือถ้าเกิดว่าเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม ก็จะตัดสินได้ชัดเจน
ขณะเดียวกัน นักข่าวถามชัดๆ กรณีดารา นักแสดงที่เกิดคำถามว่า มีการเข้ามามีส่วนร่วมในการเป็นเป็นเป็นผู้บริหารด้วยหรือไม่นั้น เรื่องนี้ ทางบอสพอล ยังไม่ตอบ บอกเพียงว่า ประเด็นตรงนี้เดี๋ยว ขออนุญาตมันเป็นข้อมูลในสำนวน
และคำถามสำคัญที่สุด ก็คือ คำยืนยันว่าธุรกิจที่บอสพอลทําให้ถูกต้องตามกฎหมายใช่หรือไม่ ตรงนี้เจ้าตัวยืนยันชัดเจน ว่าในส่วนตัว สร้างบริษัทมาจนถึงวันนี้ก็ประมาณ 6 ปีแล้ว ก็ไม่เคยคิดเหมือนกันว่า การขายของออนไลน์ในลักษณะนี้ เป็นสิ่งที่ผิดกฎหมาย “ผมก็เชื่อมาตั้งแต่วันแรกว่าเป็นสิ่งที่ถูกกฎหมาย เพราะว่าจริงๆ ผมเองก็ไม่ใช่คนแรก แล้วก็ไม่ใช่เจ้าแรกที่สามารถจะคิดหรือจะทําธุรกิจแบบนี้ได้ แต่เราก็จะเห็นรุ่นพี่ในธุรกิจออนไลน์หลายๆ แบรนด์ที่เขาทําแล้วก็เห็นเขาเติบโตเห็น เขาประสบความสําเร็จดี เราก็มองว่าก็น่าจะเป็น เป็นสิ่งที่ดีที่ที่เราสามารถที่จะตั้งสินค้าที่ดีบริษัทที่ดีแล้วก็ สามารถจะขายของ ทิ้งท้ายคำถามเด็ดนักข่าวถามว่า ตอนแรกทำมาถูกต้องแต่ทำไมตอนหลังมันบิดเบี้ยวล่ะ ประเด็นนี้เจ้าตัวไม่ตอบ พร้อมยกมือไหว้มือสื่อมวลชน “บอกว่าเดี๋ยวขออนุญาต” ก่อนรีบขึ้นไปพบกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ
