ตำรวจสอบสวนกลาง เข้าเรือนจำสอบเพิ่ม บอสพอล

25 ต.ค. 67

ตำรวจสอบสวนกลาง เข้าเรือนจำสอบเพิ่ม บอสพอล ด้าน ทนายวิฑูรย์ เผยเตรียมพบบอสพอล รับออเดอร์ดำเนินคดีทนายดัง

วันที่ 25 ต.ค. 67 นายวิฑูรย์ เก่งงาน ทนายความของนายวรัตน์พล วรัทย์วรกุล หรือ บอสพอล ผู้ต้องหาในคดีบริษัทดิไอคอนกรุ๊ป จำกัด เปิดเผยว่า ในวันนี้จะเข้าพบบอสพอล เพื่อที่จะนำเอกสารให้ลูกความลงนามมอบอำนาจให้ตนไปดำเนินการตามออเดอร์ที่ 2 ตรวจสอบและพิจารณาที่จะดำเนินคดีกับ นายเอกภพ เหลืองประเสริฐ ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยและผู้ก่อตั้งเพจสายไหมต้องรอด และพยานเท็จ ที่อ้างว่าเป็นคนสนิทใกล้ชิดกับบอสพอล นำข้อมูลว่าบอสพอลเปลี่ยนสกุลเงินดิจิทัลหรือคริปโตเคอเรนซี ซึ่งตำรวจได้ออกมายืนยันแล้วว่าข้อมูลดังกล่าวจากบุคคลนี้เชื่อถือไม่ได้

1729832101414

และออเดอร์ที่ 3 รวบรวมข้อมูลเพื่อดำเนินคดีกับทนายความชื่อดังคนหนึ่ง เป็นหนึ่งในทนายดรีมทีม เพราะก่อนหน้าที่เหล่าบอสจะถูกจับกุม ทนายคนดังกล่าวโทรศัพท์ไปหาบอสพอลเพื่อเจรจาต่อรอง ให้บอสพอลจ่ายเงิน 7 ล้านบาท เพื่อแลกกับการที่จะไม่นำผู้เสียหายกลุ่มนี้ไปแจ้งความดำเนินคดี โดยจะใช้เอกสารมอบอำนาจของบอสพอลเตรียมไปดำเนินคดีแจ้งความกลับในวันข้างหน้า ซึ่งยังไม่ใช่เร็ว ๆ นี้ เพราะตนจะต้องตรวจสอบพยานหลักฐานก่อน

นายวิฑูรย์ เผยอีกว่าส่วนการยื่นขอประกันตัวชั่วคราวบอสพอล และอีก 10 บอสที่ตนดูแลอยู่นั้นจะยังไม่เกิดขึ้นภายในสิ้นเดือน ต.ค.นี้อย่างแน่นอน เพราะจะขอใช้เวลาดูเอกสารพยานหลักฐานสำหรับการต่อสู้คดี นอกจากนี้

สำหรับการเยี่ยมญาติของคุณแม่บอสพอลวานนี้ (24 ต.ค.) นายวิฑูรย์ระบุว่า ยังไม่ได้คุยกัน แต่ส่วนใหญ่คุณแม่ก็ได้โทรศัพท์มาสอบถามว่าตนจะยื่นประกันตัวชั่วคราวบอสพอลช่วงเวลาใด และสอบถามไทม์ไลน์การทำงานของตน ตนก็อธิบายแนวทางการทำงานทั้งหมด แม้ท่านจะอยากให้ลูกชายได้ประกันตัวไว ๆ แต่ท่านก็เข้าใจการทำงานของตน

ส่วนกรณีที่นายษิทรา เบี้ยบังเกิด หรือทนายตั้ม ได้มีการโพสต์ข้อความผ่านเพจเฟซบุ๊กท้าให้ฝั่งตนเองเปิดคลิปเสียงสนทนาแฉเรื่องที่อ้างว่ามี 1 ในทนายดรีมทีมรีดเงิน 7 ล้านบาทว่าเป็นการรีดเงินให้ทนายตั้มเอง หรือให้นำเงินมาคืนผู้เสียหายนั้น ทนายวิฑูรย์ เผยว่า การโพสต์เฟซบุ๊กเช่นนั้นของทนายตั้มถือเป็นเรื่องดี เพราะคลิปเสียงใช้ในชั้นศาลไม่ได้ แต่การโพสต์จะช่วยทำให้ตนตรวจสอบได้ว่าผู้เสียหายของทนายตั้มมันถึง 7 ล้านบาทจริงหรือไม่ และถ้าพูดให้แฟร์คือทนายตั้มก็ขอให้คืนผู้เสียหาย แต่ก็ต้องบอกว่ามันยังไม่ชัดเจนเลยว่ากลุ่มนี้คือผู้เสียหายจริงหรือไม่

ดังนั้นอันดับแรกตนจะได้ไปตรวจสอบกลุ่มผู้เสียหายที่ทนายตั้มกล่าวอ้างก่อนว่าเป็นกลุ่มเปราะบางประมาณ 30 รายจริงหรือไม่ และมีจำนวนมากพอสอดคล้องไปกับยอดเงิน 7 ล้านบาทจริงหรือ ซึ่งถ้าหากไม่ถึงก็แปลได้ว่าส่วนต่างในเงินก้อนนี้ ทนายตั้มเอาไป ทั้งนี้ บรรดาผู้เสียหายจะถึง 100 รายจริงหรือไม่ ตนไม่ทราบ และจะมาจากใคร มาจากทนายตั้มจริงหรือไม่ ก็ต้องไปตรวจสอบและหารือกับเหล่าทนายความท่านอื่นอีกครั้ง

1729832087664

เมื่อถามถึงกรณีที่ทนายตั้ม กล่าวอ้างว่าฝั่งบอสพอลเป็นฝ่ายโทรศัพท์ไปหาทนายตั้มก่อนในวันที่ 15 ต.ค.67 เจรจาในเรื่องเงิน 7 ล้านบาทเพื่อให้ชดใช้จ่ายกลุ่มผู้เสียหายนั้น ทนายวิฑูรย์ แจงว่า ทนายตั้มบันทึกภาพหน้าจอแค่กรณีของวันที่ 15 ต.ค. แต่ของวันที่ 16 ต.ค. และ 17 ต.ค. ทนายตั้มไม่ได้บันทึกภาพหน้าจอ นอกจากนี้ ตนทราบว่าทนายตั้มเป็นฝ่ายโทรศัพท์ไปหานายกลด เศรษฐนันท์ หรือ บอสปีเตอร์ ก่อน จากนั้นบอสพอลจึงโทรศัพท์ไปหาทนายตั้ม แต่เหมือนเป็นการโทรศัพท์ไปมาระหว่างกัน ตนจึงไม่สามารถสรุปได้ว่าใครเป็นคนโทรศัพท์ไปก่อน จะขอคุยรายละเอียดกับบอสพอลอีกที ส่วนใครจะเป็นผู้กล่าวเสนอเรื่องเงิน 7 ล้านบาทก่อนนั้น ตนก็ไม่ทราบเช่นเดียวกัน เพราะตนเข้ามารับหน้าที่เป็นทนายความให้บอสพอลก่อนวันที่ 15 ต.ค. เพียงไม่กี่วัน แต่ทราบเบื้องต้นว่ามีการเจรจาเรื่องนี้จริง ทั้งนี้ ทางเลขาส่วนตัวของบอสพอลได้มีการบันทึกเสียงสนทนาการเจรจาเรื่องเงิน 7 ล้านบาทนี้ไว้ โดยเป็นการสนทนาระหว่างทนายตั้มและบอสพอล และการจ่ายเงินยังไม่เกิดขึ้น เพราะบอสพอลถูกจับกุมก่อน

ทนายวิฑูรย์ เผยด้วยว่า ส่วนจะนำคลิปเสียงสนทนาเรื่องเจรจาเงิน 7 ล้านบาทไปมอบให้กับตำรวจ บช.ก.หรือไม่นั้น ตนขอดูหลักฐานแวดล้อมทั้งหมดก่อน เพราะศาลไม่ได้รับฟังเรื่องคลิปเสียง ส่วนการหารือปรึกษากับบรรดาทนายความท่านอื่น ๆ นั้น เนื่องด้วยตนคือทนายความที่ดูแลบอสกว่า 10 คน ทั้งฝั่งบอสหญิงและบอสชาย อาทิ บอสปัญ บอสพอล บอสหมอเอก บอสสวย เป็นต้น จึงต้องคุยกันอัปเดตกันว่าจะวางแผนแนวทางการต่อสู้คดีกันอย่างไรบ้าง ทั้งนี้ ทราบว่าทนายชูชาติ กันภัย ทนายความของคุณมิน พีชญา และคุณแซม ยุรนันท์ 2 ยังไม่มีความประสงค์จะยื่นประกันตัวชั่วคราวเหมือนกัน

พ.ต.ต.ยุทธนา แพรดำ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ เปิดเผยหลังเมื่อวานนี้ดีเอสไอรับคดีฟอกเงินของบริษัท ดิไอคอน กรุ๊ป เป็นคดีพิเศษเลขที่ 115/2567 ว่า ขณะนี้ยังไม่มีการเข้ามาสอบปากคำ 18 บอส ภายในเรือนจำ เพราะอยู่ระหว่างมอบหมายงานและรวบรวมพยานหลักฐานและข้อเท็จจริงจากตำรวจสอบสวนกลางและตรวจสอบเส้นทางการเงิน ซึ่งตอนนี้อยู่ระหว่างการทำงานของเจ้าหน้าที่

ด้านพลตำรวจตรีจรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง เปิดเผยว่าในวันนี้จะมีพนักงานสอบสวนเดินทางมาสอบปากคำผู้ต้องขังบางส่วน ในประเด็นที่ต้องสอบเพิ่มเติมเกี่ยวกับคดี แต่ไม่ขอตอบในรายละเอียดเนื่องจากอยู่ในสำนวนการสืบสวนสอบสวน

1729831742330

ขณะที่บรรยากาศหน้าเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ มีตำรวจสอบสวนกลางเดินทางเข้ามา หลังมีการเตรียมที่จะเข้ามาสอบปากคำบอสพอลและผู้ต้องหาเพิ่มเติม.

advertisement

advertisement

คุณอาจสนใจข่าวนี้

ข่าวยอดนิยม

ข่าวทั่วไป เป็นกระแส