"อัจฉริยะ" เผยพาพยานคนสำคัญพบ “บิ๊กเต่า” ให้ข้อมูลตำรวจรีดเงิน โค้ชแล็ป 9 ล้าน บอกอยากรู้เป็นตำรวจจริงหรือปลอม ย้ำเข้าเรือนจำโดยชอบด้วยกฎหมาย
วันที่ 30 ต.ค. 67 ที่กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง นาย อัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม เปิดเผยว่า วันนี้ตนเดินทางมาประชุมกับ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง พาพยานผู้ที่เกี่ยวข้อง กรณีที่มีคนแอบอ้างเป็นตำรวจกองปราบ ไปเรียกรับเงินโค้ชแล็ป มาพูดคุย และแจ้งรายละเอียดให้กับ พล.ต.ต.จรูญเกียรติทราบว่า มีบุคคลแอบอ้างเป็นตำรวจกองปราบ เรียกเงิน 9,000,000 บาทจากโค้ชแล็ป จากนี้ก็เป็นหน้าที่ของตำรวจต้องเข้าไปสืบสวนต่อว่าเป็นตำรวจจริง หรือตำรวจปลอม
นาย อัจฉริยะ กล่าวยืนยันว่า ตนเข้าเรือนจำโดยชอบด้วยกฎหมาย และมีหนังสือถูกต้องถึงผู้บัญชาการเรือนจำ เพื่อเข้าไปสอบถามโค้ชแล็ปเกี่ยวกับเรื่องที่มีการกล่าวอ้างว่ามีตำรวจเรียกเงิน 9,000,000 บาท ซึ่งตนก็พาพยานที่เป็นคนแจ้งเบาะแสตนมาพบ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ เราก็อยากรู้ว่าเรื่องนี้มีตำรวจกองปราบเป็นใครที่มาเรียกเงิน เพราะตนเชื่อว่าไม่น่าจะมีตำรวจไปเรียกรับเงิน เนื่องจากคดีนี้เป็นคดีใหญ่ มีทั้งผบ.ตร. พล.ต.ท.อัครเดช พิมลศรี ผู้ช่วยผบ.ตร. และ พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผู้บัญชาการกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง มาควบคุมเอง คงไม่มีตำรวจคนไหนกล้าทำแบบนี้
ส่วนมากที่ตนเจอตามประสบการณ์ ก็จะเป็นมิจฉาชีพที่สมอ้างว่าสามารถช่วยเหลือทางคดีได้ และอาจจะไปคุยกับผู้ต้องหา 5-6 ราย ติดเบ็ดสักราย ก็ได้เงินมา ถือว่าคุ้มแล้ว เราก็อยากทราบความจริงว่าตกลงเป็นตำรวจจริงหรือไม่จริง จึงมีการเข้าไปสืบสวนเรื่องนี้กับโค้ชแล็ป
“ผมยืนยันว่าเข้าไปวันนั้นด้วยเจตนาสุจริต ถ้าผมจะเข้าไปเองก็เข้าได้ เข้าไปทางภรรยาของเขาก็ได้ แต่ผมอยากให้มีตำรวจเข้าไปร่วมรับฟังด้วยจากปากของโค้ชแล็ปเอง เพราะเป็นข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับตำรวจกองปราบ ผมจึงพาชุดสืบสวนไปร่วมรับฟัง เพื่อแสดงความบริสุทธิ์ใจว่าเราทำด้วยความสุจริต” นาย อัจฉริยะ กล่าว
นาย อัจฉริยะ กล่าวต่อว่า อีกทั้งตนเชื่อว่าไม่น่าจะใช่เจ้าหน้าที่ตำรวจจริง ถ้าเป็นไปได้ก็อยากให้นาย วิฑูรย์ เก่งงาน ทนายความของบอสพอล และเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าไปถามโค้ชแล็ปให้ชัดอีกครั้ง