เด็ก 16 ผวา ร้องขอความช่วยเหลือ "เฒ่าหื่น" อ้างเป็น ส.ท.ขอซื้อบริการและขู่ทำร้าย

จากกรณีที่มีผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่ง ได้โพสต์ข้อความเตือนภัยหญิงสาวในเพจ "แหม่มโพธิ์ดำ" ระบุว่า เตือนภัยเด็กสาวในเขต อ.กุมภวาปี จ.อุดรธานี  “ส.ท.ขอซื้อบริการเด็กพอเด็กไม่ขายก็ถูกขู่ทำร้าย" หลังมีการโพสต์ข้อความออกไป ปรากฏว่า มีคนเข้ามาแสดงความคิดเห็นเป็นจำนวนมาก  ส่วนใหญ่ให้กำลังใจเด็กที่โพสต์ข้อความลงในเพจ รวมทั้งขอให้แจ้งความดำเนินคดี ขณะที่ยังมีเด็กสาวอีกหลายคนเข้ามาโพสต์ข้อความ และรูปภาพเศษกระดาษที่มีเบอร์โทรของคนสูงอายุ และบอกว่าตัวเองก็เคยถูกคนสูงอายุคนนี้ ให้เบอร์โทรมาและเขียนข้อความเช่นเดียวกัน

ต่อมา ผู้สื่อข่าวได้ติดต่อไปยังเด็กสาวคนดังกล่าว เพื่อสอบถามเกี่ยวกับเรื่องที่เกิดขึ้น ภายหลังทราบชื่อ น.ส.เอ       (นามสมมติ) อายุ 16 ปี นักเรียนของโรงเรียนแห่งหนึ่ง ใน อ.กุมภวาปี และเพื่อนหญิงอีก 2 คน คือ น.ส.บี (นามสมมุติ) และ น.ส.ซี (นามสมมติ) อายุ 16 ปี ที่เป็นเพื่อนนักเรียนมัธยมมาด้วยกัน พร้อมนำไปดูจุดที่พบกับ ชายสูงอายุดังกล่าว ที่บริเวณศาลเจ้าปู่ และถนนเลียบลำน้ำปาว เขตเทศบาลตำบลกุมภวาปี และทั้ง 3 คน ยืนยันว่าเป็นเรื่องจริงตามที่โพสต์ลงเพจแหม่มโพธิ์ดำ

น.ส.เอ และเพื่อน ได้ให้ข้อมูลกับทีมข่าว ว่าตนเองถูกชายสูงอายุ ให้เบอร์โทรศัพท์ติดต่อกลับจริง ที่ผ่านมาตนเคยพบชายสูงอายุคนนี้จริง และชายคนดังกล่าวได้ให้กระดาษที่มีเบอร์โทรศัพท์และข้อความ ระบุ “สนใจต้องการเงินใช้ โทรฯ 084-xxx-xx57 "  มาแล้วถึง 3 ครั้ง ครั้งแรกตนไปซื้อของที่ร้านขายเครื่องสำอางแห่งหนึ่ง เจอลุงคนนี้ให้เป็นกระดาษเขียนเบอร์โทรมาให้ ระบุว่า "ถ้าสนใจมีงานทำให้ติดต่อตามเบอร์โทร" ตนก็ไม่ได้สนใจ จนกระทั่ง มาครั้งที่ 2 ที่ปั้ม ปตท.กุมภวาปี ตนไปกับเพื่อนลุงคนนี้ก็ให้กระดาษเบอร์โทรแก่ตนและเพื่อนอีก และครั้งล่าสุดก็มาเจอที่ถนนริมลำน้ำปาวแห่งนี้

น.ส.เอ กล่าวว่า ในวันดังกล่าว ชายสูงอายุคนดังกล่าว ได้ขับรถกระบะมาตามถนน มาเจอตนเข้าก็ได้เปิดกระจกรถแล้วได้เรียกตนเข้าไปหา ถามชื่อ อายุ เรียนที่ไหน มีแฟนหรือยัง แล้วขอเบอร์โทรศัพท์ตน แต่ตนไม่อยากให้เขาก็ขู่จนต้องยอมให้ไป หลังจากนั้น เขาก็ไลน์มาคุยกับตนตามข้อความที่ตนได้แคปภาพหน้าจอไว้ ตามที่ลงในเพจ ซึ่งมีแต่ถามเรื่องที่ไม่สามารถพูดได้ ตนก็ตอบไปว่าไม่ได้ทำอย่างที่เขาคิด ส่วนที่เขาโพสต์ข้อความมีการข่มขู่ว่า “จะสั่งสอน” ตน จึงไปหาตามเฟซบุ๊ก ก็พบ จึงแชทไปถามว่าเบอร์ที่ให้มาใช่เบอร์เขาหรือไม่ทำแบบนี้ได้อย่างไร ด้วยอารมณ์โกรธเลยพูดไม่ดีไป เขาก็เลยมาว่าตนว่าเป็นเด็กก้าวร้าวจะเอาคนมาสั่งสอน ทำให้ตนเกิดความกลัวขึ้นมา น.ส.เอ บอกอีกว่า เพื่อนๆ ที่เคยเจอโดนมาแบบเดียวกันที่มีการแจกเศษกระดาษ เขียนข้อความและเบอร์โทรศัพท์ให้ซึ่งเจอกันคนละครั้ง และก็ไม่ได้ติดต่อกลับไป ตอนถูกขู่ตนกลัวมาก เขายังต่อว่ามาอีกต่างๆ นานา เช่น อย่ามาเล่นลิ้นก็ผู้ใหญ่ ซึ่งก็บอกพ่อแม่ไปว่า เจอแบบนี้มา ทางพ่อแม่ก็บอกว่าอย่าไปยุ่งกับเขา ทั้งที่ตนก็ไม่ได้ไปยุ่งแล้ว แต่ว่าเจอกับตัวเองมาถึง 3 ครั้ง ในช่วง 1 ปี ที่ผ่านมาและตนก็ไม่รู้ด้วยว่าลุงคนนี้เป็นใคร เห็นแต่เขียนมาบอกว่าเป็น ส.ท. ทำให้ยิ่งเกิดความกลัวขึ้นมาอีก แต่พอเรามาเช็คดูจากเพจเขา และมีคนให้ข้อมูลในเพจจึงทราบว่าเขาเป็นอดีตผู้อำนวยการโรงเรียนแห่งหนึ่ง ที่เกษียณอายุราชการไปแล้ว

น.ส.เอ บอกว่า หลังจากนี้คิดว่าจะปรึกษากับพ่อแม่ก่อน แล้วคงจะเข้าไปแจ้งความกับทางตำรวจ อีกทั้งในเพจที่มีคนโพสต์ รวมทั้งคนรู้จักมีหญิงสาวเจอแบบพวกตนเยอะมาก หลังจากที่ตนได้โพสต์ไป ก็มีคนมาคอมเม้นท์บอกให้ทราบว่าเจอมาเหมือนๆกัน น่าจะประมาณ 30 คน ซึ่งมีคนแชร์เยอะมาก รวมทั้งเศษกระดาษข้อความและเบอร์โทรที่เขาแชร์ลงมาให้ ก็ข้อความเหมือนกัน และเบอร์โทรก็เป็นเบอร์เดียวกัน ซึ่งตนก็ได้ทักคนที่เคยเจอไป เคยมีคนลองโทรไปเขาก็บอกจะให้เงิน 1,000 - 1,500 บาท หรือไม่ก็บอกจะรับเลี้ยงดู น.ส.เอ และ เพื่อนยัง บอกอีกว่า ที่ผ่านมาหลังจากเพจแหม่มโพธิ์ดำ ได้นำเรื่องของตนลงไปแล้วพวกตนก็ได้รับการติดต่อจากทางลูกสาวเขาทางเฟซบุ๊ก ซึ่งเขาก็บอกว่าขอโทษแทนพ่อเขาด้วย เพราะพ่อเขามีอาการทางจิตไม่ปกติ แล้วก็ไม่ได้คุยอะไรกันมาก ตนขอฝากเตือนหญิงสาว ชาว อ.กุมภวาปี ว่าให้ระวังตัวจากคนๆ นี้ ถึงแม้ในช่วงที่ผ่านมาจะยังไม่มีใครถูกทำร้ายจากชายคนนี้ คนถูกขู่มีแต่ตน ส่วนเพื่อนก็มีแต่บอกจะให้เงิน แต่เพื่อนตนไม่สนใจ เพราะรู้ว่าเขามาเพื่อต้องการซื้อบริการ ตนและเพื่อนจึงไม่สนใจ

หลังจากดูในเพจที่มีคนแสดงความคิดเห็นมา จึงทราบว่า เคยมีคนที่เจอแบบนี้มาแล้ว 3 ครั้ง เหมือนกันส่วนที่ตนโพสต์ในเพจแหม่มโพธิ์ดำ ก็มีเพื่อนและคนรู้จักแนะนำให้โพสต์ เพื่อเตือนคนอื่นๆ และแนะนำให้ไปแจ้งความ เพราะว่าครั้งหลังสุดเราก็โดนขู่ด้วย ทั้งที่ก่อนหน้าที่ตนเจอมาก็คิดว่าเป็นแค่คนแก่โรคจิต จนกระทั่งมาครั้งล่าสุดได้มีการขู่เอาเบอร์โทรไป แล้วโดนขู่อีกจนทำให้ตนรู้สึกกลัว ทีมข่าว ได้ติดต่อไปยังหมายเลขโทรศัพท์ ที่ชายคนดังกล่าวได้ไห้ไว้กับ น.ส.เอ เพื่อสอบถามข้อเท็จจริง แต่โทรศัพท์ถูกปิดเครื่อง ไม่สามารถติดต่อได้