โฆษกพปชร. ยันตั้งกมธ.ศึกษาก่อนรับร่างแก้รธน. ไม่ใช่การถ่วงเวลา

25 ก.ย. 63

โฆษกพปชร. ยันตั้งกมธ.ศึกษาก่อนรับร่างแก้ไขรธน. ไปอีก 1 เดือนคุ้มค่า เปิดโอกาส ส.ว.ศึกษาถี่ถ้วนยันไม่ใช่ถ่วงเวลา เสียดายฝ่ายค้านไม่ร่วม หวังรวมร่างสภาฉบับเดียว 

จากกรณีวานนี้(24 ก.ย.) การประชุมรัฐสภายังไม่มีการรับ-คว่ำร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ แต่มีมติตั้งกมธ.เพื่อพิจารณาก่อนรับหลักการร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญทั้ง 6 ร่าง โดยอ้างว่าเพื่อความรอบคอบยืดเวลาลงมติออกไปเป็นเวลา 1 เดือน ทำให้พรรคฝ่ายค้านแถลงไม่ร่วมส่งส.ส. เข้าเป็นกมธ.ชุดดังกล่าว ระบุเป็นการเตะถ่วง ไม่จริงใจในการแก้ไขรธน.นั้น 

วันนี้(25 ก.น.) นางสาวพัชรินทร์ ซำศิริพงษ์ ส.ส. กทม. พรรคพลังประชารัฐ ในฐานะโฆษกพรรคพลังประชารัฐ ยืนยันว่า การที่รัฐสภาได้มีมติตั้งคณะกรรมาธิการ เพื่อศึกษาก่อนรับร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ ไปอีก 30 วันนั้น ถือเป็นการเปิดโอกาสการทำงานร่วมกันของ 2 สภา ซึ่งต้องร่วมหารือและให้เวลาสมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.)ได้ศึกษาก่อน เพราะที่ผ่านมาเป็นเพียงการศึกษาในส่วนของสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) เท่านั้น ซึ่งส.ส. เองก็ไม่ได้มีโอกาสพิจารณาร่วมกับส.ว. หรือศึกษาร่วมกัน

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
ยื้อเวลาโหวต! รัฐสภาลงมติ 431 ต่อ 255 ตั้ง กมธ.ศึกษาการแก้ รธน.

ดังนั้นพรรคพลังประชารัฐ จึงมองว่าการตั้งกรรมาธิการศึกษาก่อนรับร่างแก้รธน. ครั้งนี้จะเป็นการเปิดกว้างให้ส.ว.ได้แสดงความคิดเห็นอย่างเต็มที่ เพราะในการที่จะรับร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญโดยหลักการแล้วต้องใช้เสียงของส.ว. 1 ใน 3 ของจำนวนสมาชิก ดังนั้นจึงต้องให้เวลากับ ส.ว. ในการศึกษาร่างอย่างถี่ถ้วนด้วย และถือเป็นความคุ้มค่าที่จะได้อภิปรายอย่างหลากหลายมากขึ้นจากผู้ทรงคุณวุฒิ ที่มีจุดมุ่งหมายสิ่งเดียวกัน คือ เพื่อประเทศชาติ

"การตั้งกรรมาธิการ ศึกษาก่อนรับร่างแก้รธน. ไม่ได้มีความพยายามถ่วงเวลา แต่เรามองว่าสิ่งเหล่านี้ จะทำให้เกิดความเข้าใจถึงช่องว่างของรัฐธรรมนูญฉบับปัจจุบัน ก่อนที่จะมีการแก้ไข" โฆษกพรรคพลังประชารัฐ กล่าว

นางสาวพัชรินทร์ ระบุว่า แต่ก็เป็นที่น่าเสียดายที่ทางฝ่ายค้าน ออกมาระบุที่จะไม่ร่วมสังฆกรรม กับกรรมาธิการชุดดังกล่าว เพราะเราคาดหวังว่าการตั้งกรรมาธิการฯ ครั้งนี้ ทั้งฝั่งรัฐบาล หรือฝ่ายค้าน จะได้นำร่างทั้งหมดเข้ามาหารือกันก่อน มารวมให้เกิดเป็นร่างเดียว ที่จะส่งเสนอสภาฯต่อไป จึงน่าเสียดายที่ฝ่ายค้านจะไม่ให้ความร่วมมือในครั้งนี้ 

advertisement

คุณอาจสนใจข่าวนี้

ข่าวยอดนิยม

ข่าวการเมือง เป็นกระแส