กรณีที่มีคำสั่งย้าย พล.ต.ต.สุทธิ พวงพิกุล ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดกาญจนบุรี มาประจำที่ศูนย์ปฏิบัติการสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ศปก.ตร.) สาเหตุที่เข้าไปมีส่วนร่วมอยู่ในกระบวนการรวบรวมหลักฐานในคดีหวย 30 ล้าน รวมถึงล่าสุดมีคำสั่งให้ พ.ต.ท. ชูวิทย์ เจริญนาค รอง ผกก.สอบสวน สภ.เมืองกาญจนบุรี และ ร.ต.อ. จิรยุทธ์ ชัชรินทร์กุล รอง สว.(สอบสวน) สภ.เมือง กาญจนบุรี ไปปฏิบัติราชการที่กองบังคับการปราบปราม โดยขาดจากตำแหน่งเดิม
ซึ่งมีรายงานข่าวแจ้งว่า ร.ต.อ.จิรายุทธ์ เป็นพนักงานสอบสวนที่รับผิดชอบสำนวนคดีหวย และมีการเปลี่ยนแปลงคำให้การในสำนวนหลายครั้ง ด้วยการเพิ่มข้อเท็จจริงที่ได้มาภายหลังลงไปในคำให้การเดิม และลงวันที่ย้อนหลัง ซึ่งจากคำสั่งย้ายดังกล่าวนายปรีชา ใคร่ครวญ หรือครูปรีชา ออกมายืนยันว่าไม่รู้จักกับ พล.ต.ต.สุทธิ เป็นการส่วนตัว ตนเพียงไปแจ้งความให้ตำรวจช่วยตามหาหวยที่หายไปเท่านั้น
ความคืบหน้าวันนี้ (23 ก.พ.) ทีมข่าวได้พูดคุยกับ
นางสาวกนกพรรณ หมวกไสว หรือ "ฟ้า" คนสนิทของครูปรีชา เปิดเผยว่าตนได้ทราบเรื่องที่ตำรวจ 3 ราย โดนคำสั่งย้ายแล้ว ซึ่งตนรู้สึกว่าเป็นเรื่องที่ดี เพราะเจ้าหน้าที่จะได้ทำงานกันอย่างโปร่งใส ส่วนที่มีข่าวมาว่ามีการแก้ไขคำให้การในสำนวนนั้น ตนยืนยันว่าไม่มี คำให้การยังเหมือนเดิม แต่มีคนที่พยายามปล่อยข่าวเท็จ และเอกสารปลอม และชักใยเป็นขบวนการอยู่เบื้องหลัง ซี่งเจ้าหน้าที่ตำรวจก็ได้ออกมาบอกแล้วว่าเอกสารต่างๆ ไม่ใช่เรื่องจริง
นางสาวกนกพรรณ
กล่าวต่อว่า คู่กรณีได้มีการให้บุคคลที่ 3 ติดต่อมายังครูปรีชา เพื่อขอเจรจาด้วย โดยพูดในทำนองว่าครูปรีชา กับ เจ๊บ้าบิ่น จะโดนหมายจับอย่างแน่นอน และหากต้องการเจรจาก็สามารถะพูดคุยกันได้ และยังได้พูดอีกว่า "จะรับสารภาพหรือไม่ ถ้าไม่รับสารภาพ ติดคุกแน่นอน" ซึ่งเหตุการณ์ดังกล่าว เป็นการโทรศัพท์พูดคุย ภายหลังจากที่มีข่าวลือออกมาว่า ลอตเตอรีเป็นของลุงจรูญ
นอกจากนี้ คู่กรณียังมีการข่มขู่พยานอีกรายคือ "เจ๊บ้าบิ่น" ในทำนองว่า จะถูกออกหมายจับอย่างแน่นอน เนื่องจากเช็คมาแล้ว อยากให้ "เจ๊บ้าบิ่น" เปลี่ยนใจมาพูดคุยกัน
เมื่อผู้สื่อข่าวสอบถามว่าครูปรีชา รู้สึกอย่างไรบ้างกับการโดนข่มขู่ นางสาวกนกพรรณ
บอกว่า ครูปรีชา รู้สึกโกรธ แต่ทางเจ๊บ้าบิ่น จะรู้สึกแตกตื่นว่ามีข่าวแบบนี้ได้อย่างไร พร้อมทั้งยังถูกกดดันจากหลายฝ่ายด้วย จึงมีความรู้สึกกลัวแต่ถามว่าถอยไหม เจ๊บ้าบิ่นบอกว่าไม่ถอยแน่นอนเพราะลอตเตอรี เป็นของครูปรีชา
จากกรณีที่ครูปรีชา และ เจ๊บ้าบิ่น ถูกข่มขู่ตนรู้สึกว่ามันไม่ยุติธรรมกับครู และรู้สึกว่า คู่กรณีกำลังเย้ยกฎหมาย เพราะเป็นการกระทำที่อุกอาจ และยังฝากถึงคู่กรณีด้วยว่า อย่าคิดว่าสิ่งที่ทำลงไปแล้วคนอื่นจะไม่รู้ สักวันสิ่งที่เขาทำจะต้องปรากฎ และตนจะดำเนินการกับคู่กรณีให้ถึงที่สุด เพราะตนมีหลักฐานว่าครูปรีชาถูกข่มขู่
นางสาวกนกพรรณ
ยังกล่าวต่อว่า คู่กรณีคนนี้คิดว่าตนเองมีความฮึกเหิม และมีกำลังประชาชนอยู่ในมือ ตอนนี้คู่กรณีคนนี้ ยังไปฟ้องร้องต่อศาลให้เรียกปรับเงิน "เจ๊บ้าบิ่น" กรณีขายหวยเกินราคาไปแล้วครั้งหนึ่ง ซึ่ง "เจ๊บ้าบิ่น" ไปยืนยันในศาลแล้วว่า ขายเลข 533726 ให้ครูปรีชาและไม่รู้จักกับ ร.ต.ท.จรูญ
และเรื่องดังกล่าวได้จบลงแล้ว แต่คู่กรณียังไปฟ้องร้องเพิ่มอีกในเรื่องขายสลากเกินราคา ตนจึงมองว่าสิ่งที่คู่กรณีทำ เป็นการนำกฎหมายมาใช้กดดันทั้งครู และพยาน ต้องการบีบให้พยานถอนตัว เพราะ "เจ๊บ้าบิ่น" เป็นพยานปากเอก ซึ่งหากไม่บีบพยานรายนี้ คู่กรณีคงต่อสู้ในชั้นศาลยาก
นอกจากนี้ ตนคิดว่าอีกฝ่ายพยายามปล่อยข่าวลวงให้กับประชาชน ทั้งเรื่องการรู้จักพัวพันกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ ตนยืนยันว่าตลอด 3 เดือนที่ผ่านมา ตนไม่เคยเห็นผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดกาญจนบุรี และไม่เคยได้ยินว่าตำรวจติดต่อมาว่า ถูกใครสั่งให้ทำอะไร ทั้งนี้ตนไม่เชื่อว่าจะมีการแก้ไขคำให้การในสำนวนคดี และคิดว่าการที่เจ้าหน้าที่ถูกสั่งย้ายจะไม่มีผลต่อคดีของครูปรีชา
สำหรับพยานที่ชื่อ "กุ้ง" ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจนำตัวมาสอบปากคำที่กองปราบเมื่อคืนที่ผ่านมา ตนก็เพิ่งทราบจากข่าว แต่ไม่เคยคุยกับคนชื่อ "กุ้ง" และไม่ทราบว่ากุ้งให้การเป็นพยานในเรื่องใดบ้าง ตอนนี้ตนก็รอเพียงผลการสรุปสำนวนวันที่ 28 ก.พ.นี้
ขณะที่
นายอนุสรณ์ พรมตา ลูกชาย "เจ๊พัช" ยืนยันว่า แม่ของตนยังใช้ชีวิตตามปกติ และสบายดีแต่เหตุที่วันนี้ไม่มาขายลอตเตอรี่ อาจจะเป็นเพราะได้ลอตเตอรี่มาน้อยในงวดนี้ และไม่ทราบว่าแม่หายไปไหน คาดว่าอาจจะไปทำธุระ ส่วนที่เมื่อวานที่ผ่านมา (22 ก.พ.) มีกระแสข่าวว่า "เจ๊เกียว" ถูกตำรวจกองปราบฯ เรียกสอบ ตนไม่ทราบว่าแม่ของตนถูกเรียกไปด้วยหรือไม่ เพราะเมื่อวานนี้ตนไม่ได้กลับบ้าน ส่วนตัวยังเชื่อในความบริสุทธิ์ของแม่ แต่ลอตเตอรี่ชุดนั้นเป็นของครูปรีชาหรือไม่ ตนไมทราบ
ส่วนเรื่องการออกหมายจับนั้น ตนไม่ได้รู้สึกกังวล เพราะแม่ให้การตามความเป็นจริง ทั้งนี้ที่ผ่านมา แม่ก็ไม่ได้เล่าเหตุการณ์ให้ตนฟัง และตนทราบเรื่องราวจากข่าวเท่านั้น