"กิตติ" เครียดไข้ขึ้น! "คิตตี้" ปัดคืนดี ซัด "อมต" เพื่อนไทด์ ตัวร้ายจัดฉากกลั่นแกล้ง (คลิป)

จากกรณีที่ นายกิตติ ดัสกร หรือ "ปี๊ด" อดีตดาวร้าย ที่ป่วยเป็นอัมพฤกษ์ เบาหวาน และความดัน หลังถูกทิ้งให้อยู่บ้านคนเดียว จนกระทั่ง นายอมต ติดต่อไปหา นายเอกพัน บรรลือฤทธิ์ หรือ "ไทด์" ดารานักแสดง อาสาสมัครมูลนิธิร่วมกตัญญู เข้าช่วยเหลือ ต่อมาภายหลังทราบว่า นายกิตติ มีภรรยาชื่อ "คิตตี้" เป็นผู้ดูแลเงินที่คนบริจาคเข้ามาช่วยเหลือทั้งหมด จึงประสานไปยัง "คิดตี้" โดย "คิตตี้" อ้างว่าเงินที่อยู่ในบัญชี ไม่ใช่เงินที่ได้รับการช่วยเหลือมาทั้งหมด ส่วนหนึ่งเป็นเงินของคนที่แอบชอบตนโอนมาให้ใช้ ขณะเดียวกัน คิตตี้ ยังเปิดเผยอีกว่า ช่วงที่ผ่านมาตนเคยถูก นายอมต ลวนลาม และขโมยของในบ้านไป

ล่าสุด นายเอกพัน บรรลือฤทธิ์ หรือ "ไทด์" ออกมาแฉหมวดเปลือกว่าที่ผ่านมา "คิดตี้" หรือ "แพท" โกหกหลอกลวงมาโดยตลอด ถ้ายังอยู่กินกับผู้หญิงคนนี้ ก็จะไม่ให้ความช่วยเหลือใดๆ ทั้งสิ้น

วันนี้ (15 มี.ค.) ทีมข่าวอมรินทร์ เดินทางมายัง ซอยกรุงเทพ-นนทบุรี 21 เพื่อมาสอบถามข้อเท็จจริงกับ นายกิตติ ดัสกร หรือ "ปี๊ด" อดีตดาวร้าย ที่ประสบอุบัติเหตุ จนป่วยเป็นอัมพฤกษ์ เบาหวาน และความดัน ซึ่งทีมข่าวได้พบกับ นายปราโมทย์ น้องชาย ของนายกิตติ บอกว่า วันนี้พี่ชายไม่สะดวกที่จะให้สัมภาษณ์ เนื่องจากไข้ขึ้น และมีอาการเครียด ไม่อนุญาตให้ทีมข่าวถ่ายภาพ ก่อนจะปิดประตูบ้าน และกลับเข้าบ้านไป

ขณะเดียวกันทีมข่าวได้พบกับ นางศรี ซึ่งเป็นญาติของนายกิตติ โดยผู้สื่อข่าวพยายามสอบถามอาการของ นายกิตติ ซึ่งนางศรี กล่าวว่า ตั้งแต่มีนักข่าวมาสัมภาษณ์ นายกิตติ ก็มีอาการเครียด และมีไข้ขึ้น พร้อมกับพูดว่า "จะไม่ให้สัมภาษณ์ใครอีกแล้ว" ส่วนเรื่องการจัดฉาก เรื่องขโมยของ และเรื่องลวนลามนั้น ตนคิดว่าไม่น่าเป็นไปได้ และที่ผ่านมาตนไม่ได้สนิทกับ "คิตตี้" มากนัก แต่ยอมรับว่า เป็นคนค่อนข้างหัวรุนแรง

ส่วนเรื่องเงินช่วยเหลือนั้น ความจริงแล้วเงินทั้งหมด อยู่ในบัญชีกองกลางของครอบครัว ไม่เคยเอาไปไว้ที่ใคร ซึ่งก่อนหน้านี้ ที่นายกิตติ อยู่กับ "คิตตี้" และลูกอีก 1 คน ที่บ้านเช่า มักจะมาเบิกเงินที่ตนเสมอ เพื่อไปซื้อของใช้ที่จำเป็น จนเป็นเรื่องราวใหญ่โต ตนจึงรับ นายกิตติ มารักษาตัวที่บ้าน ส่วน "คิตตี้" ไปอยู่กับญาติที่ต่างจังหวัด และในอนาคตหากคู่นี้จะกลับมาอยู่กินกัน ตนไม่ว่า แต่ขอให้ นายกิตติ หายดีก่อน ทั้งนี้ทีมข่าวได้เดินสอบถามเพื่อนบ้าน นายกิตติ ในละแวกนั้น ส่วนใหญ่บอกเพียงว่า "รู้ว่านั่นเป็นบ้านนายกิตติ แต่ไม่ทราบรายละเอียด"

ทีมข่าวได้สอบถามความจริงประเด็นแรกว่า เมื่อวันก่อน คุณกิตติ ให้สัมภาษณ์ว่า ถ้าหายดีแล้วจะกลับไปอยู่กับ "คิตตี้"  อดีตภรรยา ที่ อ.หัวหิน เพื่อไปทำไร่องุ่นด้วยกัน โดยเรื่องนี้ "คิตตี้" ตอบว่า ไม่เป็นความจริง เนื่องจากตอนนี้ “คิตตี้” ยังอยู่กับลูกที่ อ.หัวหิน ไม่ได้อยู่ด้วยกันกับ นายกิตติ มีเจอบ้างเมื่อตนพาลูกชายคนเล็กมาเยี่ยม เป็นครั้งคราว ครั้งละ 2-3 วันเท่านั้น  แต่ถ้าให้กลับไปรักกันเหมือนเดิม คงไม่กลับไป และตนไม่ให้อภัยนายกิตติ อดีตสามี เพราะทำให้ตนเองเจ็บมาเยอะ ในวันที่ก็ไม่เคยปกป้องหรือดูแล และยังบอกอีกด้วยว่า ญาติของนายกิตติ จัดฉากในการดูแล สุดท้ายก็ทอดทิ้ง คนที่ดูแลกิตติก็หอบเสื้อผ้าหนี ตัวของคิตตี้ ก็ต้องเป็นคนรับนายกิตติ ไปดูแล

ส่วนอีกประเด็นที่มีตัวละครใหม่เข้ามาเพิ่มกับเรื่องนี้คือ วันที่ นายเอกพันธ์ บรรลือฤทธิ์ หรือ "ไทด์" เข้าไปช่วย นายกิตติ ภายในบ้าน มีเพื่อนนักแสดงของนายกิตติ เข้าไปด้วยนั้นคือ นายอมต อินทานนท์ นักแสดงคิวบู้ และละครพื้นบ้าน โดย "คิตตี้" แฉอีกว่า ตนอยากจะดำเนินคดีกับ นายอมต เพราะว่าเป็นคนจัดฉากบ้าน เอาขยะไว้ที่บ้านให้บ้านดูรก และเรียกคุณไทด์เข้ามาช่วย จนสังคมมองว่า "คิตตี้" เป็นคนไม่ดี และ นายอมต คือมือที่สาม ที่ต้องการเข้ามาในชีวิตตนเองกับ นายกิตติ "คิตตี้" บอกอีกว่า เขาทำทุกวิธีทางให้ตนออกไปจาก นายกิตติ บังคับให้พูดว่ามีแฟนใหม่แล้ว และขู่ว่าถ้าไม่ทำตามจะสั่งคนหิ้ว รวมถึง นายอมต ยังเคยชวนตนไปโรงแรม แต่ตนไม่ไป พร้อมยืนยันว่า นายอมต ต้องการเป็นสามีตนเพราะเขาชอบเด็ก และยังมีการพูดจาหยาบคายว่า ไปมีอะไรกับพี่ไหม เพราะ นายกิตติ ยังป่วยอยุ่ แล้วพี่จะทำข่าวหนูให้ดีขึ้น "ไทด์" พรรคพวกพี่เอง ท้ายที่สุดแล้ว "คิตตี้" บอกกับทีมข่าวว่า อยากที่จะขอความเป็นธรรมให้กับตนเอง เพราะโดนรังแกอยู่ฝ่ายเดียว อย่างไรก็ตามทีมข่าวได้โทรศัพท์ไปสอบถาม นายอมต ถึงประเด็นที่ถูกพาดพิง ซึ่งนายบอกว่า ตนรู้จัก นายกิตติ ดัสกร จริง แต่ไม่รู้จัก "คิตตี้" และไม่ขอข้องเกี่ยวกับผู้หญิงคนนี้