ป.ป.ช.ฟัน "ปารีณา" ยึดถือ ครอบครองที่ดินรัฐโดยมิชอบ เป็นการฝ่าฝืนจริยธรรมร้ายแรง เสนอเรื่องต่อศาลฎีกาเพื่อวินิจฉัยต่อไป
จากกรณีที่ ป.ป.ช.ได้พิจารณากรณีกล่าวหาบุกรุกที่ดินของ น.ส.ปารีณา ไกรคุปต์ ส.ส.ราชบุรี พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ตามที่บก.ปทส.มายัง ป.ป.ช.เนื่องจากเห็นว่า น.ส.ปารีณา เป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐบุกรุกที่ดิน กรณีจงใจที่จะกระทำความผิดทางจริยธรรมอย่างร้ายแรง โดยที่ประชุมมีมติชี้มูลความผิดว่า น.ส.ปารีณาผิดจริยธรรมร้ายแรงหลายข้อด้วยกันนั้น
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
- ลุ้นชะตา “ปารีณา” อาจพ้นตำแหน่ง ส.ส.ตลอดชีวิต ผิดจริยธรรมร้ายแรงคดีรุกป่า
- ป.ป.ช. ฟัน "ปารีณา" รุกป่า ผิดจริยธรรมร้ายแรง ลุ้นโทษหนักพ้น ส.ส.
- โดนอีก! ป่าไม้แจ้งความ "ปารีณา" รุกป่าเพิ่ม
- "เรืองไกร" หอบแผนที่ยืนยันที่ดิน "ปารีณา" รุกป่าสงวน-ส.ป.ก. จี้รบ.ตรวจสอบ
ความคืบหน้าล่าสุด วันที่ 10 ก.พ.64 ที่สำนักงาน ป.ป.ช.สนามบินน้ำ จ.นนทบุรี ผู้สื่อข่าวรายงานว่า คณะกรรมการ ป.ป.ช. ได้พิจารณาสำนวนการไต่สวนแล้วเห็นว่า การที่นางสาวปารีณา ไกรคุปต์ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ในฐานะผู้แทนของประชาชน ซึ่งจะต้องปฏิบัติหน้าที่ด้วยความซื่อสัตย์สุจริต เพื่อประโยชน์ส่วนรวมของประเทศชาติและความผาสุกของประชาชนโดยรวม โดยปราศจากความขัดกันแห่งผลประโยชน์ และต้องประพฤติปฏิบัติตนให้ถูกต้องเป็นแบบอย่างที่ดี อยู่ในกรอบของจริยธรรมในการดำรงตน เคารพ ยึดถือ และปฏิบัติ ตามกฎหมาย ระเบียบข้อบังคับต่าง ๆ แต่กลับไม่ยึดถือระเบียบ หลักเกณฑ์ กฎหมาย และไม่ประพฤติปฏิบัติตนให้เป็นแบบอย่างที่ดีในการปฏิบัติตามกฎหมาย
โดยเฉพาะกฎหมายที่เกี่ยวกับเรื่องการดูแลรักษาทรัพยากรธรรมชาติ สิ่งแวดล้อม ซึ่งเป็นประโยชน์สาธารณะที่สำคัญ หรือเกี่ยวกับการปฏิรูปที่ดินที่มีเจตนารมณ์เพื่อต้องการช่วยเหลือเกษตรกรที่ประสบความเดือดร้อน และลด ความเหลื่อมล้ำในฐานะของบุคคลในทางเศรษฐกิจและสังคม
ทั้งนี้จึงมีมติว่า กรณีที่นางสาวปารีณา ไกรคุปต์ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามมาตรฐานทางจริยธรรมอย่างร้ายแรง กรณีเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรกระทำการอันเป็นการขัดกันระหว่างประโยชน์ส่วนตนกับประโยชน์ส่วนรวม ทั้งนี้ ไม่ว่าโดยทางตรงหรือทางอ้อม อันถือว่ามีลักษณะร้ายแรง และกรณีเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรกระทำการใดที่ก่อให้เกิดความเสื่อมเสียต่อเกียรติศักดิ์ของการดำรงตำแหน่ง อันถือว่ามีลักษณะร้ายแรงตามมาตรฐานทางจริยธรรมของตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ และผู้ดำรงตำแหน่งในองค์กรอิสระ รวมทั้งผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดิน และหัวหน้าหน่วยงานธุรการของศาลรัฐธรรมนูญและองค์กรอิสระ พ.ศ. 2561 ข้อ 11 ข้อ 17 ประกอบ ข้อ 27 วรรคสอง ให้เสนอเรื่องต่อศาลฎีกาเพื่อวินิจฉัยต่อไป