ประชาทัณฑ์ชายใบ้จับเด็ก 3 ขวบกดน้ำ พยานเห็นคาโอ่ง เจ้าตัวยันช่วยอาบน้ำ (คลิป)

เมื่อมื่อเวลา 00.15 น. ของวันที่ 17 พ.ค. 64 เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.หนองปรือ จ.ชลบุรี รับแจ้งเหตุจากประชาชนว่ามีเด็กถูกทำร้ายร่างกาย จนได้รับบาดเจ็บ เหตุเกิดภายในซอย 1 ริมถนนเลียบทางรถไฟ ต.หนองปรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี หลังรับแจ้งได้รุดไปตรวจสอบ

ที่เกิดเหตุพบ น.ส.กาญจนา (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 32 ปี แม่เด็ก กอดน้องเอ (นามสมมติ) วัย 3 ขวบ ซึ่งอยู่ในอาการหวาดผวา เนื้อตัวสั่น ส่วนผู้ก่อเหตุได้วิ่งหลบหนีไป ทิ้งเพียงรถซาเล้งเก็บของเก่าไว้ ทราบชื่อคือ นายสุชาติ มหาไพบูย์ อายุ 54 ปี ผู้พิการลิ้นไก่สั้น เป็นใบ้ และหูดึง ประกอบอาชีพเก็บขยะและของเก่าขาย ภายหลังคนร้ายถูกชาวบ้านตามจับกุมตัวไว้ได้และรุมทำร้ายร่างกาย

ด้าน น.ส.กาญจนา แม่เด็ก​ เปิดเผยว่า​ นายใบ้สนิทสนมกับแฟนของตนมาระยะหนึ่ง​ ซึ่งจะเข้ามาที่บ้านทุกวัน​ และมักจะซื้อขนม​ นมเข้ามาให้ลูกตนเป็นประจำ​ ซึ่งตนคิดว่าเป็นการเข้าใจผิด​ เพราะนายใบ้ไม่น่าจะทำร้ายลูกตน

ซึ่งวันเกิดเหตุไฟที่บ้านถูกตัด​ นายใบ้ก็ไปซื้อเทียนมาจุดให้​ ส่วนตอนเกิดเหตุตนหลับ​ ลูกตนคงร้อน นายใบ้เลยเอาไปอาบน้ำ โดยการแช่​เท่านั้น​ เด็กก็คงงอแงและร้อง​ไห้ จนมีคนเข้ามาเห็น ซึ่งคนที่เห็นก็เป็นพี่ชายคนละแม่ของลูกตน

ด.ช.นัทธพงศ์ เปิดเผยว่า ตนได้ยินเสียงเด็กร้องอยู่ในห้องน้ำ จึงเดินตามเสียงเข้าไปดู ก็เห็นว่านายใบ้กำลังตีน้องวัย 3 ขวบ แล้วเอากดลงใส่ลงไปในโอ่งน้ำ ด้วยความเป็นห่วงจึงรีบตะโกนเรียกเพื่อนบ้านออกมาช่วยเหลือ ทำให้นายใบ้ได้วิ่งหลบหนีไป จนกระทั่งเจ้าหน้าที่กู้ภัยเข้าตรวจสอบพบว่าเด็กได้รับบาดเจ็บถลอกที่ด้านหลัง แต่อยู่ในอาการหวาดกลัวไม่ยอมออกจากอ้อมกอดแม่

ต่อมากลุ่มพลเมืองดีได้ติดตามจนกระทั่งได้ตัวนายใบ้ อยู่ในอาการมึนเมาอย่างหนัก จึงควบคุมตัวไว้รอให้เจ้าหน้าที่ตำรวจมารับตัว แต่เจ้าหน้าที่แจ้งว่ายังไม่สามารถควบคุมตัวผู้ก่อเหตุได้ได้ เนื่องจากต้องรอให้ผู้ปกครองของเด็กเดินทางเข้าแจ้งความร้องทุกข์ก่อน

ทีมข่าวอมรินทร์ ทีวี ลงพื้นซอย 1 ริมถนนเลียบทางรถไฟ ต.หนองปรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี พบว่าเป็นบ้านไม้ชั้นเดียวมุงด้วยสังกะสี นายใหญ่ (นามสมมติ) อายุ 40 ปี พ่อของเด็กชายวัย 3 ขวบ เผยว่า ตนนั้นเลิกลากับ น.ส.กาญจนา มาได้ 1 ปีกว่าแล้ว แต่ก็ยังสามารถพูดคุยกันได้ เนื่องจากยังคงดูแลลูกร่วมกัน ซึ่งตนมีลูกกับ น.ส.กาญจนา เพียง 1 คน หลังจากเกิดเหตุลูกชายภรรยาคนแรกแจ้งข่าวว่าลูกชายของตนถูกนายใบ้อุ้มกดน้ำ ยอมรับว่าตกใจ อยากจะเข้าไปดูแลลูก แต่ตนนั้นไม่สบาย มีอาการตัวร้อน จึงไม่สามารถลุกมาช่วยลูกชายได้

ส่วนตัวแล้วไม่ได้รู้จักกับนายใบ้ แต่เมื่อ 1 เดือนที่ผ่านมา ตนได้เดินทางมาเที่ยวหาลูกชายที่บ้านเช่าของอดีตภรรยา ทำให้พบกับนายใบ้ ซึ่งตนรู้สึกว่าอดีตภรรยาและสามีใหม่ของเขาไว้ใจนายใบ้ว่าเกินไป และยังสนิทชิดเชื้อจนพามาดื่มสุราที่บ้าน แต่ตนก็ไม่ได้ว่าอะไร อย่างไรก็ตามแล้ว ตนคาดว่านายใบ้น่าจะนำตัวลูกชายตนไปกดน้ำจริง ซึ่งนายใบ้เมาอาจเสียสติ เพราะลูกชายอาจร้องไห้ทำให้เขาโมโห นอกจากนี้ ขณะที่ตนเจอหน้าลูกชายลูกชายได้แต่พูดว่าใบ้กดหัว หลังจากนี้ตนอยากจะพาลูกไปเลี้ยงดูเองที่ต่างจังหวัด แต่ตนก็กลัวว่าลูกจะขาดความอบอุ่นจากคนเป็นแม่ เพราะตนเข้าใจดีว่าการขาดแม่เป็นอย่างไร เนื่องจากตนนั้นก็กำพร้า

ต่อมาทีมข่าวได้เดินทางไปยังระหว่างซอยสุขุมวิท 73 และ 75 เป็นซอยที่นายสุชาติ หรือนายใบ้พักอาศัยอยู่ พบว่าเป็นบ้านชั้นเดียว ภายนอกบ้านมีรถซาเล้งของเขาจอดอยู่ นายสุชาติ เผยว่า เหตุการณ์เมื่อคืนที่ผ่านมา ตนได้ไปดื่มสุราที่บ้านเช่าของ น.ส.กาญจนา ขณะเดียวกันบ้านของเขานั้นถูกตัดไฟ ทำให้มืดและร้อน แต่ตนก็ได้ไปซื้อเทียนไขมาจุดให้ พอช่วงกลางดึก ลูกชายของ น.ส.กาญจนา ได้ร้องไห้ เนื่องจากร้อน ส่วนน.ส.กาญจนา ผู้เป็นแม่ได้เมาสุรา ไม่รู้เรื่องอะไร ตนจึงได้อุ้มเด็กไปที่ห้องน้ำ จากนั้นใช้ขันตักน้ำขึ้นมาลาดที่ศีรษะของน้องเอ ไม่ได้จับกดน้ำ

ก่อนที่จะมีกลุ่มวัยรุ่น 5-6 คน เข้าใจผิดว่าตนทำร้ายเด็ก ปรี่เข้ามาทำร้ายตน ใช้ขวดเบียร์ทุบศีรษะ และรุมเตะต่อยทำร้ายร่างกายตน ทำให้ตนนั้นหนีตายกระเสือกกระสนได้รับบาดเจ็บตรงบริเวณศีรษะ โดยทั่วศีรษะแตก และขาขวามีบาดแผล อย่างไรก็ตาม ตนขอยืนยันว่าตัวเองนั้นไม่ได้จับน้องเอกกดน้ำ และต่อไปนี้ก็คงจะไม่ไปบ้านของน.ส.กาญจนาอีกต่อไป

ด้านนายศักดิ์ ศิลารักษ์ อายุ 64 ปี เพื่อนบ้าน เผยว่า นายใบ้ได้มาอาศัยอยู่ในบ้านเช่าหลังดังกล่าว 3 เดือนแล้ว เขาชอบดื่มสุรา หากมึนเมามาแล้วชอบโวยวายรบกวนชาวบ้าน มีพฤติกรรมที่ไม่ยำเกรงใคร นอนกลางถนน ตนทราบข่าวจากเพื่อนบ้านเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมาว่านายใบ้ถูกทำร้ายร่างกาย หลังไปก่อเหตุอุ้มเด็กวัย 3 ขวบกดน้ำ ส่วนตัวแล้วเชื่อว่านายใบ้อาจจะกระทำจริง เพราะขณะที่เขามึนเมาเขาก็ชอบหาเรื่องผู้อื่น อย่างไรก็ตา ตนอยากให้เจ้าหน้าที่หาที่พักอยู่อาศัยให้แก่นายใบ้ เพื่อจะได้ไม่รบกวนผู้อื่น และตนก็กังวลว่านายใบ้จะเป็นกลุ่มเสี่ยงของการติดเชื้อโควิด เนื่องจากชอบออกไปเก็บขยะทั่วแล้วไม่ดูแลตัวเอง