ทนพิษโควิด-19 ไม่ไหว “ดาวใจ ไพจิตร” ประกาศขาย รร. - สปา - โอเปร่าเฮาส์ ราคาโปรโมชัน 240 ล้าน (คลิป)

1 มิ.ย. 64

เรียกว่าช็อกวงการอีกรอบ เมื่อศิลปินรุ่นใหญ่ "ดร.ดาวใจ ไพจิตร" ตัวแม่วงการเพลงลูกกรุงไทยวัย 70 ปี ที่ออกมาประกาศขายกิจการส่วนตัว 3 อย่างด้วยกัน คือ โรงละคร ดาวใจ โอเปร่าเฮาส์, ดาวใจรีสอร์ต และดาวใจ สปา ซึ่งทั้งหมดเปิดให้บริการมาตั้งแต่ปี พ.ศ.2554 รวมแล้ว 10 ปี ตั้งอยู่ในพื้นที่เดียวกัน ซอยปรีดีพนมยงค์ 14 แยก 10 แขวงพระโขนงเหนือ เขตวัฒนา กรุงเทพมหานคร โดยประกาศขายในมูลค่า 240 ล้านบาท

637615

ล่าสุดวันที่ 1 มิ.ย.64 ทีมข่าวอมรินทร์ ทีวี มีโอกาสลงพื้นที่ไปยังที่ตั้งของทั้ง 3 กิจการ ก็พบว่าสภาพโดยรวมมีเนื้อที่ประมาณ 2 ไร่ ตารางวาละ 300,000 บาท ทุกอย่างดูเงียบสงบ ร่มรื่นไปด้วยพันธุ์ไม้นานาชนิด ตามสไตล์รีสอร์ต แต่ภายในอาคารของทั้ง 3 กิจการนั้นก็เป็นตามสภาพของพื้นที่ที่ไม่ถูกใช้งาน มีฝุ่นเกาะบ้าง ของถูกจัดเก็บเข้ามุมต่าง ๆ

449708

อย่าง “โรงละคร ดาวใจ โอเปร่าเฮาส์” ที่เป็นตึกปูนร่วมสมัยขนาดใหญ่ 1 ไร่กว่า ๆ จำนวน 4 ชั้น มีลิฟต์ทุกชั้น โดยชั้น 1 จะเป็นโซนห้องอาหาร ห้องรับแขก ห้องแต่งตัวศิลปิน “ดาวค้างฟ้า” ซึ่งเป็นชื่อที่ “แม่ดาวใจ” ตั้งให้กับเหล่านักแสดงในโรงละคร ดาวใจ โอเปร่าเฮาส์ ตั้งแต่ปี พ.ศ.2560 โดยผู้ที่ซื้อไปจะได้รับทั้งตึกและของทุกอย่างภายในอาคาร ไม่ว่าจะเป็นชุด อุปกรณ์โชว์ อุปกรณ์ตกแต่งทั้งหมด

593008

ชั้นที่ 2 จะเป็นเวทีแสดงโอเปร่า ห้องควบคุมระบบแสง สี เสียง และที่นั่งสำหรับรับชม ส่วนชั้น 3-4 ก็จะเป็นที่นั่งสำหรับรับชมเช่นกัน รวมแล้วประมาณ 350-400 ที่นั่ง และทุกชั้นจะมีห้องน้ำชายหญิงอย่างละ 1 ห้อง มีกล้องวงจรปิดทุกชั้น ชั้นละประมาณ 2-3 ตัว

ส่วน “ดาวใจรีสอร์ต” เป็นเรือนไม้ผสมปูนร่วมสมัย 2 ชั้น ชั้นแรกเป็นคลินิคบำบัดโรคมะเร็ง ซึ่งไม่ได้ขาย แต่จะขายในส่วนของชั้น 2 ที่เป็นห้องพัก มีห้องพัก 40 ห้อง ไว้รองรับแขก ทั้งเตียงเดี่ยวและเตียงคู่ ภายในห้องจะประกอบด้วยเตียงนอนขนาด 3-5 ฟุตพร้อมฟูก หมอน และผ้าห่ม รวมถึง ตู้เสื้อผ้า โต๊ะเครื่องแป้ง โต๊ะใส่ของ โซฟา ตู้เย็น โคมไฟ เครื่องปรับอากาศ โทรทัศน์ กระจก และห้องน้ำในตัวทุกห้อง

และ “ดาวใจไทยสปา” ก็เป็นตึกปูนร่วมสมัยทรงกระบอกสูง 1 ชั้นครึ่ง โดยจะเริ่มจากห้องรับแขกลักษณะวงกลม ภายในห้องจะเต็มไปด้วยชุดที่ใช้สำหรับแสดง ตั้งโชว์อยู่ประมาณเกือบร้อยชุด ส่วนตัวอาคารที่เหลือจะถูกแบ่งเป็นห้องสปาทั้งหมด 12 ห้อง รวมประมาณ 12 เตียง บางห้องเป็นเตียงคู่ บางห้องเป็นเตียงเดี่ยว โดยในแต่ละห้องจะประกอบไปด้วยเตียงนวด อ่างน้ำสำหรับแช่น้ำแร่ น้ำสมุนไพร และตู้สำหรับใส่อุปกรณ์สปา

345405

“แม่ดาวใจ” บอกว่า เหตุผลที่ตัดสินใจประกาศขาย คือ ตนตั้งใจไว้ตั้งแต่สร้างสถานที่แห่งนี้ว่าจะดูแลกิจการโอเปร่าเฮาส์ไม่เกิน 10 ปี และวันนี้ก็ครบแล้ว เหตุผลที่ 2 คือด้วยความที่ตนชอบเดินทางไปปฏิบัติธรรมต่างจังหวัด ชอบไปเที่ยวต่างประเทศ หากขายให้คนอื่นมาดูแลแทน ตนก็จะได้ไม่ต้องห่วงหน้าพะวงหลัง แต่ยอมรับว่าสถานที่แห่งนี้เป็นต้นโพธิ์ร่มไทรของศิลปินรุ่นอาวุโส เพราะมี “กองทุนดาวค้างฟ้า” ที่คอยดูแลศิลปินทีได้รับความเดือดร้อนจากเหตุการณ์ต่าง ๆ และบนโลกใบนี้ตนยืนยันว่ามีเพียงไม่กี่คนที่มีโอเปร่าเฮาส์เป็นของตัวเอง ซึ่งหนึ่งในนั้นก็คือ “ดาวใจ ไพจิตร”

967928

สำหรับใครที่สนใจ ตนก็ไม่ได้บังคับว่าจะซื้อทั้ง 3 กิจการ จะซื้อแค่อย่างใดอย่างหนึ่งก็ได้ หรือซื้อไปแล้วจะสานต่อเจตนารมณ์โรงละครทั้งหมดของตน หรืออาจจะนำไปทำเป็นอย่างอื่นก็ไม่ติดใจอะไร การตัดสินใจในครั้งนี้ มาจากผลกระทบจากสถานการณ์โควิด-19 หรือไม่ ตนยอมรับว่าเกี่ยวบ้างเล็กน้อย เพราะจากเดิมที่เคยมีพนักงานเสิร์ฟ 35 คน ตอนนี้ก็เหลือ 8-9 คน คือพ่อบ้าน แม่บ้าน พ่อครัว แม่ครัว คนขับรถและผู้ติดตาม เพราะส่วนที่เหลือก็ได้ลาออกไปด้วยความเต็มใจ เนื่องจากไม่มีรายได้ในช่วงสถานการณ์โควิด-19 บวกกับก่อนหน้านี้ในช่วงที่สถานการณ์ยังปกติ มีรายได้ในส่วนของโรงละครเดือนละ 2-3 แสนบาท รีสอร์ตประมาณเดือนละ 2 แสนบาท สปาเดือนละ 1.5 แสนบาท ทั้งหมดหักค่าใช้จ่ายต้นทุนแล้ว

535296

โดยในช่วงสถานการณ์ปกติ โรงละครจะเปิดแสดงเฉพาะวันเสาร์-อาทิตย์ มีแขกวันละประมาณ 500 คน รีสอร์ตเดือนหนึ่งมีแขกเข้าประมาณ 40 คน ส่วนสปามีผู้มาใช้บริการประมาณวันละ 20 คน แต่พอเข้าสู่สถานการณ์โควิด-19 ก็ไม่ได้จัดอีกเลย ประมาณครึ่งปีแล้ว รีสอร์ตและสปาตอนนี้ก็ปิดให้บริการมา 1 ปีตามนโยบายของภาครัฐ หมายความว่าไม่มีรายได้เข้ามา ในขณะที่ค่าใช้จ่ายรวมทั้งหมดที่ต้องแบกรับช่วงสถานการณ์ปกติเดือนละ 1.5 ล้านบาท แต่ตอนนี้ก็เหลือประมาณ 2 แสนบาท รวมค่าน้ำ-ค่าไฟแล้ว

100471

นอกจากนี้ “แม่ดาวใจ” กล่าวยอมรับว่า การที่ตนตัดสินใจครั้งนี้รู้สึกใจหายมาก เพราะเป็นสถานที่ที่ตนผูกพัน ตนอยู่ที่นี่มาตั้งแต่อายุ 20 ปี ตั้งแต่ไม่มีอะไรเลย กระทั่งเริ่มก่อสร้างอาคาร จัดหาอุปกรณ์ เฟอร์นิเจอร์ทุกชิ้น ตนเป็นคนเลือกเองทั้งหมด เพราะต้องการได้ของที่ดีมาให้แขกใช้บริการ ซึ่งแน่นอนว่าหากสามารถขายตรงนี้ได้ ตนก็มีแพลนแล้วว่าอนาคตจะย้ายไปอยู่ชานเมือง และสร้างวัดเล็ก ๆ อยู่ภายในบ้าน พร้อมกับลานกว้าง ๆ ทำเวที เพื่อที่จะทำการแสดงแบบเดิม เพราะไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น สายเลือดนักแสดงอยู่ภายในตัว ตนยังอยากทำต่อไป ส่วนทีมงานที่ยังเหลือก็จะให้ตัดสินใจว่าจะตามไปอยู่ด้วยหรือไม่ หรือจะขอปลีกตัวเดินตามเส้นทางของตัวเอง ตนก็พร้อมที่จะสนับสนุน

อย่างไรก็ตาม “แม่ดาวใจ” ยังบอกด้วยว่า ตนไม่ได้ท้อ เพียงแค่อยากรีไทร์ตัวเองก็เท่านั้น แต่ถ้าถามว่ากลัวคนจะนินทาว่าเพราะตกอับ หรือมีหนี้หรือไม่จึงได้ประกาศขายทรัพย์สิน ตนไม่เคยคิดแบบนั้นเลยด้วยซ้ำ เพราะนี่ไม่ใช่เรื่องน่าอับอาย อยู่วงการมาตั้ง 55 ปีด้วยอาชีพนี้ ไม่เคยหวั่นเสียงนกเสียงกา เป็นแค่การเปลี่ยนมือ หนี้ก็ไม่ได้มีเยอะขนาดนั้น และทุกอย่างตนยังคงรับมือได้

advertisement

คุณอาจสนใจข่าวนี้

ข่าวยอดนิยม