Logo site Amarintv 34HD
Logo LiveSearch
Search
Logo Live
Logo site Amarintv 34HD
ช่องทางติดตาม AMARINTV
  • facebook AMARIN TV 34 HD
  • x AMARIN TV 34 HD
  • line AMARIN TV 34 HD
  • youtube AMARIN TV 34 HD
  • instagram AMARIN TV 34 HD
  • tiktok AMARIN TV 34 HD
  • RSS Feed AMARIN TV 34 HD
“พิชัย​”แจงเห็นด้วยเศรษฐกิจไม่ดีมานาน ตั้งเป้า​ GDP ปีนี้ต้องถึง​ 3

“พิชัย​”แจงเห็นด้วยเศรษฐกิจไม่ดีมานาน ตั้งเป้า​ GDP ปีนี้ต้องถึง​ 3

25 มี.ค. 68
17:28 น.
แชร์

“พิชัย​”แจงสภา​ฯ​ เห็นด้วย ศิริกัญญา เศรษฐกิจไม่ดีมานาน ตั้งเป้า​ GDP ปีนี้ต้องถึง​ 3 รับ​คลังพิมพ์เงินเองไม่ได้​ หวัง Token เสริมสภาพคล่อง

นายพิชัย​ ชุณหวชิร​ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง​ ชี้แจงกรณีนางสาวศิริกัญญา​ ตันสกุล​ สส.บัญชีรายชื่อพรรคประชาชนอภิปราย​ ว่า​ ตนไม่เถียงและเห็นด้วยว่าเศรษฐกิจไม่ดีมาอย่างยาวนาน อย่างที่ท่านพูดในอดีตว่าเราเคยดี แต่ไม่ใช่ดีเพราะจังหวะดี​ เพราะความฟลุ๊ค​ แต่ดีเพราะเรื่องต่างๆที่เราได้ทำไปในอดีต ดังนั้นเมื่อเศรษฐกิจไม่ดีพืชผลทางการเกษตรก็ไม่ดี การลงทุนอุตสาหกรรมไม่ดีเพราะเราสู้เขาไม่ได้ การลงทุนภาครัฐที่เบิกจ่ายช้า รวมถึงเรื่องการส่งออก แต่อย่างไรก็ตามถ้าจะบอกว่าไม่ดู GDP คงไม่ได้ เพราะการที่ GDP ดี สะท้อนว่าประชาชนอยู่ดีกินดี มีกำลังซื้อกำลังบริโภค ซึ่งหมายถึงว่ามีการจ้างงาน มีการลงทุนส่วนตัว จึงอยากเรียนว่าแม้ว่าในปีที่ผ่านมาจะไม่มีความหวังด้าน GDP ไปหากดูเป้าที่ 2.5% จะเห็นว่าในปีที่ผ่านมาโตขึ้นมาประมาณ 30% จึงตั้งเป้าว่าในปีนี้ จากผลักดันให้ GDP ต้องไม่ต่ำกว่า 3% เราจะไม่ตั้งก็ไม่ได้หรือไม่สู้ก็ไม่ได้

ส่วนด้านการเกษตร เช่น ข้าว ไทยมีการส่งออกจำนวนมาก ซึ่งมากกว่าจำนวนบริโภคภายในประเทศ แต่ราคาในการขายเกือบเสมอต้นทุน นั่นหมายความว่าเราส่งออก โดยที่ไม่มีกำไรเหลือเลย แล้วเราจะผลิตทำไม​ ยิ่งส่งออกมากยิ่งแย่ ถ้าราคาเท่ากับต้นทุน เพราะนั่นจะเท่ากับเราทำงานฟรี โดยปัจจุบันประเทศไทยผลิตข้าวสารได้ 17 ล้านตันต่อปี บริโภคภายในประเทศประมาณ 11 ล้านตัน นั่นหมายความว่าเหลืออยู่ 6 ล้านตัน ซึ่งสิ่งที่ต้องทำมีอยู่ 2 อย่าง คือปลูกข้าวในสถานที่ที่เล็กลง และนำพื้นที่ที่เหลือไปปลูกอย่างอื่น ซึ่งหากคำนวณคร่าวๆจะมีพื้นที่เพิ่ม 12 ล้านไร่

ซึ่งรัฐบาลกำลังพิจารณาว่าจะนำพื้นที่ดังกล่าวไปทำอะไร แต่ก็น่าจะเป็นการผลิตพืชผลทางการเกษตรที่ประเทศเคยนำเข้า เช่น​ ข้าวโพด ที่นำเข้าอยู่ในราคา 8-8.50 บาท ต่อกิโลกรัม ดังนั้น หากนำพื้นที่ดังกล่าวมาปลูก จะได้ข้าวโพดประมาณ 1,800 กิโลกรัม/ไร่​ ขายได้ประมาณ 16,000 บาทต่อไร่ แต่สิ่งสำคัญคือการทำให้เกษตรกรเข้าใจ และในช่วงแรกก็จะต้องมีการดูแล ถ้วยเกษตรกร 3 -​5 ปีแรก​ อย่างไรก็ตาม พืชผลทางการเกษตร ของทุกประเทศ ถือเป็นยุทธปัจจัยที่จำเป็นของประเทศ​ไม่ว่าจะมีต้นทุนเท่าใดก็ต้องปลูกเพื่อความมั่นคง​ของ​ประเทศ​

ขณะเดียวกันนายพิชัย​ ยังระบุ ถึงอัตราค่าไฟฟ้า ยอมรับว่าค่าไฟฟ้าของประเทศไทยสูงไป อยู่ที่ 4.10 บาท​ ซึ่งตนเห็นว่าราคาที่เหมาะสมอยู่ที่ 3.50 บาท ซึ่งหากดูแล้วเหมือนจะลดไม่ได้ เพราะต้นทุนมาจาก และโรงไฟฟ้า และค่าเชื้อเพลิง แต่ตนอยากตั้งสมมติฐานว่า ไทยมีโรงไฟฟ้ามากเกินความจำเป็น ซึ่งต้นทุนจะต้องมาถัวเฉลี่ยการคิดค่าไฟทั้งหมด ดังนั้นถ้ามีการใช้ไฟเพิ่มมากขึ้น จะส่งผลให้ต้นทุนค่าเชื้อเพลิงเพิ่มขึ้นนิดหน่อย แต่สามารถขายไฟได้เพิ่มมากขึ้น ส่งผลให้ตัวหารค่าไฟเพิ่มขึ้นตามไปด้วย ซึ่งปัจจุบันศูนย์ข้อมูล Data Center หลายแห่งต้องการใช้ไฟฟ้า รวมถึงผู้ทำไบโอพลาสติก ต้องการไฟฟ้าพลังงานสีเขียว ในเฟสแรกเขาจะยอมใช้ ประเทศไทยมีอะไรเขาใช้ทั้งหมด เพราะหลายประเทศไฟฟ้าไม่พอ หมดเฟสที่ 2 อาจต้องเป็นไฟฟ้าพลังงานสีเขียว แต่สิ่งที่จะทำให้ค่าไฟลดลงได้อย่างแท้จริง คือการปรับโครงสร้างของการผลิตไฟ จากไฮโดรคาร์บอน ซึ่งเป็นการผลิตไฟฟ้าจากก๊าซ LPG เป็นสิ่งที่มีต้นทุนต่ำกว่า เช่น โซล่าเซลล์ที่ปัจจุบันมีต้นทุนที่ต่ำลงเรื่อยๆ และคาดว่าจะใช้ต้นทุนไฟฟ้าไม่เกิน 2 บาท ต่อหน่วย พร้อมกับมองว่าการท่องเที่ยวถือเป็นอีกหนึ่งส่วนที่ทำให้ต้นทุนของค่าไฟฟ้าทั้งต่ำลงได้

ส่วนเรื่องการกระตุ้นเศรษฐกิจ นายพิชัย กล่าวว่า การกระตุ้นเศรษฐกิจจำเป็นจะต้องเติมเม็ดเงินลงไป ไม่ว่าวิธีใดวิธีหนึ่ง วันนี้หนี้สาธารณะ เพิ่มขึ้นถึงในจุดหนึ่ง พร้อมกับกล่าวว่าการใช้ศัพท์คำว่า stable Coin จะต้องใช้ด้วยความระมัดระวัง เราอยู่ในประเทศไทยวันนี้ด้วยกฎหมายของแบงค์ชาติ กระทรวงการคลังไม่สามารถ พิมพ์เงินใหม่ขึ้นมาคู่ขนานหรือแข่งกับแบงค์ชาติได้ แต่สิ่งที่เราจะทำ เพื่อให้เกิดสภาพคล่องมากขึ้น เพราะดิจิทัล อย่างน้อยรัฐบาลกู้หนี้จากประชาชน ปีหนึ่งประมาณแสนล้านบาท ซึ่งปกติจะไปสู่สถาบันการเงินหรือคนที่มีเงิน ซึ่งคนที่อยากจะซื้อตรงนี้ ต้องเปลี่ยนให้เป็น Token แต่ไม่เป็นเงินใหม่เนื่องจากเทียบเท่ากัน พร้อมยอมรับว่าไม่มีอะไรแปลก แต่เพียงแต่ทำให้การแลกเปลี่ยนนั้นง่ายยิ่งขึ้น​ คนไม่อยากจะเรียกว่านี่คือเงินใหม่ที่รัฐบาลพิมพ์ แต่นี่คือเงินที่ถูกต้อง เสมือนกับที่แบงค์ชาติมีอยู่ เราจะไม่ทำอะไรออกนอกเหนือจากสิ่งที่แบงค์ชาติไม่เห็นด้วย

ขณะที่เรื่องตลาดหุ้น นายพิชัยกล่าวว่า ได้มีการแก้ไขปัญหาความได้เปรียบของนักลงทุนต่างชาติมากกว่านักลงทุนไทยไปแล้ว 80-90 %

ส่วนเรื่องการแก้หนี้ ปกติแล้วขั้นตอนโดยทั่วไป คือขอยืดหยุ่น หยุดหนี้จ่ายน้อยลง ซึ่งสิ่งนั้นทำได้ เฉพาะคนที่ยังมีกำลังอยู่ ซึ่งที่ผ่านมามีการดำเนินการแก้ไขปัญหาไปแล้วประมาณ 30% แต่เราคิดว่าวันนี้ เงินที่เตรียมไว้เพื่อปรับโครงสร้างหนี้ใช้ไปเพียงครึ่งเดียว เมื่อเรานำหนี้ทั้งหมด 13.6 ล้านล้าน ซึ่งเป็นจำนวนที่สูง ไม่มีเงินซื้อทั้งหมด​ เพราะในจำนวนนี้มีหนี้ที่ไม่เสียรวมอยู่ด้วย โดยจะเลือกเอาเฉพาะที่เป็นหนี้เสียแล้ว โดยจะไม่แตะในกลุ่มลูกหนี้ที่มีกำลังสามารถเจรจากับเจ้าหนี้ได้ โดยเลือกแต่ลูกหนี้ไม่มีหลักทรัพย์หรือไม่มีปัญญาแล้ว​

Advertisement

แชร์
“พิชัย​”แจงเห็นด้วยเศรษฐกิจไม่ดีมานาน ตั้งเป้า​ GDP ปีนี้ต้องถึง​ 3