Logo site Amarintv 34HD
Logo LiveSearch
Search
Logo Live
Logo site Amarintv 34HD
ช่องทางติดตาม AMARINTV
  • facebook AMARIN TV 34 HD
  • x AMARIN TV 34 HD
  • line AMARIN TV 34 HD
  • youtube AMARIN TV 34 HD
  • instagram AMARIN TV 34 HD
  • tiktok AMARIN TV 34 HD
  • RSS Feed AMARIN TV 34 HD
KTC แนะ 4 ข้อสู้มิจฉาชีพ ป้องกันภัยการเงินบนโลกไซเบอร์
โดย : อมรินทร์ทีวีออนไลน์

KTC แนะ 4 ข้อสู้มิจฉาชีพ ป้องกันภัยการเงินบนโลกไซเบอร์

28 เม.ย. 65
10:48 น.
แชร์

ในยุคที่โลกออนไลน์เข้ามาช่วยอำนวยความสะดวกในเกือบทุกช่วงชีวิตประจำวัน โดยเฉพาะความนิยมในการซื้อสินค้าออนไลน์ที่เข้ามาแทนที่การเดินไปร้านค้าหรือห้างฯ แต่ในอีกมุมก็มีช่องว่างให้กับมิจฉาชีพมาใช้เป็นเครื่องมือหากิน ดังนั้นเราจึงควรรู้จักวิธีการรับมือเพื่อป้องกันการตกเป็นเหยื่อ

 

บมจ.บัตรกรุงไทย(KTC) จัดเสวนาให้ความรู้เพื่อสร้างความมั่นใจด้านความปลอดภัยในการทำธุรกรรมออนไลน์ พร้อมถ่ายทอดสดทางเฟซบุ๊คผ่านเพจ KTC Journey เพื่อให้คนไทยพร้อมรับมือความเสี่ยงและภัยคุกคามต่างๆ บนโลกไซเบอร์ที่กำลังทวีความรุนแรง แนะวิธีสังเกตและป้องกันการทุจริตบนออนไลน์ในรูปแบบต่างๆ

 

สำหรับในงานเสวนา เสวนา KTC FIT Talks 7 "ตอนรับมือความเสี่ยงและภัยคุกคามบนโลกออนไลน์" โดย ไรวินทร์  วรวงษ์สถิตย์ ผู้ช่วยประธานเจ้าหน้าที่บริหาร – ควบคุมงานปฏิบัติการและงานปฏิบัติการร้านค้า เคทีซี ให้ข้อมูลว่า “ธุรกรรมการชำระเงินออนไลน์มีแนวโน้มเติบโตรวดเร็ว

 

โดยเฉพาะการชำระค่าสินค้าทางออนไลน์และบริการบนอีคอมเมิร์ซได้รับความนิยมสูงต่อเนื่อง โดยข้อมูลจากสำนักงานพัฒนาธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ (ETDA) ในช่วงปี 2560-2564 มีอัตราการเติบโตเฉลี่ย 9.79% ต่อปี  
โดยผู้บริโภคนิยมซื้อสินค้าผ่านอี-มาร์เก็ตเพลซ มากที่สุด ในขณะที่ผู้ขายนิยมขายสินค้าผ่านโซเชียล คอมเมิร์ซ มากที่สุด 

 

915711

 

 

 5 อันดับแรก ช่องทางการชำระค่าสินค้าและบริการออนไลน์ที่ได้รับความนิยม มีดังนี้ 

1. แอปพลิเคชันของธนาคาร 

2. ชำระเงินปลายทาง 

3. ชำระด้วยบัตรเครดิตหรือบัตรเดบิท 

4. โอนหรือชำระเงินผ่านบัญชีธนาคาร  

5. ชำระด้วยวอลเล็ตของแพลทฟอร์ม 

 

นอกเหนือจากการชำระค่าสินค้าและบริการเพื่อการอุปโภคบริโภคผ่านออนไลน์แล้ว นับตั้งแต่มีการระบาดของไวรัสโควิด-19 อีกหนึ่งบริการที่มีแนวโน้มเติบโตสูงขึ้นคือ การซื้อขายสินทรัพย์เพื่อการลงทุนออนไลน์ อาทิ บิทคอยน์ หุ้นและกองทุนรวม
ขณะที่จากข้อมูปัจจุบัน พบว่า การทุจริตบนระบบการชำระออนไลน์ในปัจจุบันมีหลายรูปแบบ

 

เช่น Friendly Fraud (การทุจริตจากคนแวดล้อมใกล้ตัว) Fake Website (เว็บไซต์ปลอม) Bin Attack (การสุ่มเลขบัตร) และโดยเฉพาะ Social Engineering (การหลอกโอนขอ OTP หรือ One Time Password และหลอกโอนเงิน) จากแกงค์คอลเซ็นเตอร์ หรือแอบอ้างเป็นหน่วยงานราชการต่างๆ เช่น ตำรวจหรือไปรษณีย์ เป็นต้น 

 

โดยตัวอย่างเหตุการณ์ที่พบได้แก่ ผู้ทุจริตส่ง QR Code ปลอมหลอกให้
ลูกค้าสแกนทำรายการ / ลูกค้าได้รับอีเมลหลอกลวงหรือหน้าเว็บไซต์ปลอม (Email Phishing) จากมิจฉาชีพ หลอกให้ทำการอัพเดทข้อมูลบัตรเครดิตและถูกนำไปใช้เข้าระบบและทำรายการธุรกรรมโดยไม่ได้รับอนุญาต

 

4 ข้อต้องรู้รับมือมิจฉาชีพก่อนโดนหลอก

นพรัตน์ สุริยา ผู้จัดการ - ควบคุมและป้องกันการทุจริต KTC แนะนำการรับมือในยุคสังคมไร้เงินสดเพื่อไม่ให้ตกเป็นเหยื่อมิจฉาชีพจากช่องว่างบนโลกออนไลน์ ผู้บริโภคสามารถร่วมป้องกันตนเองเบื้องต้นได้ง่ายๆ ดังนี้

 

 1. ระมัดระวังไม่หลงเชื่ออีเมลลวง ทุกธนาคารและสถาบันการเงินไม่มีนโยบายแจ้งให้ลูกค้าเข้าใช้บัญชีผ่านทางอีเมล  

 

2.ติดตั้งโปรแกรมป้องกันไวรัสที่น่าเชื่อถือ    

 

3. ตั้งการแจ้งเตือนเมื่อมีการทำธุรกรรม ผ่าน SMS หรือให้อีเมลกับธนาคารและสถาบันการเงิน  

 

4.ล็อคเอาต์ออกจากระบบทุกครั้งเมื่อเลิกใช้งาน  สำหรับการป้องกันความเสี่ยงจาก QR Code ปลอม ทำได้โดยตรวจสอบความเรียบร้อยสมบูรณ์ถูกต้องของ QR Code ใช้สแกนเนอร์ที่มีความปลอดภัยและมีฟังก์ชันเตือนเมื่อเป็น QR Code ปลอม / ระมัดระวังการสแกน QR Code ที่ติดตั้งในที่สาธารณะ

 

/ ไม่พิมพ์ข้อมูลส่วนตัวหลังจากสแกน QR Code / ตรวจสอบชื่อเว็บไซต์หรือ URL หลังการสแกน QR Code เพราะมิจฉาชีพมักใช้ชื่อคล้ายคลึงกัน / หลีกเลี่ยงการดาวน์โหลดแอปฯ จาก QR Code ควรดาวน์โหลดจาก Apple Store หรือ Google Play แทน”

ktc3

 

 

“สำหรับสมาชิกเคทีซี แนะนำให้เพิ่มความปลอดภัยในการเข้าถึงข้อมูล ด้วยการดาวน์โหลดและใช้แอปฯ “KTC Mobile” ซึ่งปลอดภัยตั้งแต่เริ่มต้นล็อคอินด้วยรหัสผ่าน 6 หลัก บนแป้นพิมพ์แบบไดนามิค เพื่อการยืนยันตัวตนเข้าสู่ระบบผ่านการสแกนลายนิ้วมือ หรือสแกนม่านตาสำหรับผู้ใช้สมาร์ทโฟนซัมซุง แกแลคซี่ สะดวกด้วยระบบตั้งเตือนการใช้จ่ายผ่านบัตรทุกรายการ และยังสามารถกำหนดยอดใช้จ่ายที่ต้องการ

 

พร้อมตั้งเตือนก่อนวันชำระ รวมทั้งบริการจำเป็นอื่นๆ ที่ลูกค้าสามารถตั้งค่าทำรายการได้ด้วยตนเอง เช่น การอายัดบัตรชั่วคราว การกำหนดวงเงินและการขอวงเงินชั่วคราว” 

 

“เคทีซียังได้มีการปรับข้อความเมื่อส่งรหัสผ่านสำหรับใช้ครั้งเดียว หรือ OTP โดยย้ำเตือนให้สมาชิกระมัดระวังการแจ้งรหัสให้กับบุคคลอื่น เพื่อลดความเสี่ยงในการทุจริตเข้าถึงบัญชี นอกจากนี้ สมาชิกเคทีซีและผู้บริโภคยังสามารถตรวจสอบเว็บไซต์แปลกปลอมได้ผ่าน https://who.is เพื่อหาข้อมูลจดทะเบียนของเว็บไซต์ต่างๆ ได้ เนื่องจากปัจจุบันได้มีมิจฉาชีพแอบอ้างเป็นสถาบันการเงินที่มีการจดทะเบียนจริง แล้วสร้างเว็บไซต์ปล่อยเงินกู้ดอกเบี้ยต่ำ หลอกให้ผู้เสียหายโอนค่าค้ำประกันวงเงินกู้ แต่ไม่มีการให้สินเชื่อแต่อย่างใด” 

 

ด้าน พันธ์เทพ ชนะศึก  ผู้อำนวยการ – หน่วยงานควบคุมและป้องกันการทุจริต “เคทีซี” กล่าวถึงแนวทางการช่วยเหลือปัญหาทางออนไลน์ว่า “เคทีซีทำงานอย่างใกล้ชิดกับเจ้าหน้าที่ตำรวจและหน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้อง ในการเฝ้าระวัง แจ้งเบาะแสและติดตามสังเกตการณ์เหตุผิดปกติวิสัย ซึ่งอาจนำไปสู่การทุจริตของมิจฉาชีพ เพื่อการป้องปราบที่รวดเร็วและมีประสิทธิภาพ
 

 

โดยล่าสุดทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติได้พัฒนาความช่วยเหลือปัญหาที่เกิดขึ้นทางออนไลน์ไปอีกขั้น ด้วยการแจ้งเตือนภัย และเปิดให้ผู้บริโภคสามารถแจ้งความออนไลน์ได้ด้วยตนเองผ่านเว็บไซต์ www.thaipoliceonline.com  หรือขอรับคำปรึกษาและคำแนะนำได้ที่โทร. 1441 นอกจากนี้ ทางกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม และ สำนักงานพัฒนาธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ ยังได้เปิดสายด่วน โทร. 1212 เพื่อช่วยเหลือผู้บริโภคออนไลน์เชิงรุกตลอด 24 ชั่วโมง อีกด้วย”

 

แชร์
KTC แนะ 4 ข้อสู้มิจฉาชีพ ป้องกันภัยการเงินบนโลกไซเบอร์