Avatar ภาค2 โกยรายได้ลดลง 58% คาดวิกฤติความหนาวในสหรัฐฯเป็นเหตุ
หลังจากเราได้ชมหนัง Avatar ภาคแรกในปี 2009 ภาคต่อก็ใช้เวลายาวนานถึง 13 ปีทีเดียวกว่าจะได้ชมกัน แต่ในที่สุด ‘Avatar : The Way of Water’ จากดิสนีย์ ที่กำกับโดย เจมส์ คาเมรอน ก็ไดเเปิดตัวสู่สายตาชสวโลกเมื่อวันที่16 ธันวาคม เพียงแค่สัปดาห์เดียวก็กวาดรายได้ถล่มทลาย ติดอันดับ 3 หนังที่ทำรายได้เปิดตัวทั่วโลกสูงสุดรวมแล้วทำเงินทั่วโลกไป 434.5 ล้านในสัปดาห์แรก
แต่สิ้นสุดสัปดาห์ที่ 2 ยอดขายตั๋ว “Avatar: The Way of Water ในสหรัฐก็ร่วงราว 58%คาดว่า สาเหตุเกิดจากสภาพอากาศที่หนาวจัดเข้าขั้นวิกฤติในสหรัฐเป็นสาเหตุสำคัญ แต่นักวิเคราะห์ก็เชื่อว่า แนวโน้มการโกยรายได้ของ “Avatar: The Way of Water น่าจะมีโอกาสทำได้มากกว่านี้
ขณะนี้รายได้ของ Avatar: The Way of Water' ทำรายได้เกือบ 900 ล้านเหรียญทั่วโลก ล่าสุดคือ 855 ล้านดอลลาร์ นับตั้งแต่เปิดตัวเมื่อวันที่ 16 ธันวาคม โดยเป็นรายได้ในประเทศ 254 ล้านดอลลาร์และจากตลาดต่างประเทศ 601 ล้านดอลลาร์ นับเป็นภาพยนตร์ที่ทำรายได้สูงสุดเป็นอันดับ 5 ในปี 2565 เลยทีเดียว
- Top Gun: Maverick” ของ Paramount และ Skydance เป็นผู้นำในปัจจุบันด้วยรายได้ 1.48 พันล้านเหรียญทั่วโลก
- ตามมาด้วย“Jurassic World: Dominion” จาก Universal ทำรายได้ 1 พันล้านเหรียญสหรัฐ
- Doctor Strange in the Multiverse of Madness” ของ Disney และ Marvel Studios ทำรายได้ 952 ล้านเหรียญสหรัฐ
- “Minions: The Rise of Gru” ของ Universal and Illumination 939 ล้านเหรียญสหรัฐ
- Avatar : The Way of Water จาก ดิสนีย์ ทำรายได้เกือบ 900 ล้านเหรียญทั่วโลก
เจมส์ คาเมรอน ผู้กำกับและเหล่านักแสดง
ทั้งนี้สัปดาห์ที่สองในโรงภาพยนตร์ Avatar : The Way of Water ทำรายได้ในประเทศทำรายได้ประมาณ 56 ล้านดอลลาร์ซึ่งลดลง 58% จากการเปิดตัวครั้งแรก นักวิเคราะห์บ็อกซ์ออฟฟิศตั้งข้อสังเกตว่าสภาพอากาศหนาวเย็นและพายุในช่วงสุดสัปดาห์คริสต์มาสน่าจะทำให้การขายตั๋วในประเทศช้าลง
Avatar : The Way of Water ใช้ทุนสร้าง 350 ล้าน-400 ล้านดอลลาร์ ทำให้เป็นหนึ่งในภาพยนตร์ที่แพงที่สุดในประวัติศาสตร์ฮอลลีวูด เจมส์ คาเมรอน เคยวางแผนว่า เค้าจะสร้าง Avatar ถึง 5 ภาค แต่หากภาค 2 ทำเงินต่ำกว่าเป้าก็อาจจะไม่มีภาค 3 ต่อไป ต้องตามดูกันต่อว่า สุดท้ายแล้ว Avatar ภาค 2 จะโกยรายได้2,000 ล้านเหรียญตามเป้าหรือไม่
Paul Dergarabedian นักวิเคราะห์สื่อที่ Comscore มองว่า เป็นเรื่องปกติสำหรับภาพยนตร์ฟอร์มยักษ์ ที่ยอดขายตั๋วจะลดลงราว 50% ถึง 70% แต่มันก็เป็นตัวชี้วัดได้ว่าภาพยนตร์เรื่องนี้จะติดอยู่ในบ็อกซ์ออฟฟิศยาวนานแค่ไหน ซึ่งหากภาพยนตร์เรื่องนั้นมียอดขายลดลงน้อยกว่า 50% ก็คาดว่าจะมีการเติบโตอย่างมั่นคงและยาวนานในบ็อกซ์ออฟฟิศได้
ทั้งนี้ ภาพยนตร์ฟอร์มยักษ์เรื่องต่อไปอย่าง “Ant-Man and the Wasp: Quantumania” ของดิสนีย์และมาร์เวลจะไม่เข้าฉายในโรงภาพยนตร์จนถึงวันที่ 17 กุมภาพันธ์ เพื่อหลีกทางให้ The Way of Water ต่อไปโดยไม่มีการแข่งขันที่รุนแรง ซึ่ง Shawn Robbins หัวหน้านักวิเคราะห์ของ BoxOffice.com กล่าวว่า เดือนมกราคมไม่มีการแข่งขันโดยตรงกับ Avatar : The Way of Water ก็อาจจะทำให้ภาพยนตร์เรื่องนี้ประสบความสำเร็จได้ตามที่คาดหวัง
สำหรับ Avatar : The Way of Water ชื่อภาษาไทยคือ อวตาร: วิถีแห่งสายน้ำ ภาพยนต์ที่จะพาผู้ชมไปสัมผัสโลกแห่งดวงจันทร์ Pandora (แพนดอร่า) ของดาว Polyphemus (โพลีฟีมัส) ในระบบดาวที่ใกล้ระบบสุริยะของเราที่สุดอย่าง Alpha Centauri System (อัลฟ่าเซนทอรี่) ผ่านตัวแสดง ชนเผ่า Metkayina (เม็ตคายิน่า) ผิวสีเขียวฟ้าที่ต้องผจญภัยมากมายเพื่อปกป้องโลกของพวกเรา
ชมภาพยนต์ตัวอย่าง Avatar : The Way of Water
