ทรัมป์ถอย! เตรียมผ่อนปรนภาษีชิ้นส่วนรถยนต์ หลังผู้ผลิตในประเทศโวยหนัก
รัฐบาลประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ เตรียมประกาศมาตรการผ่อนคลายผลกระทบจากการเก็บภาษีในอุตสาหกรรมยานยนต์ในวันอังคารที่ 29 เมษายน ตามเวลาสหรัฐฯ โดยจะลดภาษีบางรายการที่เรียกเก็บกับชิ้นส่วนต่างประเทศที่ใช้ในรถยนต์ผลิตในประเทศ และหลีกเลี่ยงการซ้อนภาษีหลายประเภทในรถยนต์นำเข้า
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
เจ้าหน้าที่ทำเนียบขาวเปิดเผยว่า การดำเนินการครั้งนี้มีเป้าหมายเพื่อลดผลกระทบจากแผนเก็บภาษีชิ้นส่วนรถยนต์ในอัตรา 25% ซึ่งก่อนหน้านี้ ทรัมป์ได้ประกาศว่าจะมีผลบังคับใช้ภายในวันที่ 3 พฤษภาคม ส่งผลให้ผู้ผลิตรายใหญ่ เช่น General Motors, Toyota Motor, Volkswagen, Hyundai และบริษัทอื่น ๆ รวมตัวกันส่งจดหมายถึงผู้แทนการค้าสหรัฐฯ และรัฐมนตรีเศรษฐกิจ เตือนว่าการขึ้นภาษีจะสร้างความปั่นป่วนในห่วงโซ่อุปทาน ก่อให้เกิดผลกระทบโดมิโน ตั้งแต่ราคาจำหน่ายที่พุ่งสูง ยอดขายในโชว์รูมลดลง ต้นทุนการซ่อมบำรุงแพงขึ้น และภาคการผลิตเสี่ยงต่อการหยุดชะงัก
จดหมายที่ผู้ผลิตส่งถึงรัฐบาลได้เน้นย้ำว่า ซัพพลายเออร์ชิ้นส่วนจำนวนมากไม่มีเงินทุนเพียงพอที่จะรองรับแรงกระแทกจากการขึ้นภาษีฉับพลัน หลายรายอยู่ในภาวะเปราะบาง มีความเสี่ยงต้องหยุดสายการผลิต ปลดพนักงาน หรือแม้แต่ล้มละลาย ซึ่งความล้มเหลวของซัพพลายเออร์เพียงรายเดียว ก็อาจส่งผลให้สายการผลิตของโรงงานประกอบรถยนต์ต้องหยุดชะงักลงทั้งระบบ
ฮาวเวิร์ด ลัตนิค รัฐมนตรีพาณิชย์ กล่าวในแถลงการณ์ที่ทำเนียบขาวเผยแพร่ว่า "ประธานาธิบดีทรัมป์กำลังสร้างความร่วมมือที่สำคัญกับผู้ผลิตรถยนต์ในประเทศและแรงงานอเมริกันที่ยอดเยี่ยมของเรา" พร้อมย้ำว่าข้อตกลงนี้เป็น "ชัยชนะครั้งสำคัญ" ของนโยบายการค้า ด้วยการให้รางวัลแก่บริษัทที่เลือกผลิตภายในสหรัฐฯ และเปิดโอกาสแก่บริษัทที่มีแผนลงทุนขยายฐานการผลิตในประเทศ
รายงานของ The Wall Street Journal ซึ่งเป็นสำนักข่าวแรกที่รายงานประเด็นนี้ ระบุว่า มาตรการดังกล่าวจะช่วยให้บริษัทผู้ผลิตรถยนต์ที่เสียภาษีนำเข้าจะไม่ถูกเก็บภาษีซ้ำจากเหล็กและอลูมิเนียม และจะได้รับเงินคืนสำหรับภาษีที่ได้จ่ายไปแล้ว
ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ทำเนียบขาวยืนยันว่ามาตรการจะมีการประกาศอย่างเป็นทางการในวันอังคารที่ 29 เมษายน ซึ่งตรงกับกำหนดการเยือนรัฐมิชิแกนของประธานาธิบดี เพื่อเฉลิมฉลองครบรอบ 100 วันแรกในตำแหน่ง และเน้นย้ำการขับเคลื่อนนโยบายเศรษฐกิจเชิงรุก
การผ่อนคลายภาษีในครั้งนี้ สะท้อนถึงความยืดหยุ่นทางนโยบาย หลังจากมาตรการภาษีที่ประธานาธิบดีทรัมป์ประกาศออกมาก่อนหน้านี้ได้ก่อให้เกิดความปั่นป่วนในตลาดการเงิน เพิ่มความไม่แน่นอนในภาคธุรกิจ และกระพือความวิตกเกี่ยวกับความเสี่ยงของภาวะเศรษฐกิจถดถอยอย่างเฉียบพลัน
จากการรายงานของ Reuters แมรี บาร์รา ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของเจนเนอรัล มอเตอร์ส (GM.N) และจิม ฟาร์ลีย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของฟอร์ด (F.N) ต่างออกมาแสดงความเห็นในเชิงบวกต่อแนวนโยบายใหม่
“เรามองว่าผู้นำของประเทศของเรากำลังมีบทบาทสำคัญในการสร้างความเสมอภาคในการแข่งขันให้กับบริษัทอย่าง GM และเปิดทางให้เราขยายการลงทุนในเศรษฐกิจสหรัฐฯ ได้มากยิ่งขึ้น” บาร์รากล่าว
กลุ่มผู้ผลิตรถยนต์เปิดเผยเมื่อวันจันทร์ว่าพวกเขาคาดหวังให้รัฐบาลประกาศมาตรการบรรเทาภาษีก่อนการเยือนรัฐมิชิแกน ซึ่งเป็นศูนย์กลางอุตสาหกรรมยานยนต์ของสหรัฐฯ โดยมีโรงงานผลิตรถยนต์รายใหญ่ในดีทรอยต์ และซัพพลายเออร์มากกว่า 1,000 รายที่มีความเสี่ยงหากมาตรการภาษีใหม่มีผลบังคับ
นอกจากนี้ DHL Express ยังประกาศกลับมาให้บริการจัดส่งสินค้ามูลค่ามากกว่า 800 ดอลลาร์สหรัฐฯ ต่อบุคคลในสหรัฐฯ หลังภาคธุรกิจได้รับผลกระทบอย่างหนักจากข้อจำกัดด้านภาษีในช่วงก่อนหน้า
