บริษัท แอสเสท เวิร์ด คอร์ป จำกัด (มหาชน) หรือ AWC เผยกำไรไตรมาส 3/ 2567 ที่ 983 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 42% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยกลุ่มโรงแรม เติบโตอย่างแข็งแกร่งแม้อยู่นอกฤดูกาลท่องเที่ยว ดัน ‘EA’ Rooftop at Empire เป็นแลนด์มาร์แห่งใหม่ของไทย ต้อนรับนักท่องเที่ยวจากทั่วโลก
นางวัลลภา ไตรโสรัส ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท แอสเสท เวิรด์ คอร์ป จำกัด (มหาชน) หรือ AWC เผย รายได้รวมและกำไรสุทธิ 9 เดือน
· กวาดรายได้รวม 15,122 ล้านบาท
· กำไรสุทธิ 3,991 ล้านบาท
· มูลค่าทรัพย์สินดำเนินงานเติบโตเพิ่มขึ้น 79% (เมื่อเทียบกับก่อนโควิด-19) อยู่ที่ 148,934 ล้านบาท
· RevPAR ในช่วง 9 เดือน เติบโตแข็งแกร่งเหนือตลาด อยู่ที่ 4,072 บาท / ห้อง
· ส่วนไตรมาส 3 กำไรจากการดำเนินงานกลุ่มธุรกิจโรงแรม อยู่ที่ 983 ล้านบาท
โดยมีโรงแรมที่มีค่า RGI โดดเด่น เช่น โรงแรม คอร์ทยาร์ด แมริออท ภูเก็ต ทาวน์ มีค่า RGI เท่ากับ 195 โรงแรม แบงค็อก แมริออท เดอะ สุรวงศ์ มีค่า RGI เท่ากับ 174 และโรงแรมเลอ เมอริเดียน กรุงเทพ ที่มีค่า RGI เท่ากับ 149
นอกจากนี้ รายได้อาหารและเครื่องดื่มของธุรกิจโรงแรมและการบริการเติบโตเพิ่มขึ้น 13 % เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า ผลจากกลยุทธ์การบูรณาการจุดแข็งทางธุรกิจของกลุ่มธุรกิจโรงแรมและกลุ่มธุรกิจคอมเมอร์เชียลเข้าด้วยกันเพื่อเสริมสร้างมูลค่าร่วม (Synergy Value) และกลุ่มธุรกิจคอมเมอเชียลยังคงรักษาการเติบโตได้ดีจากการปรับกลยุทธ์การตลาดของศูนย์การค้าและอาคารสำนักงานสู่การเป็น AWC’s Lifestyle Destination ให้รองรับเทรนด์และตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้า
AWC ได้สร้างปรากฏการณ์ระดับโลกเปิดโครงการ ‘EA’ Rooftop at The Empire แลนด์มาร์กใหม่สู่การเป็น Lifestyle Destination หมุดหมายสุดพิเศษของกรุงเทพฯ รองรับนักท่องเที่ยวทั่วโลก โดยหลังเปิดอย่างเป็นทางการตั้งแต่เดือนกันยายน สามารถสร้างรายได้ให้กับธุรกิจ F&B เป็นอันดับหนึ่งของบริษัทฯ ผ่านการรวบรวม Top Cuisine ชั้นนำมาสู่ไลฟ์สไตล์รูฟทอปที่ใหญ่และสูงที่สุดใจกลางกรุงเทพฯ ณ “เอ็มไพร์” ไม่ว่าจะเป็น
Le Du Kaan ห้องอาหารไทยบนรูฟทอปแห่งแรกของโลกโดยเชฟต้น ธิติฏฐ์ ห้องอาหารจีนร่วมสมัย “K by
K by Vicky Cheng ห้องอาหารจีนร่วมสมัย โดยเชฟวิคกี้ เชง
Sartoria by Paulo Airaudo ห้องอาหารอิตาเลียนคลาสสิกร่วมสมัย โดยเชฟเปาโล อายราวโด
ร้าน % Arabica สาขาที่สูงที่สุดในโลก
ร้าน 手qraft (คราฟท์) บริการอาหารเช้าสไตล์ตะวันออกร่วมสมัย
ร้าน Onggi กับประสบการณ์การทานอาหารแบบเซทต้นตำรับของเกาหลี
Invitation Only บาร์ลับบนรูฟทอปกับดนตรีสากลย้อนยุค
AWC ยังคงมุ่งมั่นในการลดผลกระทบทางสิ่งแวดล้อมภายใต้กรอบการดำเนินงาน Better Planet ผ่านกลยุทธ์ Climate Strategy ที่ครอบคลุม ที่มุ่งเน้นการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกและเพิ่มประสิทธิภาพการใช้พลังงานอย่างยั่งยืน
โดยใน 9 เดือนที่ผ่านมา AWC ได้ดำเนินการติดตั้งเครื่องทำน้ำเย็นประสิทธิภาพสูง การปรับปรุงประสิทธิภาพระบบทำความเย็น พร้อมติดตั้งระบบพลังงานสะอาด เช่น การติดตั้งแผงโซลาร์เซลล์ในโครงการต่าง ๆ เช่น โรงแรม เชียงใหม่ แมริออท โฮเทล โรงแรม คอร์ทยาร์ด แมริออท ภูเก็ต ทาวน์ โรงแรม อินเตอร์คอนติเนนตัล เชียงใหม่ แม่ปิง โฮเทล โรงแรม แบงค็อก แมริออท มาร์คีส์ ควีนส์ปาร์ค และโรงแรม หัวหิน แมริออท รีสอร์ท และ สปา เพื่อลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์และลดต้นทุนด้านพลังงาน
รวมถึง สร้างการเติบโตที่มั่นคงพร้อมกับการส่งเสริมคุณค่าที่ยั่งยืนให้กับสังคมและชุมชน โดยในช่วงปลายปีนี้และปีหน้า บริษัทเตรียมเปิดโครงการคุณภาพแห่งใหม่ในกรุงเทพฯ และพัทยา ที่จะเป็นส่วนสำคัญในการขับเคลื่อนธุรกิจและเสริมความแข็งแกร่งให้กับพอร์ตโฟลิโอ
Okura Cruise เรือเทปันยากิและไคเซกิสุดหรูระดับไฟน์ไดนิ่งลำแรกของโลกโดยโอกุระ ที่จะเปิดให้บริการ ณ ท่าเรือของโครงการเอเชียทีค เดอะ ริเวอร์ฟร้อนท์ เดสติเนชั่น
Melia Pattaya Aquatique Destination โรงแรมแห่งใหม่และแห่งแรกในเครือ AWC ในพัทยา ที่พร้อมจะเปิดให้บริการในเดือนธันวาคมนี้ ผ่านความร่วมมือกับพันธมิตรระดับโลกในการนำประสบการณ์สุดพิเศษระดับเวิร์ดคลาสมาสู่ประเทศไทย ซึ่งจะมีการประกาศเปิดตัวรายละเอียดของความร่วมมืออย่างเป็นทางการในเร็วๆ นี้
นอกจากนี้ AWC ยังได้เริ่มโครงการ “AWC ร่วมรวมพลังส่งความหวังและกำลังใจ” โดยร่วมมือกับพันธมิตรในการจัดตั้ง “ศูนย์ร่วมรวมพลังช่วยเหลือชุมชน” ที่อินเตอร์คอนติเนนตัล เชียงใหม่ แม่ปิง โฮเทล เพื่อร่วมแรงร่วมใจกันแก้ปัญหาน้ำท่วม
รวมถึง การให้การสนับสนุน ฟื้นฟู และดูแลพนักงานและประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์น้ำท่วมจังหวัดเชียงใหม่ในช่วงที่ผ่านมา และยังได้มอบเฟอร์นิเจอร์และของใช้จำเป็นจาก reConcept ร้านจำหน่ายเฟอร์นิเจอร์คุณภาพดีจากโรมแรมในเครือ AWC รวมทั้งถุงกำลังใจและของใช้จำเป็นจากเหล่าพันธมิตร นำไปส่งมอบให้แก่ชุมชนรอบโครงการของ AWC ในจังหวัดเชียงใหม่ที่ได้รับผลกระทบจากเหตุอุทกภัยดังกล่าว ซึ่งเป็นความมุ่งมั่นในการสร้างคุณค่าร่วมกับชุมชนและสังคมตามพันธกิจ “สร้างสรรค์อนาคตที่ดีกว่า”
โดยกลุ่มโรงแรมในเครือ AWC ในจังหวัดเชียงใหม่สามารถกลับมาดำเนินงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ ด้วยยอดเข้าพัก (OCC Rate) หลังสถานการณ์อย่างแข็งแกร่งกว่า 75-85% ในทุกโรงแรมของ AWC และสูงกว่าช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน AWC เชื่อมั่นว่าการรวมพลังภาครัฐ ภาคเอกชน และชุมชนจะร่วมสร้างเชียงใหม่ให้กลับมาแข็งแกร่ง และสร้างความมั่นใจให้กับนักเดินทางในช่วงฤดูกาลท่องเที่ยวที่กำลังจะมาถึงในปลายปีนี้ พร้อมเดินหน้าเติบโตไปด้วยกันอย่างยั่งยืน