ความสวยยุคใหม่…รอไม่ได้อีกต่อไป เทรนด์การดูแลผิวและความงามของผู้บริโภคยุคใหม่ ในตลาดเวชศาสตร์ความงามไทยมีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง ทั้งผู้บริโภคชาวไทยและนักท่องเที่ยวเชิงการแพทย์ต่างชาติ ด้วยค่าบริการที่เข้าถึงได้ง่าย เมื่อเทียบกับประเทศอื่นๆ ทั่วโลก ทำให้เมืองไทยเป็นศูนย์กลางด้านหัตถการและศัลยกรรมความงามเป็นอันดับต้นๆ ของเอเซียแปซิฟิก
บทความนี้ SPOTLIGHT จะพามาเจาะลึกอุตสาหกรรมศัลยกรรมความงาม และกรณีศึกษาของธุรกิจด้านศัลยกรรมความงามของไทย อย่าง บริษัท มาสเตอร์ สไตล์ จำกัด (มหาชน) หรือ “MASTER” ว่า มีมุมมองและทิศทางในการดำเนินธุรกิจอย่างไร?
ธุรกิจศัลยกรรมความงามยังไปต่อ? เจาะลึกกรณีศึกษา MASTER
โดยตลาดเวชศาสตร์ความงามในไทยปี 2564 มูลค่าตลาดอยู่ที่ราว 50,000 ล้านบาท ซึ่งอัตราเติบโตตั้งแต่ปี 2565-2573 เฉลี่ยโตปีละ 10% ซึ่งธุรกิจบริการเวชศาสตร์ความงามมีแนวโน้มเติบโตอย่างต่อเนื่องทั่วโลก รวมถึงไทยที่เป็น 1 ใน 4 ฮับเวชศาสตร์ความงามที่สำคัญของเอเซียรองจากเกาหลีใต้ ญี่ปุ่น และจีน
ด้วยทิศทางที่สดใสของธุรกิจนี้ กรณีศึกษาอย่าง MASTER เอง จึงปักธงการขยายตัวทางธุรกิจ ก้าวสู่การเป็นศูนย์กลางศัลยกรรมความงามแห่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
[MASTER บุกตลาดอินโดนีเซีย]
โดยประกาศร่วมมือ “Lumeo Health” พาร์ทเนอร์อินโดนีเซีย ตอกย้ำการขยายตลาดภูมิภาค – เสริมศักยภาพการเติบโตอย่างแข็งแกร่ง พร้อมมุ่งเน้นนำเทคโนโลยีที่ทันสมัย - ขยายเครือข่ายพันธมิตรทางธุรกิจต่อเนื่อง เพิ่มการแข่งขันในระดับภูมิภาค ผลักดันอุตสาหกรรมศัลยกรรมความงาม และการท่องเที่ยวเชิงการแพทย์
นายแพทย์ระวีวัฒน์ มาศฉมาดล ประธานกรรมการบริหาร MASTER ผู้ประกอบกิจการโรงพยาบาลมาสเตอร์พีช Specialty Hospital ผู้นำอุตสาหกรรมด้านความงามของประเทศไทยและเอเชีย กล่าวว่า MASTER GROUP มุ่งมั่นที่จะขยายการเติบโตอย่างแข็งแกร่งในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยเป็นตลาดที่มีศักยภาพสูงในด้านศัลยกรรมความงามและการแพทย์เฉพาะทาง รวมถึงมีการเพิ่มขึ้นของกำลังซื้อ และความนิยมในหัตถการความงามในกลุ่มคนรุ่นใหม่ ส่งผลให้ความต้องการบริการขยายตัวอย่างรวดเร็วในภูมิภาคนี้
นอกจากนี้ ยังมีการเข้าถึงตลาดใหม่ๆ เช่น อินโดนีเซีย ลาว และกัมพูชา ถือเป็นก้าวสำคัญในการเสริมสร้างความเป็นผู้นำระดับภูมิภาค ตอกย้ำความมุ่งมั่นในการมอบบริการที่มีคุณภาพระดับสากล
โดย MASTER ตั้งเป้าหมายเป็นศูนย์กลางศัลยกรรมความงามแห่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
" มองว่าตลาดภูมิภาคมีการเติบโตสูง และมีศักยภาพทางเศรษฐกิจที่แข็งแกร่ง จากความต้องการที่เพิ่มขึ้นของทั้งนักท่องเที่ยวเชิงการแพทย์และคนในท้องถิ่นที่หันมาสนใจศัลยกรรมและความงามมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในประเทศอย่างอินโดนีเซีย ลาว กัมพูชา และไทย ซึ่งประชากรที่มีกำลังซื้อสูง มีความสนใจการทำศัลยกรรมความงามเพิ่มขึ้นอย่างมาก” นายแพทย์ระวีวัฒน์ กล่าว
โดย MASTER ได้เห็นถึงความสำเร็จจากการขยายฐานลูกค้าและการเติบโตที่โดดเด่นของกลุ่มลูกค้าต่างประเทศ ผ่านการทำงานร่วมกับเครือข่าย Influencer และช่องทางการตลาดออนไลน์ที่ช่วยสร้างความรู้จัก และเพิ่มความไว้วางใจให้กับ MASTER ในฐานะศูนย์กลางศัลยกรรมความงามระดับภูมิภาค
“โดยเรามุ่งเน้นการนำเทคนิคทางการแพทย์ และเทคโนโลยีที่ทันสมัยมาใช้ในการให้บริการ และขยายเครือข่ายพันธมิตรทางธุรกิจอย่างต่อเนื่อง เพื่อสร้างการเติบโตและเพิ่มศักยภาพในการแข่งขันในระดับภูมิภาค"
นางสาวลภัสรดา เลิศภานุโรจ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท มาสเตอร์ สไตล์ จำกัด (มหาชน) หรือ MASTER กล่าวว่า ต่อจากนี้จะเริ่มเห็น MASTER ก้าวเข้าสู่การเป็น "Regional Company" โดยจะมีความร่วมมือกับ MASTER PARTNER ในระดับภูมิภาคอย่างต่อเนื่อง เพื่อยกระดับความแข็งแกร่งของบริษัทไปยังตลาดเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
โดย MASTER ร่วมพิธีลงนามความร่วมมือ หรือ MOU กับ Lumeo Health ซึ่งบริษัทจัดตั้งอยู่ในประเทศอินโดนีเซีย โดยมีสำนักงานในจาการ์ตา ซึ่งLumeo Health โดดเด่นในฐานะที่ปรึกษาศัลยกรรมความงามและการท่องเที่ยวเชิงการแพทย์ ที่ครบวงจรในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
สำหรับการเติบโตภายในประเทศของบริษัทฯ ถือว่าแข็งแกร่ง โดย MASTER GROUP มีจุดให้บริการมากกว่า 90 แห่งทั่วประเทศไทย ซึ่งครอบคลุมพื้นที่สำคัญๆ ในทุกภูมิภาค โดยให้บริการที่ครอบคลุมความต้องการในทุกกลุ่มลูกค้า ทั้งด้านศัลยกรรมความงามและการแพทย์เฉพาะทาง ถือเป็นจุดแข็งของเราในการตอบสนองต่อความต้องการที่หลากหลาย และสร้างความพึงพอใจให้กับลูกค้าทั้งในประเทศและต่างประเทศ
Dr. Queencha Chaidy, Chief Executive Officer Lumeo Health กล่าวว่า รู้สึกเป็นเกียรติที่ได้มาร่วมงานกับโรงพยาบาลมาสเตอร์พีช Specialty Hospital ผู้นำอุตสาหกรรมด้านความงามของประเทศไทยและภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยคาดว่าการลงนาม MOU ครั้งนี้จะเป็นการผนึกกำลังอีกขั้นของการพัฒนาด้านศัลยกรรมความงาม ให้เติบโตในระดับภูมิภาค
[ผลประกอบการในไตรมาส 3/2567]
[ผลประกอบ 9 เดือนแรกของปี 2567]
สำหรับธุรกิจบริการหัตถการและศัลยกรรมเสริมความงามนั้น มีประเด็นที่น่าสนใจ
สำหรับกลุ่มธุรกิจนี้ คือ
โดยสรุป : ธุรกิจหัตถการและศัลยกรรมความงามในไทย ถือว่ายังโอกาสสดใส แต่ก็ยังมีความเสี่ยงด้านภาวะการแข่งขันที่รุนแรงในอุตสาหกรรมนี้ การเปลี่ยนแปลงของเทรนด์ศัลยกรรมความงาม คงต้องจับตาธุรกิจนี้ต่อไปว่า ยังสามารถไปต่อได้หรือไม่?