ไทย ยืนหนึ่งประเทศในฝันแห่งการท่องเที่ยว เจาะ 5 อินไซต์ นทท.ยุคดิจิทัล
หากพูดถึงประเทศที่มีความสวยงาม หลากหลายทางด้านภูมิทัศน์ ไม่ว่าจะเป็น ภูเขา ทะเล หรือน้ำตก ค่าครองชีพที่เป็นมิตร และอาหารอร่อยที่ขึ้นชื่อ เชื่อว่า ‘ประเทศไทย’ คงจะต้องเป็นตัวเลือกแรกๆของนักท่องเที่ยวต่างชาติหลายๆคนที่ปักหมุดไว้ในดวงใจแน่นอน
คอนเทนต์แนะนำ
ภาคการท่องเที่ยวของไทย เปรียบเสมือนพระเอกที่คอยขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยมาโดยตลอด ซึ่งเมื่อปี 2567 ที่ผ่านมาเราได้ต้อนรับนักท่องเที่ยวต่างชาติมากกว่า 35.5 ล้านคน สร้างรายได้มากกว่า 1.5 ล้านล้านบาทเลยทีเดียว
แต่อย่างไรก็ตาม พฤติกรรมของนักท่องเที่ยวเปลื่ยนแปลงไปอย่างสิ้นเชิงตั้งแต่หลังโควิด-19 และแน่นอนว่าธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องกับการท่องเที่ยวและภาคบริการจำเป็นที่จะต้องศึกษาพฤติกรรมนักท่องเที่ยวอย่างละเอียดเพื่อตามให้ทันเทรนด์ที่กำลังเกิดขึ้นในอนาคต ปรับธุรกิจให้สอดคล้องกับความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้น
บทความนี้ SPOTLIGHT จึงชวนทุกคนมาเจาะ 5 อินไซต์สำคัญของนักท่องเที่ยวอาเซียนในยุคดิจิทัลที่สะท้อนพฤติกรรมและแนวโน้มการเดินทางที่น่าสนใจ
ประเทศไทย ยังครองแชมป์ประเทศในฝันของนักท่องเที่ยว
จากรายงาน Travel Insight 2024 ของ แกร็บ ผู้นำซูเปอร์แอปในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ที่ได้สำรวจความคิดเห็นของผู้ใช้บริการใน 6 ประเทศ ได้แก่ อินโดนีเซีย มาเลเซีย ฟิลิปปินส์ สิงคโปร์ เวียดนามและไทย โดยมีผู้ตอบแบบสอบถามจำนวน 11,074 คน พบว่า ประเทศไทยยังคงครอง 1 จุดหมายปลายทางยอดนิยมของนักท่องเที่ยวอาเซียน เนื่องจากความสวยงามของแหล่งท่องเที่ยวธรรมชาติ และมนต์เสน่ห์ด้านวัฒนธรรมซึ่งถือเป็นซอฟต์พาวเวอร์ที่รัฐบาลพยายามส่งเสริมและผลักดัน รวมไปถึงการจัดงานอีเวนท์ต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น เทศกาลอาหาร เทศกาลดนตรีและคอนเสิร์ต และประเพณีสำคัญอย่างเทศกาลสงกรานต์และลอยกระทง
นางสาวจันต์สุดา ธนานิตยะอุดม รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายงานพาณิชย์และการตลาด
แกร็บ ประเทศไทย ได้กล่าวว่า “นักท่องเที่ยวในภูมิภาคอาเซียนถือเป็นหนึ่งในตลาดหลักที่เดินทางเข้ามาในประเทศไทยแต่ละปีเป็นจำนวนมาก โดยในปี 2024 ที่ผ่านมา ประเทศไทยต้อนรับนักท่องเที่ยวจากประเทศเหล่านี้สูงถึง 10.6 ล้านคน คิดเป็นสัดส่วนถึง 30% ของนักท่องเที่ยวทั้งหมด”
นอกจากนี้ ในรายงานยังคงเผย ว่า ผู้ตอบแบบสอบถามวางแผนที่จะเดินทางไปเที่ยวต่างประเทศกว่า 81% (เพิ่มขึ้นจากปีก่อนหน้าอยู่ที่ 72%) โดยกว่าครึ่ง หรือ ราว 52% ต้องการเดินทางภายในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ตามมาด้วยต้องการท่องเที่ยวประเทศในภูมิภาคเอเชียตะวันออก อย่าง จีน ญี่ปุ่น และเกาหลีใต้กว่า 44%
เปิด 5 อินไซต์นักท่องเที่ยวยุคดิจิทัล
1.ใช้เทคโนโลยีเพิ่มความสะดวกสบาย
86% ของนักท่องเที่ยวระบุว่าใช้เทคโนโลยี ไม่ว่าจะเป็น Augmented Reality (AR) Virtual Reality (VR) หรือปัญญาประดิษฐ์ (AI) ในกิจกรรมต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับการเดินทางท่องเที่ยว ตั้งแต่การหาข้อมูล การพรีวิวที่พักหรือแหล่งท่องเที่ยว การเปรียบเทียบราคา ไปจนถึงการวางแผนตารางการเดินทางอย่างละเอียด
2.ชอบวางแผนการเดินทางด้วยตัวเอง
- นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่กว่า 81% เลือกวางแผนการเดินทางด้วยตัวเอง โดยเกือบสองในสามของนักท่องเที่ยวกลุ่มนี้จะจองตั๋วออนไลน์ทุกอย่างด้วยตัวเอง ไม่ว่าจะเป็น เครื่องบิน ที่พัก รวมถึงแหล่งท่องเที่ยว
- ขณะที่ 18% ยอมซื้อแพคเกจทัวร์เพื่อประหยัดเวลาในการวางแผน
3.มีการบริหารงบประมาณอย่างรอบคอบ
- 82% ของนักท่องเที่ยวมีการวางแผนงบประมาณและกำหนดค่าใช้จ่ายต่อทริปล่วงหน้า แม้ว่ากว่าครึ่งของนักท่องเที่ยวกลุ่มนี้มักใช้จ่ายเกินกว่างบที่ตั้งไว้
- นักท่องเที่ยวกว่า 56% เพิ่มงบประมาณในการใช้จ่ายต่อทริปสูงขึ้นกว่าปีก่อนหน้า
- ขณะที่ 53% มีความกังวลเกี่ยวกับอัตราเงินเฟ้อ
4.ให้ความสำคัญกับความปลอดภัย
- 68% ของนักท่องเที่ยวเลือกซื้อประกันที่เกี่ยวข้องกับการเดินทาง ไม่ว่าจะเป็น ประกันการเดินทางที่ครอบคลุมด้านความเสียหายหรือสูญหายของกระเป๋าเดินทาง ประกันการล่าช้าหรือการยกเลิกของเที่ยวบิน รวมถึงประกันสุขภาพ
5.ใส่ใจสิ่งแวดล้อม
- นักท่องเที่ยวในปัจจุบันให้ความสำคัญกับประเด็นด้านสิ่งแวดล้อมมากขึ้น โดย 45% เลือกสนับสนุนการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน เช่น การใช้ยานยนต์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม การลดปริมาณการใช้พลาสติก รวมถึงการสนับสนุนผู้ประกอบการหรือชุมชนในท้องถิ่น
- ขณะที่ 78% ระบุว่ายินดีจ่ายเงินเพิ่มขึ้นเพื่อสนับสนุนธุรกิจที่มีแนวคิดดังกล่าว
อย่างไรก็ตาม สำหรับเป้าหมายนักท่องเที่ยวต่างชาติในปี 68 นี้ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ได้วางเป้าอยู่ที่ 39- 40 ล้านคน หรือกลับมาเท่าระดับเดิมก่อนช่วงโควิด-19 ส่วนไทยเที่ยวไทย วางเป้าหมายไว้ที่ 200 ล้านคน/ครั้ง คาดสร้างรายได้โตจากปี 67 ประมาณ 7.5%
