คนทำธุรกิจคงไม่มีใครอยากให้ธุรกิจหยุด สะดุด และล้มลง แต่หากความผิดพลาดเกิดขึ้นแล้ว เราก็เลือกได้ว่า จะปล่อยให้เป็นบาดแผลอันใหญ่ หรือจะเปลี่ยนให้เป็นบทเรียนครั้งสำคัญในชีวิต
‘เฮียซ้ง’ ทรงพล ชัญมาตรกิจ ผู้ก่อตั้ง TV Direct ผู้พาธุรกิจฝ่าสารพัดกระแส Disruption มาหลากหลายยุค ทั้งการขายทางโทรศัพท์ โทรทัศน์ ออนไลน์ E-Commerce ฯลฯ ผ่านสารพัดมรสุมเศรษฐกิจ จนมีบทเรียนมากพอที่จะมาแบ่งปันกับเจ้าของธุรกิจ SME
เฮียซ้งได้ฝาก 10 ข้อคิดยามธุรกิจล้ม ไว้ให้กับเจ้าของธุรกิจที่ได้เข้าร่วมงาน Digital SME Conference Thailand 2023 ว่า ความผิดพลาดจากธุรกิจนั้น จะช่วยให้…
การทำธุรกิจทุกคนจะต้องทำผิดพลาด ไม่ว่าจะเกิดจากตัวเอง หรือเหตุปัจจัยภายนอก ทุกคนล้วนผิดพลาดกันได้ และอาจพลาดซ้ำได้ แต่คงไม่มีใครพลาดในจุดเดิมเป็นครั้งที่ 3 การล้มในแต่ละครั้ง จะช่วยสอนให้เราเรียนรู้วิธีการใหม่ในการลุกได้มากขึ้น
หลังจากการล้ม เมื่อเราตั้งสติได้แล้ว เราพึงที่จะประเมิณตัวเองใหม่ได้ ว่าเราควรจะโฟกัสอะไร ความผิดพลาดที่เกิดขึ้นามีสาเหตุมาจากอะไร แล้วจึงเข้าสู่กระบวนการ ‘Re-invention’ หรือการปรับปรุงตัวเองให้เสมือนเป็นคนใหม่ หรือปรับปรุงธุรกิจให้เสมือนเป็นธุรกิจใหม่ ที่มีองค์ความรู้ของเดิม แต่เพิ่มเติม คือ เก่งขึ้น และจะไม่ล้มท่าเดิม
Data (ข้อมูลดิบ) เมื่อถูกจัดเรียงเรียบร้อย พร้อมสำหรับใช้ในการตัดสินใจ เราเรียกว่า Information (ข้อมูลสารสนเทศ) เมื่อข้อมูลที่ช่วยให้ตัดสินใจถูกต้อง ช่วยให้เกิดการทำซ้ำได้ เรียกว่า Knowledge (ความรู้) และเมื่อความรู้ถูกนำมาประยุกต์ใช้ได้อย่างเต็มรูปแบบ เราเรียกว่า Wisdom (ภูมิปัญญา) เหมือนการที่คนไทยรู้จักใช้ ‘อาหารเป็นยา’ มาหลายร้อยปี ก่อนวิทยาศาสตร์สมัยใหม่จะมาช่วยอธิบายว่าสารสกัดในพืชสมุนไพรช่วยรักษาโรคได้จริง บทเรียนจากความผิดพลาดจะกลายเป็นองค์ความรู้ให้เราตัดสินใจได้อย่างเฉียบคมขึ้นในอนาคต
หลังจากผ่านความผิดพลาดมาแล้ว เราจะเข้าใจจุดอ่อนของตัวเอง ที่หากไม่จัดการให้ดีอาจนำไปสู่การสะดุดหรือหยุดลงของธุรกิจ ขณะเดียวกันก็ช่วยให้เราเข้าใจจุดแข็งของตัวเอง ที่จะสามารถพาเราฝ่าฟันอุปสรรค และพาธุรกิจเดินหน้าได้อย่างมั่นคง
เมื่อเราพลาดด้วยจำนวนครั้งที่มากพอ เราจะเกิดทักษะ ‘การสร้างตัวเลือก’ ให้กับตัวเอง
“10 พลาด = 1 สำเร็จ”
ด้วยประสบการณ์ที่มากขึ้น เมื่อเจอปัญหา เราจะสร้างตัวเลือกได้มากขึ้น และตัดตัวเลือกแย่ๆ ที่นำไปสู่ความล้มเหลว เพิ่มโอกาสความสำเร็จเพิ่มขึ้นไปอีก
ความผิดพลาดจะสอนเราเห็นว่า ความสมบูรณ์แบบไม่มีอยู่จริง และจะทำให้เรามองเห็นความธรรมดา บนพื้นฐานของความเป็นจริง เห็นข้อบกพร่อง เห็นข้อผิดพลาด ไม่เข้าข้างตัวเอง และเมื่อมองเห็นสิ่งที่ธรรมดาได้แล้ว เราก็จะสามารถแยกของที่ “พิเศษจริงๆ” ออกมาได้ ซึ่งอาจจะไม่ใช่ของที่ไม่ความบกพร่อง แต่เป็นของที่มีโอกาสนำไปสู่ความสำเร็จได้มากกว่า
เมื่อถูกห้อมล้อมด้วยความสำเร็จ ก็ยากที่เราจะรู้จักการอ่อนน้อมถ่อมตน ช่วงที่เราล้มเหลว จึงเป็นจังหวะเหมาะที่เราจะเรียนรู้ความอ่อนน้อมถ่อมตน เข้าใจหัวอกคนอื่น เพราะการถ่อมตน คือ สิ่งที่จะทำให้ผู้คนยอมรับ มิใช่ความหยิ่งทะนง จองหอง ดังสุภาษิตที่ว่า “ผู้ใดโน้มตัวให้ต่ำลง ผู้นั้นจะถูกยกให้สูงขึ้น”
ความล้มเหลวไม่เพียงฉุดธุรกิจเราให้ร่วงหล่นเท่านั้น ยังฉุดความมั่นใจของเราให้ต่ำลงไปด้วย แต่สภาวะนี้จะไม่คงอยู่ตลอดไป เมื่อกาลเวลาดำเนินไป คนเราจะสูญเสียความมั่นใจในเบื้องต้น ค่อยๆ เพิ่มขึ้นในท่ามกลาง และมากขึ้นในที่สุด เมื่อเราได้เรียนรู้ เข้าใจ และวิเคราะห์ความผิดพลาดที่เคยเผชิญมาจนแตกฉาน เมื่อเผชิญหน้ากันอีกครั้ง เราจะมีความมั่นใจเพิ่มขึ้น โดยตั้งอยู่บนพื้นฐานของความเป็นจริง
ความสำเร็จที่ได้มาโดยง่าย คงไม่ใช่เรื่องล่าที่ทรงพลัง เท่ากับความสำเร็จที่ได้มาหลังจากฝ่าฟันอุปสรรค ล้มครั้งแล้วครั้งเล่า ก่อนจะลุกขึ้นใหม่ คลาน เดินและวิ่งสู่เส้นชัยที่ชื่อว่าความสำเร็จ สิ่งที่เลวร้ายมากในปัจจุบัน จะกลายเป็นเรื่องเล่าที่ทรงคุณค่าสำหรับตัวเราเอง และผู้อื่นในอนาคต
และสุดท้าย หากเราล้มได้เก่งพอ เราจะรู้วิธีล้ม รู้วิธีเก็บคองอเข่า รู้ท่าล้มที่จะทำให้เจ็บน้อยที่สุด เป็นธุรกิจที่มีภูมิคุ้มกัน ไม่เกรงกลัวเมื่อเจออุปสรรค และแข็งแกร่งขึ้นทุกครั้ง จากทุกบทเรียนที่ผ่านเข้ามา
เส้นทางการทำธุรกิจไม่ใช่ทางลาดยาง แต่เป็นทางวิบากที่อาจฉุดให้เราสะดุดได้ในทุกโค้ง แต่หลักคิดเหล่านี้จะทำให้ทุกการสะดุด เป็นจุดที่ทำให้เราเรียนรู้และเติบโต เพื่อให้เราล้มน้อยลง และเจ็บน้อยลง