โดยถือว่าเป็นเรื่องทีดีสำหรับกลุ่มผู้ที่มีความหลากหลายทางเพศ (LGBTQ) ที่จะได้รับสิทธิเท่าเทียม เนื่องจากในปัจจุบันประเทศไทยยังไม่มีกฎหมายให้การรับรองสิทธิในการก่อตั้งครอบครัวของคู่รักเพศเดียวกัน ซึ่งแตกต่างจากสภาพสังคมในปัจจุบันที่มีคู่รักเพศเดียวกันอาศัยอยู่ร่วมกันเป็นครอบครัวจำนวนมาก
รวมถึง การขาดเครื่องมือทางกฎหมายในการจัดการความสัมพันธ์ทางครอบครัว ส่งผลให้เกิดปัญหาต่อครอบครัวหลากหลายทางเพศหลายประการ เช่น สิทธิในการตัดสินใจในการรักษาพยาบาล สิทธิในการอุปการะเลี้ยงดูซึ่งกันและกัน สิทธิในการจัดการทรัพย์สินร่วมกัน และสิทธิในการรับมรดก
นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรมว.คลัง เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ได้รับรองกฎหมายสมรสเท่าเทียม โดยจะนำเข้าที่ประชุมรัฐสภา ในวาระที่สอง หลังจากเปิดสมัยประชุม วันที่ 12 ธันวาคมนี้
ขณะที่นายคารม พลพรกลาง รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เผยว่า “นายกรัฐมนตรีจึงมีข้อสั่งการ ให้กระทรวงยุติธรรมเร่งดำเนินการเสนอร่างพ.ร.บ.แก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ (สมรสเท่าเทียม) ซึ่งจะทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงที่สำคัญในประเทศไทยทั้งในมิติด้านสังคมและการสร้างครอบครัว”
โดยจะทำให้เกิดการยอมรับในทางกฎหมายกับการสร้างครอบครัว การอยู่ร่วมกันของบุคคลมีความหลากหลายทางเพศ รวมถึงก่อให้เกิดสิทธิและหน้าที่ของคู่สมรสเพศเดียวกัน โดยที่ประชุมครม. จึงเห็นชอบให้มีการแก้ไขประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ เพื่อรับรองสิทธิการก่อตั้งครอบครัวกรณีคู่รักเพศเดียวกัน ซึ่งกระทรวงยุติธรรมได้ดำเนินการตามขั้นตอนตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 77 กำหนดไว้แล้ว โดยมอบหมายให้สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาไปดำเนินการแก้ไขกฎหมายที่เกี่ยวข้องให้สอดคล้องกับกฎหมายแพ่งและพาณิชย์