สุกี้ตี๋น้อย ร้านสุกี้บุฟเฟ่ต์เจ้าดัง มาแรงไม่มีหลุดโค้ง ล่าสุด เจมาร์ท กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ เปิดเผยว่า สุกี้ตี๋น้อยมีกำไรเกือบ 1,000 ล้านบาทในปี 2566
บริษัท เจมาร์ท กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) เผยผลประกอบการปี 2566 ที่ผ่านมา โดยหนึ่งในไฮไลท์สำคัญคือ “สุกี้ตี๋น้อย” ธุรกิจสุกี้บุฟเฟต์ราคาประหยัดที่เจมาร์ทเข้าร่วมลงทุน 30% กวาดกำไรเกือบ 1,000 ล้านบาท สะท้อนให้เห็นถึงกลยุทธ์ที่ชาญฉลาดของเจมาร์ทในการขยายการลงทุนสู่ธุรกิจที่มีศักยภาพ
เพียง 1 ปีหลังจากร่วมลงทุน เจมาร์ทได้รับส่วนแบ่งกำไรจากสุกี้ตี๋น้อย 274 ล้านบาท คิดเป็น 30% ของกำไรสุทธิรวม 913 ล้านบาท ตัวเลขนี้แสดงให้เห็นถึง ศักยภาพอันแข็งแกร่ง ของสุกี้ตี๋น้อย ที่เวลานี้เป็นโมเดลธุรกิจที่แข็งแกร่ง และการบริหารจัดการที่มีประสิทธิภาพ ทำให้มีฐานลูกค้าที่เหนียวแน่นในเวลานี้
ปัจจุบัน สุกี้ตี๋น้อยมี 55 สาขาทั่วประเทศ เพิ่มขึ้น 13 สาขา จากปี 2565 โดย มีแผนขยายสาขา ออกต่างจังหวัด อย่างต่อเนื่อง ในปี 2566 ได้ขยายสาขา ไปยังจังหวัด เช่น ชลบุรี สุพรรณบุรี และนครราชสีมา ซึ่งได้รับการตอบรับจากลูกค้าเป็นอย่างดี สะท้อนถึงความต้องการ ของลูกค้าที่ต้องการทานสุกี้ ชาบู ในราคาคุ้มค่า รสชาติอร่อย และบริการที่ประทับใจ ตามด้วยแนวคิดการให้บริการที่เข้าถึงความต้องการของลูกค้าที่อยากทานสุกี้ ชาบู ที่มีราคาคุ้มค่าต่อการบริโภค
สำหรับผลประกอบการย้อนหลังของสุกี้ตี๋น้อยตลอด 3 ปีที่ผ่านมา
แม้จะได้รับส่วนแบ่งกำไรจาก “สุกี้ตี๋น้อย” 274 ล้านบาท แต่ บริษัท เจมาร์ท กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) ยังมีผลขาดทุนสุทธิ 447 ล้านบาท ในปี 2566 ลดลงจากปีก่อนหน้า 124.9% สาเหตุหลัก มาจาก ส่วนแบ่งขาดทุนจากเงินลงทุนในบริษัทร่วม และ ผลขาดทุนที่ยังไม่เกิดขึ้นจริงจากสินทรัพย์ทางการเงินอื่น รวม 843 ล้านบาท หากไม่รวมรายการนี้ บริษัทจะมีกำไรสุทธิจากการดำเนินงาน 396 ล้านบาท ผลประกอบการที่ขาดทุน ส่งผลให้บอร์ดเจมาร์ท มีมติงดจ่ายเงินปันผล ปี 2566 ให้แก่ผู้ถือหุ้น และกำหนดวันประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2567 ในวันที่ 5 เมษายน 2567 ในรูปแบบระบบไฮบริด
ที่มา: รายงานผลประกอบการ Jmart