ชาวคริสต์ในซีเรียประท้วงหนัก เหตุต้นคริสต์มาสถูกจุดไฟเผากลางเมือง
สำนักข่าวซีเอ็นเอ็นรายงานการเดินขบวนประท้วงของชาวคริสต์จำนวนมาก ในกรุงดามัสกัสและจังหวัดฮามาของประเทศซีเรีย เพื่อแสดงความไม่พอใจและเรียกร้องความเคารพจากชาวมุสลิม และความปลอดภัยจากรัฐบาลใหม่ของซีเรีย หลังมีคลิปวีดิโอเผยแพร่ภาพต้นคริสต์มาสขนาดใหญ่ถูกจุดไฟเผา และมีกลุ่มคน 5-6 คน ราดของเหลวลงไปบนต้นคริสต์มาส ซึ่งยังไม่เป็นที่แน่ชัดว่าเป็นการราดน้ำมันเติมเชื้อเพลิง หรือเป็นการราดน้ำเพื่อดับไฟ และยังไม่สามารถจับกุมผู้ก่อเหตุได้
คอนเทนต์แนะนำ
ทั้งนี้ ต้นคริสต์มาสที่ถูกจุดไฟเผาในคืนวันก่อนคริสต์มาส หรือ คริสต์มาสอีฟ และตั้งอยู่กลางวงเวียนบนถนนสายสำคัญของเมืองซุเกย์ลาบิยาห์ ในจังหวัดฮามา ซึ่งเป็นพื้นที่ของชุมชนชาวคริสต์ขนาดใหญ่ จึงสร้างความไม่พอใจเป็นอย่างมาก เนื่องจากพวกเขามองว่าเป็นการคุกคามชาวคริสต์ในซีเรีย
ด้านรัฐบาลใหม่จากกลุ่มกบฏฮายัต ตาห์รีร์ อัล-ชาม (HTS) นำโดยอะบู โมฮัมเหม็ด อัล-โจลานี ออกมาประกาศยืนยันจะปกป้องชนกลุ่มน้อยและชาวซีเรียทุกคน โดยมีวีดิโอเผยแพร่ภาพของตัวแทนรัฐบาลใหม่ซีเรีย ยืนอยู่ข้างบาทหลวงและกล่าวกับกลุ่มผู้ประท้วงว่าจะติดตั้งต้นคริสต์มาสต้นใหม่ในเช้าวันถัดไปให้เสร็จสมบรูณ์
เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นสามสัปดาห์หลังจากที่กลุ่มกบฏ HTS โค่นล้มระบอบของอดีตประธานาธิบดีบาชาร์ อัล-อัสซาดได้สำเร็จ ทำให้ชาวคริสเตียนในซีเรียเข้าร่วมกับชาวเลบานอนและดินแดนปาเลสไตน์เพื่อเฉลิมฉลองคริสต์มาส โดยก่อนหน้านี้ กลุ่มกบฏ HTS เคยประกาศหลังยึดเมืองอเลปโป เมืองที่ใหญ่เป็นอันดับสองของซีเรีย ระบุว่าพวกเขาจะให้อิสระในการนับถือศาสนา ซึ่งชาวคริสเตียนได้รับอนุญาตให้เฉลิมฉลองวันหยุดและปฏิบัติตามพิธีกรรมได้ รวมถึงโบสถ์และทรัพย์สินของพวกเขาจะได้รับการปกป้อง
สถานภาพชาวคริสต์ในภูมิภาค
แม้ว่ารัฐบาลใหม่จะออกมาประกาศให้ความคุ้มครองชนกลุ่มน้อยและชาวคริสต์ในซีเรีย แต่ชาวคริสต์ในซีเรียก็ยังรู้สึกหวาดกลัวต่อภัยคุกคามที่เกิดขึ้นได้ทุกเมื่อ โดยเฉพาะเหตุการณ์เผาต้นคริสต์มาสที่เกิดขึ้นยิ่งเป็นภาพสะท้อนความขัดแย้งทางศาสนาภายในซีเรียและหลายประเทศโดยรอบ
จอร์จ ชาวคาธอลิกวัย 24 ปีจากกรุงดามัสกัส ออกมาร่วมเดินขบวนประท้วงที่มุ่งหน้าไปยังโบสถ์กลางเมืองหลวง เปิดเผยกับซีเอ็นเอ็นว่า ต้นคริสต์มาสและของตกแต่งเทศกาลถูกประดับประดาอยู่ทั่วกรุงดามัสกัสก็จริง แต่ชาวคริสต์กลับไม่ได้อยากออกไปเฉลิมฉลองกันข้างนอก เพราะกลัวไม่ปลอดภัย และเชื่อว่าความหวาดกลัวที่เกิดขึ้นเนื่องจากกลุ่มกบฏ HTS ไม่ได้ประกาศวันหยุดสำหรับวันคริสต์มาส และตั้งแต่เกิดเหตุต้นคริสต์มาสถูกเผา รัฐบาลก็ยังไม่มีระบบรักษาความปลอดภัยที่เหมาะสมและไม่มีการจัดระเบียบใด ๆ เลย
ขณะที่ความตึงเครียดด้านความขัดแย้งทางศาสนาในภูมิภาคเองก็ยังไม่ดีขึ้น ในปีนี้ นับเป็นปีที่สองแล้ว ที่จะไม่มีการติดตั้งต้นคริสต์มาส ในเมืองเบธเลเฮม ในอิสราเอล ซึ่งเป็นเมืองประสูติของพระเยซู นับตั้งแต่สงครามฉนวนกาซาเริ่มต้นขึ้นเมื่อปีที่แล้ว ภายหลังจากการโจมตีของกลุ่มฮามาสในภาคใต้ของอิสราเอล เมืองเบธเลเฮมที่ถูกอิสราเอลยึดครองต้องตกอยู่ภายใต้ "ภาวะโดดเดี่ยวอย่างรุนแรง" เนื่องมาจากข้อจำกัดที่เข้มงวด ทั้งระงับการท่องเที่ยว ห้ามไม่ให้ผู้แสวงบุญเดินทางเข้ามายังพื้นที่
นายแอนตัน ซัลมาน นายกเทศมนตรีเมืองเบธเลเฮม เปิดเผยว่า เศรษฐกิจของเมืองต้องหยุดชะงัก รายได้สูญหายไปอย่างน้อย 600 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ และอัตราการว่างงานพุ่งสูงขึ้นกว่า 36% ขณะที่ระดับความยากจนเพิ่มสูงขึ้น เนื่องจากผู้อยู่อาศัยในเมืองเบธเลเฮมเกือบ 30% ขาดรายได้อย่างหนักเนื่องจากไม่มีนักท่องเที่ยว
