ชลบุรี ขึ้นแท่นจุดหมายใหม่ล่าสุดที่จะได้รับการคัดสรรและจัดอันดับร้านอาหารในคู่มือ ‘มิชลิน ไกด์’ ประเทศไทย ฉบับประจำปี 2568
คู่มือ ‘มิชลิน ไกด์’ ประเทศไทย มีบทบาทสำคัญในการเผยแพร่อาหารไทยบนเวทีโลกและทำให้ประเทศไทยเป็นที่รู้จักในฐานะจุดหมายด้านการท่องเที่ยวเชิงอาหารชั้นนำระดับโลก
จังหวัดชลบุรี เป็นพื้นที่ล่าสุดที่กำลังจะมีร้านอาหาร ถูกจัดอันดับอยู่ในคู่มือ ‘มิชลิน ไกด์’ ประเทศไทย นอกเหนือจากกรุงเทพฯ ที่ถูกจัดอันดับมาตั้งแต่ปี 2561, จังหวัดปริมณฑล นนทบุรี ปทุมธานี นครปฐม สมุทรสาคร และสมุทรปราการ รวมถึง ภูเก็ตและพังงา ถูกจัดอันดับตั้งแต่ปี 2562 ต่อมาคือ เชียงใหม่ ถูกจัดอันดับตั้งแต่ปี 2563 พระนครศรีอยุธยา ตั้งแต่ปี 2565 ขณะที่ในภาคอีสาน ได้แก่ นครราชสีมา, อุบลราชธานี, อุดรธานี และ ขอนแก่นถูกจัดอันดับ ตั้งแต่ปี 2566 ส่วนปีนี้เกาะสมุยและสุราษฎร์ธานี ถูกจัดอันดับตั้งแต่ปี 2567
การขยายขอบเขตพื้นที่จัดทำคู่มือ ‘มิชลิน ไกด์’ ประเทศไทย ครั้งนี้ถือเป็นอีกก้าวสำคัญที่ช่วยตอกย้ำให้เห็นถึงความหลากหลายและอัตลักษณ์ที่โดดเด่นของอาหาร ตลอดจนบรรยากาศที่เปี่ยมชีวิตชีวาของแวดวงอาหารในแต่ละท้องถิ่นของไทย
หากเราพูดถึงจังหวัดชลบุรี หลายๆคนคงนึกถึง จังหวัดท่องเที่ยวชื่อดัง ที่มีทั้งชายหาดขาว น้ำทะเลใส และอาหาเลสดใหม่ เมืองตากอากาศที่อยู่ไม่ไกลกรุงเทพฯเพียงแค่ 80 กิโลเมตร แต่จริงๆแล่วชลบุรียังมีสถานที่ท่องเที่ยวอื่นๆที่หลากหลาย ของกินของอร่อยที่น่าลิ้มรสที่เรายังไม่รู้จำนวนมาก และนี่คือสาเหตุที่ให้ มิชลิน ไกด์ ประเทศไทย เปิดตัว หมุดหมายใหม่ในคู่มือ ‘มิชลิน ไกด์’ ประเทศไทย ฉบับประจำปี 2568 ที่จะมีกำหนดเผยแพร่ในไตรมาสสุดท้ายของปีนี้
“ชลบุรีเป็นแหล่งท่องเที่ยวคุณภาพซึ่งมีทั้งชายหาดที่งดงาม วัดที่เงียบสงบ ประเพณีวัฒนธรรมท้องถิ่น กิจกรรมตามเทศกาลต่าง ๆ ไปจนถึงร้านอาหารและรถเข็นขายอาหารริมทาง และสถานบันเทิงยามค่ำคืนที่น่าตื่นตาตื่นใจ ทั้งยังโดดเด่นเป็นพิเศษในเรื่องอาหารทะเลสดใหม่ อาหารท้องถิ่นที่ไม่เหมือนใคร รวมถึงบรรยากาศการทานอาหารริมชายหาด องค์ประกอบเหล่านี้ทำให้ชลบุรีเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่มีชีวิตชีวา ทีมผู้ตรวจสอบของมิชลิน ไกด์ รู้สึกตื่นเต้นและแทบอดใจรอไม่ไหวที่จะออกสำรวจและคัดสรรร้านอาหารในพื้นที่นี้” เกว็นดัล ปูลเล็นเนค (Gwendal Poullennec) ฝ่ายจัดทำคู่มือ ‘มิชลิน ไกด์’ ทั่วโลก กล่าว ผู้อำนวยการ
ชลบุรีเป็นจังหวัดริมฝั่งทะเลซึ่งอยู่ห่างจากกรุงเทพฯ เพียงประมาณ 80 กิโลเมตร จึงเป็นสถานที่พักผ่อนยอดนิยมที่ใกล้ที่สุดสำหรับคนกรุงเทพฯ ที่ต้องการหลบหนีความวุ่นวายจากงานที่เคร่งเครียด รวมทั้งสำหรับนักท่องเที่ยวชาวไทยและชาวต่างชาติที่เดินทางมาไกลจากหลากหลายพื้นที่ สถานที่ท่องเที่ยวในจังหวัดชลบุรีสามารถตอบสนองความต้องการของนักท่องเที่ยวได้หลากหลายกลุ่ม นอกจากประเพณีท้องถิ่น อาหารประจำภูมิภาค และอาหารทะเลสดใหม่แล้ว ชลบุรียังเป็นสวรรค์ของคนรักชายหาดโดยมีจุดท่องเที่ยวสำคัญอย่างบางแสน พัทยา และเกาะล้าน
ททท.ได้ตั้งเป้า การเปิดหมุดหมายใหม่ของคู่มือ ‘มิชลิน ไกด์’ ประเทศไทย ในครั้งนี้ จะสามารถดึงดูดนักท่องเที่ยวให้แก่จังหวัดชลบุรีเพิ่มขึ้น 20% โดย อาหาร จะเป็นตัวแปรสำคัญที่ทำให้นักท่องเที่ยวต้องอยากมาชิม อยากมาลิ้มรสความอร่อยด้วยตนเอง
อีกทั้ง ยังผลักดันให้จังหวัดชลบุรี เป็น จุดหมายปลายทางที่หลากหลายให้แก่นักท่องเที่ยวที่หลากหลายกลุ่ม ไม่ว่าจะเป็น กลุ่มครอบครัว, กลุ่มคู่รัก, กลุ่มเพื่อน และกลุ่มนักชิม
ด้านฐาปนีย์ เกียรติไพบูลย์ ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย กล่าวถึงคู่มือ ‘มิชลิน ไกด์’ ประเทศไทย ว่ามีบทบาทสำคัญในการเผยแพร่อาหารไทยบนเวทีโลกและทำให้ประเทศไทยเป็นที่รู้จักในฐานะจุดหมายด้านการท่องเที่ยวเชิงอาหารชั้นนำระดับโลก จึงเป็นกำลังสำคัญในการสนับสนุนยุทธศาสตร์ซอฟต์พาวเวอร์แห่งชาติของภาครัฐซึ่งมุ่งเน้น 5 ด้าน (5Fs) ได้แก่ อาหาร (Food), แฟชั่น (Fashion), ภาพยนตร์ (Film), มวยไทย (Fight) และเทศกาล (Festival) เพื่อยกระดับศักยภาพทางการแข่งขันด้านการท่องเที่ยวของประเทศไทยในตลาดโลก
“ศาสตร์และศิลป์ด้านอาหารที่โดดเด่นและหลากหลายเป็นหนึ่งในซอฟต์พาวเวอร์หรืออิทธิพลทางวัฒนธรรมที่ดึงดูดให้นักท่องเที่ยวจากทั่วโลกเดินทางมาเยือนประเทศไทย การที่ ‘มิชลิน ไกด์’ ในฐานะคู่มืออ้างอิงด้านอาหารที่ทรงอิทธิพลต่อผู้คนทั่วโลก เผยแพร่ความหลากหลายและความน่าสนใจของอาหารและบรรยากาศแวดล้อมด้านอาหารในประเทศไทย ถือเป็นการเสริมสร้างประสบการณ์การท่องเที่ยวไทยให้มีความหมายยิ่งขึ้น ทั้งนี้ เราเชื่อมั่นว่าการขยายขอบเขตจัดทำคู่มือ ‘มิชลิน ไกด์’ ประเทศไทย ไปยังจังหวัดชลบุรี จะส่งผลดีหลายด้าน...ทั้งต่อตัวจังหวัดเองและต่อประเทศ อาทิ เพิ่มมูลค่าทางการตลาดให้กับธุรกิจร้านอาหาร, ส่งเสริมวัตถุดิบในท้องถิ่น, สร้างมูลค่าเพิ่มทางเศรษฐกิจให้กับชุมชน, กระตุ้นให้เกิดการพัฒนาความเป็นเลิศทั้งด้านคุณภาพอาหารและการบริการ โดยชูแนวคิดการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน หรือ Sustainable Tourism เป็นแรงขับเคลื่อนการเติบโตทางเศรษฐกิจของประเทศในภาพรวม” คุณฐาปนีย์ สรุปปิดท้าย