SCBX ออกแถลงการณ์ แจ้งยุติการให้บริการแอปพลิเคชัน ‘Robinhood’ ของ เพอร์เพิล เวนเจอร์ส ซึ่งเป็นบริษัทภายใต้กลุ่ม SCBX มีผลตั้งแต่วันที่ 31 กรกฎาคม 2567 เวลา 20.00 น. เป็นต้นไป หลังจากบรรลุภารกิจช่วยเหลือร้านค้า ไรเดอร์ และคนตัวเล็กในช่วงวิกฤตโควิดได้ตามเป้าประสงค์ที่ตั้งไว้
โดยภายในแถลงการณ์ SCBX เผยว่า ตลอดระยะเวลาสี่ปีที่ผ่านมา Robinhood ได้เป็นส่วนหนึ่งในการช่วยบรรเทาความเดือดร้อนของร้านอาหารและธุรกิจต่างๆ ในกรุงเทพฯ ปริมณฑล และหัวเมืองท่องเที่ยวในช่วงโควิด-19 ที่ผ่านมา จนผู้ประกอบการหลายรายสามารถผ่านพ้นวิกฤต กลับเข้าสู่สภาวะปกติได้ รวมถึงได้สร้างงานให้กับไรเดอร์หลายหมื่นชีวิต
ในส่วนของลูกค้าที่บริการแอปฯ Robinhood ได้ทำหน้าที่เสมือนตัวกลางที่ช่วยให้ผู้บริโภคมีทางเลือกที่หลากหลายในราคาที่เป็นธรรมมาโดยตลอด จนกลายเป็นแพลตฟอร์มแห่งการช่วยเหลือกันในช่วงเวลาวิกฤตของประเทศ โดยการสนับสนุนทางการเงินอย่างเต็มที่จากกลุ่มเอสซีบี เอกซ์ ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา
เมื่อการแพร่ระบาดของโควิด-19 ผ่านไป ธุรกิจต่างๆ กลับเข้าสู่สภาวะปกติแล้ว Robinhood จึงตัดสินใจยุติบทบาทลง และกลุ่ม SCBX หวังว่า จะยังคงได้รับการสนับสนุนจากลูกค้าและพันธมิตรทางธุรกิจในส่วนของแพลตฟอร์มอื่นๆ ของบริษัททั้งในปัจจุบันและที่จะมีขึ้นในอนาคตต่อไป
โดยแอปพลิเคชั่น Robinhood, Robinhood Shop, Robinhood Rider, และ Robinhood Driver จะเปิดให้ทำธุรกรรมต่างๆ ได้จนถึงวันที่ 31 กรกฎาคม 2567 เวลา 20.00 น. หากมีข้อสงสัยเพิ่มเติมติดต่อ Robinhood Call Center โทร. 02-777-7564
เปิดงบการเงิน พบขาดทุนทุกปี
ในขณะที่ งบกำไรขาดทุนข้อมูลปีงบการเงิน 2563-2566 ของ บริษัท เพอร์เพิล เวนเจอร์ส จำกัด พบว่าขาดทุนตลอดมานับตั้งแต่บริษัทจดทะเบียนในวันที่ 13 กรกฎาคม 2563:
ปี 2563 รายได้รวม 81,549 บาท ขาดทุนสุทธิ 87,829,231 บาท
ปี 2564 รายได้รวม 15,788,999 บาท ขาดทุนสุทธิ 1,335,375,337 บาท
ปี 2565 รายได้รวม 538,245,295 บาท ขาดทุนสุทธิ 1,986,837,776 บาท
ปี 2566 รายได้รวม 724,446,267 บาท ขาดทุนสุทธิ 2,155,727,184 บาท
นอกจากนี้ ยังพบว่า เพอร์เพิล เวนเจอร์ส มีประวัติการเปลี่ยนแปลงทุนจดทะเบียนทั้งหมด 6 ครั้ง หลังจากที่จดทะเบียนครั้งแรกด้วยทุนจดทะเบียน 300,000,000 ล้านบาทดังนี้:
ครั้งที่ 1 วันที่ 12 พ.ค. 2564 มูลค่า 900,000,000 บาท
ครั้งที่ 2 วันที่ 11 ต.ค. 2564 มูลค่า 2,600,000,000 บาท
ครั้งที่ 3 วันที่ 05 พ.ค. 2565 มูลค่า 3,000,000,000 บาท
ครั้งที่ 4 วันที่ 29 ก.ย. 2565 มูลค่า 5,000,000,000 บาท
ครั้งที่ 5 วันที่ 27 เม.ย. 2566 มูลค่า 6,500,000,000 บาท
ล่าสุด วันที่ 21 ก.ค. 2566 มูลค่า 8,300,000,000 บาท